xs
xsm
sm
md
lg

สมัครประกาศหนุนตั้งPTVชนASTV วีระเผยจัดวันละ5ชม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวในรายการ สนทนาประสาสมัคร วานนี้ (6 ก.ค.) สนับสนุนให้ นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ตั้งสถานีโทรทัศน์ พีทีวี มาสู้กับ เอเอสทีวีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยอ้างว่าไม่ได้ตั้งสถานีโทรทัศน์เพื่อด่ากลุ่มพันธมิตรฯ แต่จะแสดงข้อเท็จจริง ตนก็สนนับสนุน ไม่ได้เรียกว่าสู้กัน แต่จะเป็นการหักล้างข้อมูลว่าคุณมานั่งด่าอย่างนี้ไม่ได้ ถ้าคนทั่วประเทศได้รับข้อมูลจะได้รู้อะไรเป็นอะไร ออกมาว่า คือทางโน้นทำมาตลอด ทำมาเท่าไรไม่ว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ว่า แต่พอทางนี้เขาจะทำขึ้นมาหักล้าง บอกว่าจะทำให้สถานการณ์เลวทราม ให้บ้านเมืองเลือดตกยางออก แปลว่าอย่างไร
นายสมัคร กล่าวตอนท้ายว่า หากคนใต้จะขึ้นมากรุงเทพฯ ไม่เคยคิดต่อต้าน และคิดดีกับพวกนั้น ถ้าพวกนั้นคิดจริงว่า คนทางนี้รัฐมนตรีลงไปจะต้องต่อต้าน ตนว่า คิดสู้ตนไม่ได้ ตนคิดดีกว่า แล้วคนปักษ์ใต้ขึ้นมากรุงเทพฯ ก็ยินดีต้อนรับ ไม่มีคิดต่อต้านเลย ส.ส.ปักษ์ใต้ขึ้นมาไม่คิดต่อต้านเลย ไม่เคยคิดเลย คิดอะไรโง่ ๆ พรรค์อย่างนั้น ตนคิดไม่เป็น
วันเดึยวกัน ที่ร้านสภากาแฟ ชั้น6 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิล์ดลาดพร้าว วานนี้ (6 ก.ค.) นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีทีวี
นายวีระ กล่าวว่า ในฐานะคนที่ทำพีทีวีและได้ปิดตัวลงเพราะเรื่องทุน แต่เนื่องจากสถานการณ์การเมืองปัจจุบันทำให้ไม่สามารถอยู่นิ่งได้ เนื่องจาก มีคนจำนวนหนึ่งประกาศเหมือนกับว่ายึดบ้านเมืองได้แล้ว โดยเสนอระบอบใหม่ที่จะให้ส.ส.มาจากการเลือกตั้ง 30 % สรรหา 70 % เสนอให้กองทัพไม่ต้องอยู่ภายใต้ นายกรัฐมนตรี รวมทั้งให้กองทัพมีความพร้อมในการบริหารประเทศได้ตลอดเวลา หากรัฐบาลบริหารประเทศโดยไม่มีคุณธรรม ซึ่งคำๆ นี้ไม่รู้ว่าจำกัดความว่าอย่างไร ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย ทำให้พวกเราทนไม่ได้ จึงออกมาเช่าเวลาออกอากาศทางช่อง MV5 โดยเช่าเวลา 5 ชม.ต่อวัน
เราเป็นเพียงผู้จัดรายการเท่านั้น และจะแบ่งการจัดรายการเป็นการเสนอข่าว และเสนอความเห็นอีกแง่มุมหนึ่ง และไม่ต้องกังวลว่าเราจะทำให้เกิดสงครามประชาชน หรือมวลชนปะทะมวลชน แต่เป็นการปะทะทางความคิดและวาจา รับรองไม่มีการแทะทางร่างกายลำลังแต่จะต่อสู้ทางสติปัญญาเท่านั้น
นายวีระกล่าวว่า เราจำเป็นต้องออกมาปกป้องระบอบประชาธิปไตย ระบอบรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง หากปล่อยให้ ส.ส.70 % มาจากการสรรหา พวกเส้นสายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพวกอมาตยาธิปไตยจะเข้ามาเป็น ยุคอำมาตยาธิปไตยหรือราชาธิปไตย ซึ่งตนยอมไม่ได้เด็ดขาด จะทำเป็นนอนหลับไม่รู้นอนคู้ไม่เห็นไม่ได้ รวมทั้งเวลานี้ รุกรานไปกันใหญ่รัฐมนตรีจะลงไปตรวจราชการ ก็ไม่ได้ ดาราก็มีปัญหา ซึ่งเราไม่ยอมให้คนแค่หยิบมือเดียวมายึดบ้านเมือง
