“สมเกียรติ” เปิดยุทธการดาวกระจายนัด “แนวร่วมพันธมิตรฯ” บุก ป.ป.ช.โดยสุภาพ เพื่อยื่นถอดถอน “คณะรัฐบาล” วันนี้ เหตุเพราะยังดึงดันที่จะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อลดทอน-บดขยี้อำนาจศาล กร้าว “พันธมิตรฯ” พร้อมขวางสุดตัวเพื่อค้ำจุน “เสาหลัก” ของประเทศไทย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
วานนี้ (13 ก.ค.) เมื่อเวลา 21.45 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี รับเงินสินบน 400 ล้านเยน หรือ 123 ล้านบาท กรณีขุดอุโมงค์ว่า วันนี้ นายสมัคร เอาเรื่องนายทานากะ เสียชีวิตในคุกมาพูดเพื่อปลอบใจตัวเอง ซึ่งถ้าคิดเช่นนั้นเราก็จะได้สวดส่งให้ไปเลย ที่สำคัญในวันที่ 14 ก.ค.นี้ เราจะใช้อำนาจหน้าที่ของประชาชนตามมาตรา 275 ของรัฐธรรมนูญ โดยยื่นต่อ ป.ป.ช.องค์คณะ 9 คน ถ้า ป.ป.ช.รับเรื่องไว้แล้วไต่สวน โดยมีมติอย่างน้อย 5 ต่อ 4 เสียง คณะรัฐมนตรีทั้งชุดจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ฉะนั้นขอให้รอ เพราะคาดว่าจะใช้เวลาไม่กี่วัน
นายสมเกียรติ ยังกล่าวถึงวันที่ศาลโลกตัดสินกรณีเขาพระวิหาร ว่า จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกฯ ยืนยันว่าจะเอาเขาพระวิหารกลับคืนมาให้ได้ ทำให้คนไทยทั้งประเทศต้องหลั่งน้ำตา หลังจากนั้นประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ได้เอากระบือไปเขียนชื่อสีหนุ ผู้นำประเทศกัมพูชา แล้วนำมาเดินขบวนทั่วประเทศไทย จากนั้นไทยจับนายทองแดง กมวาน เจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชา ในข้อหาจลาจล ต่อมากัมพูชาสู้ไม่ได้ จึงไปล้อมจับเอาเจ้าหน้าที่สถานทูตของไทยไป 3 คน คือ ดร.สาวิทย์ การีเวทย์ เลขานุการโท นายยุทธนา เปรมัทเสถียร นายอดสร ทวีสุข พร้อมด้วยครอบครัวรวม 7 คน เอาไปเป็นตัวประกัน จนเรื่องถึงองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น โดยเอาตัวประกันไปแลกกันที่บริเวณชายแดน จากนั้นก็ด่ากันเละ วันนี้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย คนไทยด่าอย่างเดียว แต่เขมรไม่สนใจกลับเฉลิมฉลองอย่างเดียว
“ตั้งแต่ปี 2505 เขาพระวิหารปิดมานานกว่า 31 ปี จนมีคนเข้าไปขโมยเอาวัตถุโบราณจนเกลี้ยง เหลือแต่เสา และสระตาว จนกระทั่งวันที่ 9 มิ.ย.2535 จึงได้มีการทดลองเปิดเขาพระวิหาร ซึ่งพอเปิดปั๊บ เขมรแดงนำโดยนายพอลพต กำลังทำสงครามเพื่อยึดอำนาจจากสีหนุ ทำให้เขมรแดงจึงยึดเอาเขาพระวิหาร แล้วขายทุกสิ่งทุกอย่าง ต่อมาในปี พ.ศ.2541 เขมรแดงแพ้สงครามโดยสิ้นเชิง จึงได้ทดลองเปิดเขาพระวิหารครั้งที่ 2 ในวันที่ 1 ส.ค.2551 แต่เขมรฉลาด ส่งคนเข้ามาอยู่ยึดครองที่ดินของเรากว่า 4.6 กิโลเมตร โดยสร้างร้านค้ากว่า 500 ร้าน พร้อมทั้งสร้างวัดแบบถาวร” นายสมเกียรติ ระบุ
