อดีต “ม็อบไข่แม้ว” ปลุกระดมผ่าน PTV ชี้ไม่เกิน 10 วัน เป่านกหวีดรวมพล หนุนแก้ รธน. ที่สนามหลวงแน่ ด้าน“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” แสดงความไร้สำนึก ผ่านจอ ด่า “ครูอารมณ์” ก็แค่คนที่เคยให้ข้าวกิน ทำอย่างกับมีบุญคุณซะเหลือเกิน - ยังปากเก่ง ท้า “พล.อ.ปฐมพงษ์” อยากจะฆ่าก็ให้มาได้เลย อย่ามาทำขู่
วันนี้ (11 ก.ค.) รายการเพื่อนพ้องน้องพี่ พีทีวีภาคพิเศษ ออกอากาศผ่านทางดาวเทียมของช่องเอ็มวีทีวี ดำเนินรายการโดย 4 อดีตแกนนำ แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) คือ นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 6 พรรคพลังประชาชน
ประเด็นหลักที่ผู้ดำเนินรายการทั้ง 4 นำเสนอ ยังคงเป็นเรื่องของการนัดแนะให้ประชาชนที่สนับสนุนการแก้ไข รธน. โทรศัพท์หรือส่ง SMS มายังรายการเพื่อที่พวกตนจะได้รวบรวมข้อมูลไว้และทำการติดต่อประสานงานกัน เพื่อนัดหมายกันออกมาออกมาแสดงจุดยืนเรียกร้องการแก้ไข รธน. ที่ท้องสนามหลวงในเร็ววันนี้
ทั้งนี้ 4 อดีตแกนนำ นปก.อ้างว่า สาเหตุที่ต้องมีการนัดรวมตัวกันในครั้งนี้ ก็เพราะต้องการให้ประชาชนที่รักประชาธิปไตยได้ออกมาแสดงพลัง ไม่ใช่ปล่อยให้พวกผู้ร้ายหน้าด้านกระทำการอยู่ฝ่ายเดียว เพราะตอนนี้บ้านเมืองเราถือว่าตกอยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่ คนหน้าด้านเท่านั้นที่จะมีชัยชนะ ดังนั้นเราจึงต้องออกมารวมตัวเพื่อไม่ให้พวกหน้าด้านชนะอีกต่อไป ซึ่งในการออกมาเรียกร้องให้แก้ไข รธน.ครั้งนี้พวกตนจะใช้ชื่อว่า “รวมพลัง ฉีกรัฐธรรมนูญโจร ปล้นประชาธิปไตย”
ในช่วงหนึ่งของรายการ นายณัฐวุฒิ หนึ่งในผู้ดำเนินรายการได้กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ อีกครั้งถึงแม้จะถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ว่าถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เป็นการท้าทายต่อกฎระเบียบของกองทัพ ตนจึงขอเรียกร้องให้ผู้บังคับบัญชาของ พล.อ.ปฐมพงษ์ รีบดำเนินการเรื่องนี้อย่างรวดเร็วและโปร่งใส
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวตอนหนึ่งบนเวทีพันธมิตรฯ ว่า ลูกน้องของตนบอกว่าเรื่องของนายณัฐวุฒินั้น พล.อ.ปฐมพงษ์ ไม่ต้องถ่อมตัวลงไปจัดการเองหรอก เดี๋ยวบรรดาลูกน้องจะจัดการให้เองนั้น ตนอยากจะถาม พล.อ.ปฐมพงษ์ว่า ทำไมถึงใช้คำว่าถ่อมตัว พูดอย่างนี้หมายความว่าอะไร
