xs
xsm
sm
md
lg

ศรีสะเกษสุดช้ำ! รุมตราหน้า “หุ่นเชิด” ขายชาติ - เขมรรุกเชิง “เขาพระวิหาร” ฉลองชัยทั้งคืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การลุกฮือของชาวกันทรลักษ์ จ.ศรีเกษ เพื่อทวงคืนเขาพระวิหาร ค้านขึ้นทะเบียนมรดกโลก ช่วงที่ผ่านมาไม่เพียงพอต้านทานรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติได้
ศรีสะเกษ - ชาวกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษเศร้าทั้งเมือง หลังคณะกรรมการมรดกโลก องค์การยูเนสโก มีมติรับปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว พร้อมรุมตราหน้ารัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ รวมทั้ง “นพเหล่” ตัวชนวนทำไทยเสียดินแดนเป็นที่ 15 จี้ลาออก ขณะชาวกัมพูชาตั้งชุมนุมรุกล้ำเขตแดนไทย ที่เชิงเขาพระวิหารชาวกัมพูชา เปิดเพลงยิงสลุดฉลองชัยคึกคักทั้งคืน ด้านเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนศรีสะเกษ นัดหารือเตรียมเคลื่อนไหวคัดค้านครั้งใหญ่

วันนี้ (8 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังคณะกรรมการมรดกองค์การยูเนสโกได้มีมติรับขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ตามคำขอของกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว ปรากฏว่าบรรยากาศในเขตพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นอำเภอชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ตั้งของประสาทพระวิหารเป็นไปอย่างเงียบเหงา ชาวกันทรลักษ์พากันจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง ขณะที่บางส่วนนั่งติดตามข่าวความเคลื่อนไหวการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ทั้งทางโทรทัศน์และสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

เช่นเดียวกับสภากาแฟอำเภอกันทรลักษ์ กลุ่มสมาชิกสภากาแฟต่างวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันเป็นหลัก รวมถึงอนาคตของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชน นายกรัฐมนตรี และชะตากรรม ของนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ที่ถูกประชาชนรุมตราหน้าว่าเป็นรัฐบาลขายชาติไปแล้ว โดยเฉพาะนายนพดลผู้เป็นชนวนนำประเทศไทยไปสู่การสูญเสียดินแดนและอธิปไตยบนเขาพระวิหาร

นายสนอง ห้วยจันทร์ ประธานประชาคมอำเภอกันทรลักษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้พวกเราเสียใจมาก เพราะเป็นการยืนยันที่ชัดเจนแล้วว่า ประเทศไทยได้เสียดินแดนเป็นครั้งที่ 15 หลังจากที่ประวัติศาสตร์ไทยได้จารึกการสูญเสียดินแดนให้กับต่างชาติมาแล้ว 14 ครั้ง

การที่ปราสาทพระวิหารได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายดียว รัฐบาลนายสมัครต้องชี้แจงกับประชาชนว่าเพราะเหตุใดไทยจึงพ่ายแพ้กัมพูชาอีกเป็นครั้งที่ 2 หลังจากดราสูญเสียอธิปไตยเหนือซากปราสาทพระวิหาร ตามคำพิพากษาของศาลโลกไปในเมื่อปี 2505 ที่ผ่านมา และที่สำคัญรัฐบาลชุดนี้ต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างสูงสุด เพราะหมดความชอบธรรมที่จะอยู่บริหารประเทศชาติต่อไปโดยสิ้นเชิงแล้ว

ขณะเดียวกัน ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทางผ่านชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นสู่ปราสาทพระวิหาร บรรยากาศก็เงียบเหงาเช่นกัน ส่วน“กลุ่มธรรมยาตรา กอบกู้รักษาแผ่นดินไทย กรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรณพ” ที่มาปักหลักนั่งปฏิบัติธรรมชุมนุมประท้วง ทวงคืนเขาพระวิหารค้านขึ้นทะเบียนมรดกโลก และผลักดันชาวกัมพูชาออกจากเขตแดนไทย บริเวณเชิงเขาพระวิหารตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่างพากันนั่งจับกลุ่มพูดคุยในเรื่องประสาทพระวิหาร ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และไม่เห็นด้วยกับมติของยูเนสโกในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าผิดไปจากข้อเท็จจริงจริงในพื้นที่เป็นอย่างมาก

ขณะที่ ชาวกัมพูชา ซึ่งรุกล้ำเขตแดนไทยเข้ามาปักหลักตั้งชุมนุม ร้านค้าอยู่บริเวณเชิงเขาพระวิหารตั้งแต่ปี 2543 ต่างพากันโห่ร้องแสดงความยินดีที่ปราสาทพระวิหารได้รับความเห็นชอบขึ้นทะเบียนเป็นมรดกจากยูเนสโก

นายสุขุม วงประสิทธิ ผู้ประสานกลุ่มธรรมยาตราฯ กล่าวว่า ตลอดคืนวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มชาวกัมพูชาที่สร้างบ้านเรือนอยู่ที่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร ได้พากันเปิดเพลง ร้องเพลงฉลองชัยกันตลอดคืน จนกระทั่งฝนตกจึงได้พากันหยุด และมีเสียงคล้ายกับเสียงปืนยิงสลุดดังขึ้น 3 ครั้งติดต่อกันด้วย

ส่วน นายสมาน ศรีงาม แกนนำกลุ่มธรรมยาตราฯ ได้เดินทางไปยังสำนักงานสหประชาชาติที่กรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือขอให้สหประชาชาติดำเนินการตามอนุสัญญาโตเกียว พ.ศ.2484 ด้วย และขณะนี้กลุ่มเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนและ เครือข่ายพันธมิตรฯ ในเขตพื้นที่จ.ศรีสะเกษ ได้มีการประสานงานเพื่อหารือกันในการเตรียมเคลื่อนไหวคัดค้านมติ ของยูเนสโก ที่ให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแล้ว

“กลุ่มแกนนำองค์กรเครือข่ายทั้งหมด เช่น นายสนอง ห้วยจันทร์ ประธานประชาคมอำเภอกันทรลักษ์, นายรณชิต ทุ่มโมง ประธานสมัชชาเกษตรกรรายย่อยจังหวัดศรีสะเกษ และนายกิตติศักดิ์ พ้นภัย แกนนำกลุ่มรักษ์บ้านเกิดอำเภอกันทรลักษ์จะประชุมหารือกันในเย็นวันนี้ เพื่อเตรียมการจัดชุมนุมใหญ่คัดค้านมติของยูเนสโกในครั้งนี้” นายสุขุม กล่าว
นายสนอง ห้วยจันทร์ ประธานประชาคมอำเภอกันทรลักษ์
ชาวกัมพูชา ที่รุกล้ำเขตแดนไทย มาตั้งชุมนุมอยู่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร
กำลังโหลดความคิดเห็น