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ขึ้นเครื่องบินไปตรวจสถานที่ทางอากาศ จึงเห็นร้านค้า และวัดของเขมร แม่ทัพภาคที่ 2 จึงเปล่งวาจาออกมาว่า “กอแล่วแต๊” และพอเกิดชุมนุมตลาดร้านค้าทางขึ้นเขาพระวิหาร ก็เกิดสิ่งปฏิกูลไหลเข้าไปในสระตาว ทำให้ราษฎรไทย 5 หมู่บ้านเดือดร้อน ทหารไทยจึงสั่งปิดทางเข้าเขาพระวิหารเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2544 ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ ต่อมาหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้คุยกับฮุนเซน แล้ว จึงได้ส่งนายจาตุรนต์ ฉายแสง ไปประชุมกับฮุนเซน ที่เสียมเรียบ แล้วสั่งเปิดเขาพระวิหาร
“วันนี้ 13 ก.ค.2551 หลังจากที่เขมรมายึดครอง 6 ปี กว่า ทหารไทยเพิ่งตื่นสั่งจัดสัมมนา เพื่อประชุมระดมความคิดเห็น โดย พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ออกมาเปิดเผยภายหลังการประชุม โดยใช้เวลาเถียงกัน 7 ชั่วโมง จึงมีข้อสรุป 3 ข้อดังนี้ 1.ชาวกัมพูชาที่เข้ามาสร้างหมู่บ้านกว่า 500 ครอบครัวนั้น ทหารจะเร่งผลักดันให้ออกไปนอกพื้นที่ แต่ไม่ได้บอกว่าเมื่อใด และคาดว่าน่าจะทำได้ประมาณ พ.ศ.2600 เพราะสมองไม่ได้คิด แถมยังบอกอีกว่า จะต้องได้รับความร่วมมือจากกระทรวงต่างประเทศ และคณะกรรมการประสานงานระหว่างประเทศ แต่คงไม่ได้แล้ว เพราะเขาส่งคณะกรรมการ 7 ชาติ เข้าไปดูแลบริเวณโดยรอบเขาพระวิหารเรียบร้อยแล้ว” นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า 2.ทหารจะมีการล้อมรั้วลวดหนามรอบตัวปราสาทเขาพระวิหาร เพื่อไม่ให้ใครออกมา ซึ่งข้อสรุปนี้ดูเหมือนจะเข้าท่า แต่ในอดีตทหารเคยล้อมรั้วลวดหนามไปแล้วในเดือน ก.ค.2505 แต่กลับปล่อยปละละเลย ดังนั้นดรณีดังกล่าวจึงเป็นแค่เพียงการเปลี่ยนรั้วลวดหนามเท่านั้น 3.การดำเนินการใดๆ จะต้องโปร่งใส โดยให้ประชาชนมีส่วนรับรู้ ซึ่งกระทรวงต่างประเทศควรทำหนังสือชี้แจงเข้าใจง่ายกรณีขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ พล.อ.บุญสร้าง ที่เลิกหุบปากแล้ว หลังจากที่นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ สั่งเป็นวาจาให้ทหารหุบปากมานานถึง 31 วัน
“วันนี้ผมขับรถไปจอดรถไม่ถูกที่จึงโดนตำรวจเรียก โดยเขาขอดูใบขับขี่ ผมบอกว่าไม่มี มีแต่บัตรพันธมิตรฯ ตำรวจจึงขอลายเซ็นแทน ผมจึงต้องขอคารวะขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อย เพราะเขาเหล่านั้นเงินโบนัสเขาก็ไม่ได้ แถมเดือนเบี้ยเลี้ยงก็ถูกหัก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 กว่า 1,000 คน ยังไม่ได้เงินประจำตำแหน่ง 3,000 บาท นานกว่า 5 เดือนแล้ว จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่เร่วงจัดการ เพราะอาจจะเกิดการเรียกร้องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ เราจะไป ป.ป.ช.โดยสุภาพ โดยเราจะไปยื่นเรื่องให้ดำเนินการถอดถอนคณะรัฐมนตรี แต่ตอนนี้รัฐบาลอ่านเกมออก จึงคิดที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลดทอนอำนาจศาล เพราะศาลเป็นเป้าหมายเดียวที่ระบอบทุนนิยมสามานย์จ้องจะบดขยี้ ดังนั้น พันธมิตรฯ จึงต้องค้ำจุนให้ศาลเป็นเสาหลักของชาติต่อไป” นายสมเกียรติ กล่าว