“พล.อ. ปฐมพงษ์ครับ สิ่งที่ท่านทำมันขัดต่อรัฐธรรมนูญ และระเบียบทหาร ผมไม่สนใจหรอกว่าท่านเป็นใคร ใหญ่แค่ไหน ผมสนใจแค่ว่าสิ่งที่ท่านทำมันผิด” และว่าการที่ พล.อ.ปฐมพงษ์ บอกว่าจะปกป้องเรื่องเขาพระวิหารตนก็คงไปว่าอะไรไม่ได้ แต่ปัญหาคือ พล.อ.ปฐมพงษ์ ดันไปแต่งเครื่องทหารแบบเต็มยศ แล้วประกาศตัวเสียยิ่งใหญ่อย่างวีรบุรุษ บนเวทีพันธมิตรฯ ไปวิพากษ์วิจารณ์การทำงานรัฐบาลอย่างนี้ไม่ถูก อีกทั้งในวันนี้สิ่งที่ตนได้แถลงการณ์ออกไป ตนมีฐานะเป็นรองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ต้องแถลงไปตามหน้าที่ว่า พล.อ.ปฐมพงษ์ กระทำตนไม่เหมาะสมอย่างไร
จึงอยากจะถาม พล.อ.ปฐมพงษ์ว่าจะจัดการตนอย่างไร จะฆ่าให้ตายหรือตัดหัวตนเลยหรือไม่ ถ้าจะทำอย่างนั้นจริง ๆ ตนอยากบอกว่า พล.อ.ปฐมพงษ์ ไม่ต้องส่งลูกน้องมาหรอก ให้มาด้วยตัวเองเลยดีกว่า และที่พูดอย่างนี้ตนไม่ได้ท้าทาย แต่แค่จะบอกว่าคนอย่างตนไม่ต้องมาขู่เสียให้ยาก จะทำอะไรก็มาทำได้เลย เพราะตนเป็นพวกลูกทุ่ง คิดยังไงก็พูดอย่างนั้น ถูกก็ว่าไปตามถูกผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่เคยกลัวอยู่แล้ว
ในช่วงท้ายรายการ นายณัฐวุฒิ ยังได้กล่าวถึงครูอารมณ์ มีชัย แม่ดีเด่นแห่งชาติ และข้าราชการบำนาญ ซึ่งถือเป็นครูของนายณัฐวุฒิเองว่า จริง ๆ แล้วตนไม่อยากจะพูดถึงครูอารมณ์เท่าใดนัก เพราะเห็นครูอารมณ์ก็ไม่ค่อยสบายอยู่ แต่เนื่องจากบ่อยครั้งที่ เมื่อครูอารมณ์ร่วมปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ มักจะมีการกล่าวพาดพิงตนอยู่เสมอ ว่าเมื่อสมัยพฤษภาทมิฬ ที่ตนร่วมเรียกร้องประชาธิปไตยกับลูกชายของครูอารมณ์ ครูอารมณ์มักนำข้าวมาให้ตนกินอยู่เสมอ แล้วอ้างว่าให้ข้าวตนกินก่อนให้ลูกชายตัวเองกินด้วยซ้ำ พูดอย่างกับว่ามีบุญคุณกับตนเสียล้นเหลืออย่างนั้นแหละ ทั้งที่จริงแล้วครูอารมณ์ก็ไม่ได้มีบุญคุณอะไรดับตนมากมาย ถึงขนาดจะนำไปกล่าวอ้างได้เสียหน่อย
ด้านนายวีระ ผู้ดำเนินรายการอีกคนจึงกล่าวเสริมขึ้นว่า จริง ๆ แล้วตนก็อยากจะพูดถึงครูอารมณ์เหมือนกัน เพราะตนก็รู้จักครูอารมณ์มานาน ทำให้รู้ได้ว่าครูอารมณ์ก็แค่ครูเกษียณคนหนึ่งที่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งที่นครศรีธรรมราชแล้วได้คะแนนเสียงแค่ไม่ถึง 2,000 ส่วนตำแหน่งแม่ดีเด่นที่ครูอารมณ์ได้มานั้น ก็ไม่รู้ว่าหน่วยงานไหนเป็นคนจัดให้ ซึ่งปีหนึ่ง ๆ ก็มีคนได้รับรางวัลดังกล่าวตั้งหลายคน และก็ได้รับกันทุกปี แต่พอมาขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ก็มีการนำสรรพคุณมาอวดอ้างทำอย่างกับเป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่เสียเหลือเกิน