นายจักรภพ กล่าวว่า ถามว่าทำไมต้องเกิดพีทีวีภาคพิเศษเพราะเราไม่ยอมให้พันธมิตรฯยึดบ้านเมือง โดยใช้ถ้อยคำรุนแรงด่าทอรัฐบาล ทำแบบนักเลงอันธพาล ซึ่งทำให้บ้านเมืองบอบช้ำ ไม่เคารพกฎหมาย รังแต่จะทำให้บ้านเมืองไปสู่ความมืดมน ที่ผ่านมาที่เราชะลอการออกอากาศเพราะเหตุทางธุรกิจ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสู่ระบอบประชาธิปไตย มีรัฐบาลอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาไปแต่กลุ่มพันธมิตรฯกลับขัดขวางการทำงาน ยกขบวนปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลแม้รัฐบาลจะทำงานต่อไปได้ แต่ในเชิงสัญลักษณ์มันอับอายไปทั่วโลก ดังนั้นการเปิดพีทีวีภาคพิเศษไม่ใช่การทำ สงครามแต่เป็นการเปิดเวทีทางความคิด โดยไม่ยอมให้ใครนำข้อมูลด้านเดียว มาให้ประชาชน ซึ่งเราจะให้ข้อมูลที่สวนทางไม่เว้นสักเรื่องเดียวและจะทำให้รู้ว่า เบื้องหน้าเบื้องหลังพันธมิตรฯแต่ละคนเป็นอย่างไร เพราะบทบาทที่ผ่านมาทำอย่างกับบ้านเมืองเป็นของคนเพียง 5 คนหรืออย่างไร
สำหรับรายการที่จะออกอากาศ จะเริ่มในวันที่ 7 ก.ค. เวลา 7.30-9.30 น. เป็นรายการเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่มีพวกเรา4 คนร่วมจัดรายการ 11.00-12.00 น. รายการมหาประชาชน เวลา18.30-20.30น.เป็นรายการเพื่อนพ้องน้องพี่ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์กำลังหารือกันอยู่ว่าจะมีการจัดรายการดีหรือไม่ นอกจากนี้ เราไม่สงวนลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่ภาพและเสียง และเปิดให้เคเบิลท้องถิ่นสามาถ เชื่อมสัญญาณไปออกอากาศทั้งในและต่างประเทศได้ รวมทั้งเราจะถ่ายถอดสด รายการผ่าน www.mvtv.co.th และวิทยุชุมชน 99.25
นายจักรภพ กล่าวว่า ใครที่คิดว่าบ้านเมืองนี้ประชาชนไม่มีความหมาย จะชักจูงบังคับใจอย่างไรก็ได้นั้น อย่าลืมว่าบ้านเมืองนี้เป็นของคน 64 ล้านคน รายการนี้จะแสดงให้เห็นว่าประชาชนไม่ยอมให้นักเลงโตมายึดบ้านเมือง ประหนึ่งว่าพันธมิตรฯจะก่อรัฐประหารบ้านเมืองนี้อย่างไรก็ได้
นายจตุพร กล่าวว่า ขอขอบคุณนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่กล่าว ในรายการ สนทนาประสาสมัคร ว่าพีทีวี สามาถออกอากาศได้ ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาขู่ว่าตนเป็นส .ส.และมีตำแหน่งทางการเมือง มาเป็นเจ้าของพีทีวีนั้นผิดกฎหมายนั้นแต่จริงๆเราได้พิจารณาข้อกฎหมายแล้วว่าไม่ขัดกฎหมาย รวมทั้งเราเพียงแค่เช่ารายการ ตนก็ไม่รับค่าตอบแทนใดๆ
นอกจากนี้พันธมิตรฯยังนำเบื้องสูงมาเป็นเครื่องมือทำลายคนอื่น แต่ในที่สุดพันธมิตรฯจะเป็นผู้ทำลายเบื้องสูงเอง โดยเฉพาะ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่พาดพิง การปกครองในประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งทั้ง 2 ประเทศมีความแตกต่างจากประเทศไทยมาก
