xs
xsm
sm
md
lg

“ไข่แม้ว” บิดเบือนป้ายสี รธน.ทำ “เหล่” ตกเก้าอี้ - ขาสั่นท้า “ปฐมพงษ์” ให้มาเจอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อดีต “ม็อบไข่แม้ว” ปากกล้าผ่าน PTV บิดเบือนโดยนบาป รธน.50 ตัวการทำ “นพเหล่” ต้องลาออก ประกาศเตรียมรวมพล เรียกร้องแก้ไข รธน.ที่สนามหลวง เร็วๆ นี้ – “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ผูกใจเจ็บ โต้ “พล.อ.ปฐมพงษ์” ผ่านจอ ชี้ตนมีสิทธิ์วิจารณ์ทหารที่ทำตัวไม่เหมาะสม ท้าหากอยากเจอตน ก็มาหาได้เลย

วานนี้ (10 ก.ค.) รายการเพื่อนพ้องน้องพี่ พีทีวีภาคพิเศษ ออกอากาศผ่านทางดาวเทียมของช่องเอ็มวีทีวี ดำเนินรายการโดย 4 อดีตแกนนำ แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) คือ นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 6 พรรคพลังประชาชน

โดยเนื้อหาหลักที่ผู้ดำเนินรายการกล่าวถึง คือ การประกาศลาออกของ นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่ได้เหนือความคาดหมายอะไร พวกคิดไว้อยู่แล้วว่า นายนพดล ต้องแสดงสปิริตโดยการลาออก แต่อย่างไรก็ตาม พวกตนก็ต้องขอชี้แจงว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นจน นายนพดล ต้องลาออกนั้น มีมูลเหตุมาจาก รธน.ปี 50 ที่ระบุว่า การจะไปทำสนธิสัญญาหรือแถลงการณ์ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยเพียงใดก็ต้องนำเรื่องขอความเห็นจากสภาก่อน ซึ่งต่างจาก รธน.ฉบับอื่นๆ ที่เคยมีมา ดังนั้น เมื่อนายนพดล ไปดำเนินการลงนามในแถลงการณ์โดยรู้ไม่เท่าทันว่าจะผิดต่อ รธน.ก็ต้องถูกฝ่ายตรงข้ามหยิบขึ้นมาโจมตีจนเป็นเรื่องใหญ่โต ทั้งที่การกระทำดังกล่าวไม่ได้ส่งผลเสียต่อประเทศแม้แต่น้อยก็ตาม

ทั้งนี้ พวกตนอยากจะชี้แจงด้วยว่า การกระทำของ รมว.ต่างประเทศ ได้ทำอย่างดีที่สุดและเต็มความสามารถแล้ว การที่กัมพูชาขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกได้ จึงไม่เกี่ยวกับความสามารถของรัฐบาลเลย เรียกได้ว่า ต่อให้ตอนนี้มีเทวดามาเป็นนายกรัฐมนตรีไทย กัมพูชาก็ขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารได้อยู่ดี

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนายนพดล ลาออกไปจากกรณีนี้แล้วก็ยังมีเรื่องที่ดีอยู่อีกอย่าง นั่นคือทำให้ประชาชนทั่วไปได้รู้ว่า รธน.ปี 50 เป็น รธน.ที่พิกลพิการ ปัญญาอ่อน และเลวที่สุดตั้งแต่เคยมี รธน.มาในประเทศไทยเลย หากไม่นับรวมกับ รธน.สมัยเผด็จการทหาร เพราะเป็น รธน.ที่เขียนขึ้นมาเพื่อทำลายล้าง หรือกระทืบกันทางการเมืองเท่านั้น โดยไม่ได้มองถึงประโยชน์ของประเทศชาติเลย

ดังนั้น จากนี้ไป ทางสถานีโทรทัศน์ พีทีวี จะขอเป็นศูนย์กลางระดมความคิดเห็นของประชาชนว่าต้องการแก้ รธน.หรือไม่ หากต้องการก็ส่ง SMS มาในรายการให้พวกตนรู้ และเมื่อพวกตนได้รับทราบความต้องการของประชาชนแล้ว ก็อยากให้ประชาชนที่มีความเห็นอยากแก้ไข รธน.เตรียมตัวกันไว้ให้ดี เพราะไม่แน่ในอีก 3 วัน 7 วัน อาจจะมีการเป่านกหวีดรวมพล เพื่อให้ไปรวมตัวเรียกร้องแก้ไข รธน.ที่สนามหลวงอีกครั้งก็เป็นได้

ในช่วงท้ายรายการ นายณัฐวุฒิ ยังได้กล่าวถึง กรณีที่ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด ออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้ กรณีที่ นายณัฐวุฒิ แถลงข่าวเรียกร้องให้เอาผิดทางวินัย ที่ พล.อ.ปฐมพงษ์ ไปขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ว่า ตนเป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง เมื่อเห็นทหารทำในสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควร ก็มีสิทธิ์จะพูด ซึ่งตนก็ไม่คิดจะไปลองดีหรือหยามใคร และก็คงไม่ไปเจอตามที่ พล.อ.ปฐมพงษ์ ท้า แต่หาก พล.อ.ปฐมพงษ์ อยากจะเจอตนก็สามารถหาได้ไม่ยากและบอกได้เลยว่าแต่ละวันตนก็จะมาทำรายการที่พีทีวี แล้วก็ทำงานที่สภา สองที่นี้เป็นหลัก ถ้าอยากจะเจอก็มาหาได้

ทั้งนี้ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 ก.ค. พล.อ.ปฐมพงษ์ ได้แถลงข่าวที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และตอนหนึ่งได้กล่าวตอบโต้กรณีที่นายณัฐวุฒิ เรียกร้องให้เอาผิดทางวินัยกับ พล.อ.ปฐมพงษ์ว่า อย่ามาหยามอย่ามาเหิมเกริม พร้อมระบุนายณัฐวุฒิไม่มีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์ตน ขอให้เย็บปากไปเลยและขอบอกตรงๆ ว่าจะให้ไปเจอที่ไหนก็ได้ แต่นายณัฐวุฒิอย่ามาหยามในเรื่องที่พูด
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
นายจตุพร พรหมพันธุ์
นายจักรภพ เพ็ญแข
นายวีระ มุสิกพงษ์

กำลังโหลดความคิดเห็น