ตำรวจเรียกคนขับซาเล้งเก็บของเก่า 4 รายในละแวกบ้านเก่า “กฤษฎา พันธุ์คงชื่น” สอบหาตัวโจรเข้าฉกของเก่า แต่ยังไม่พบพิรุธ ขณะเดียวกันส่ง จนท.ลงตรวจร้านรับซื้อของเก่า-โรงรับจำนำ เพื่อตามทรัพย์สินคืน เชื่อมือดีน่าจะมาคนเดียว เมื่อได้ของหนีได้ไว เพราะจุดเกิดเหตุอยู่ในซอยตัน คนไม่พลุกพล่าน ประกอบกับเหตุเกิดเวลากลางคืนจึงไม่มีใครเห็นเหตุการณ์
จากกรณีที่มีคนร้ายบุกเข้าไปขโมยของในบ้านเก่าของ พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ชน.ย่านห้วยขวาง ซึ่งปัจจุบัน พล.ต.ท.กฤษฎา ได้ย้ายไปอยู่ย่านอนุเสาวรีย์ฯ และได้ให้ น.ส.แป๋ว เรืองอร่าม อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นแม่บ้านของ พล.ต.ท.กฤษฎา คนปัจจุบันหมั่นไปดูแลทำความสะอาด โดยคนร้ายได้อาศัยจังหวะคนไม่อยู่เข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สินไปหลายรายการ เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นคนเก็บของเก่าเข้ามาก่อเหตุ
ความคืบหน้า วันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ต.ภูเมศ อั้งสุวรรณกูล สว.สส.สนห้วยขวาง เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุขึ้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ลงพื้นหาข้อมูลเบาะแสของคนร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวคนขับซาเล้งเก็บของเก่าขายในละแวกดังกล่าว หรือที่เข้าไปเก็บของเก่าในละแวกนั้นเป็นประจำมาสอบปากคำแล้วจำนวน 4 ราย ก็ยังไม่พบพิรุธใดๆ โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปตามร้านรับซื้อของเก่าและโรงรับจำนำในละแวกใกล้เคียงเพื่อสอบถามว่ามีใครนำของกลางที่หายไปมาขายหรือจำนำบ้างหรือไม่
“จากการสอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียงก็ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์แต่อย่างใด เนื่องจากในวันเวลาที่เกิดเหตุเป็นช่วงเวลากลางคืน และซอยดังกล่าวเป็นซอยตันจึงไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่าน ประกอบกับผู้เสียหายไม่ค่อยได้อยู่บ้านจึงสบโอกาสที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุได้ง่าย ซึ่งคาดว่าหลังจากคนร้ายก่อเหตุแล้วก็ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในตรอกซอกซอยใกล้เคียง และคงมาคนเดียวจึงไม่เป็นที่สังเกต หลังจากนี้จะเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”
จากกรณีที่มีคนร้ายบุกเข้าไปขโมยของในบ้านเก่าของ พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ชน.ย่านห้วยขวาง ซึ่งปัจจุบัน พล.ต.ท.กฤษฎา ได้ย้ายไปอยู่ย่านอนุเสาวรีย์ฯ และได้ให้ น.ส.แป๋ว เรืองอร่าม อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นแม่บ้านของ พล.ต.ท.กฤษฎา คนปัจจุบันหมั่นไปดูแลทำความสะอาด โดยคนร้ายได้อาศัยจังหวะคนไม่อยู่เข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สินไปหลายรายการ เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นคนเก็บของเก่าเข้ามาก่อเหตุ
ความคืบหน้า วันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ต.ภูเมศ อั้งสุวรรณกูล สว.สส.สนห้วยขวาง เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุขึ้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ลงพื้นหาข้อมูลเบาะแสของคนร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวคนขับซาเล้งเก็บของเก่าขายในละแวกดังกล่าว หรือที่เข้าไปเก็บของเก่าในละแวกนั้นเป็นประจำมาสอบปากคำแล้วจำนวน 4 ราย ก็ยังไม่พบพิรุธใดๆ โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปตามร้านรับซื้อของเก่าและโรงรับจำนำในละแวกใกล้เคียงเพื่อสอบถามว่ามีใครนำของกลางที่หายไปมาขายหรือจำนำบ้างหรือไม่
“จากการสอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียงก็ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์แต่อย่างใด เนื่องจากในวันเวลาที่เกิดเหตุเป็นช่วงเวลากลางคืน และซอยดังกล่าวเป็นซอยตันจึงไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่าน ประกอบกับผู้เสียหายไม่ค่อยได้อยู่บ้านจึงสบโอกาสที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุได้ง่าย ซึ่งคาดว่าหลังจากคนร้ายก่อเหตุแล้วก็ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในตรอกซอกซอยใกล้เคียง และคงมาคนเดียวจึงไม่เป็นที่สังเกต หลังจากนี้จะเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”