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอฝากส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ ทำนองว่าจะใช้ช่องทางกฎหมายเล่นงานเรา แต่เราได้ศึกษาข้อกฎหมายแล้ว อย่าข่มขู่เลยเพราะเราไม่มีเวลากลัว หากกลัวคงสยบใต้อำนาจเผด็จการตั้งแต่การรัฐประหารแล้ว โดยงานนี้มีประชาธิปไตยเป็นเดิมพัน หากรัฐบาลนี้อยู่ไม่ได้พวกตน ที่สวมหัวโขนในรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ และประชาชนทั้งประเทศจะอยู่ได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าการจัดรายการจะเน้นเปิดโปงกลุ่มพันธมิตรฯหรือไม่ นายวีระกล่าวว่า ไม่ได้ตั้งเป้าขนาดนั้นเพียงแต่จะเสนอข้อมูลข่าวสารเหมือนสถานีโทรทัศน์ทั่วไป รวมทั้งเราจะเกาะติดข้อมูลในเอเอสทีวี หากมีประเด็นอะไรมาก็จะตอบโต้
ส่วนแนวโน้มต่อไปจะเปิดเวทีนอกสถานที่หรือไม่ นายวีระกล่าวว่า เราไม่จำเป็น ต้องออกไปตากแดดฝน รวมทั้งการฟื้นพีทีวี ไม่เกี่ยวกับการฟื้น นปก. เพราะขณะนี้พวกเขาก็อยู่นิ่งๆแต่ทุกคนก็พร้อมหมด โดยไม่มีแนวคิดไปนัดชุมนุม หรือเคลื่อนไหวอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าการจัดรายการพีทีวีจะเน้นชี้แจงข้อมูลรวมทั้งคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายวีระกล่าวว่า ไม่เกี่ยวเลย เพราะอดีตนายกรัฐมนตรีมีทีมทนายความดูเรื่องนี้อยู่แล้ว
ส่วนหากพันธมิตรฯยังชุมนุมยืดเยื้อทางพีทีวีจะออกมาเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ นายวีระกล่าวว่า ความเห็นตนภาวนาให้พันธมิตรฯชุมนุมสัก1 ปี ให้มันอยู่บนสะพานชมัยมรุเชฐนั้นแหละ เพียงแต่ขอให้พันธมิตรฯทำตามคำสั่งศาล อย่าทำความ เดือดร้อนอะไร ขอร้องให้พล.ต.จำลอง อย่าเพิ่งยุติการชุมนุมขอให้เลิกตอนอายุ 80 ปีโน่น
ด้านนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี การจัดตั้งสถานีโทรทัศน์พีทีวีของพรรคพลังประชาชนว่า จากการตรวจสอบ ในข้อกฎหมายพบว่า ขณะนี้ยังมีความลักลั่นอยู่เนื่องจาก เป็นการตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ซึ่งคล้ายกับสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ตนอยากจะฝากไปยัง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ที่ถือว่าเป็นส.ส.อยู่ ควรที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ อย่างถูกต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย รวมทั้งการดำเนินการในการตั้งสถานีโทรทัศน์มีความจำเป็นในขณะนี้หรือไม่อย่างไร
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูในข้อกฎหมายว่า มีการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์หรือไม่ และตั้งสังเกตต่อไปว่า การตั้งสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว เพื่อประโยชน์ต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือไม่ รวมทั้งต้องดูเจตนารมณ์ ที่สำคัญผู้ที่ก่อตั้งเป็นถึงส.ส.ก็ต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้รอบครอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น