“ส.ว.” ประท้วง ครม.หุ่นเชิดไม่ให้เกียรติสภา ทิ้ง รมต.นั่งฟังอภิปราย 2 หน่อ ประชดเสนอให้ปิดประชุมดีกว่า แขวะแห่มาตอนเช้า เพราะเข้าทำเนียบไม่ได้ ด้าน “สมศักดิ์” แอ่นอกรับหน้าเสื่ออ้างนายกตัดสินใจด่วน รมต.ตั้งตัวไม่ทัน
วันนี้ (23 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายของการประชุม นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา ได้ทำการประท้วงคณะรัฐมนตรีที่ในขณะนั้นเก้าอี้ฝั่ง ครม.มีเพียง นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นั่งเป็นตัวแทนรัฐบาลฟังการอภิปรายในห้องประชุมคนเดียวเท่านั้น และในขณะนั้นที่ นายสุรชัย ทำการประท้วง นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ ได้เดินเข้ามาในห้องประชุมพอดี จึงได้ชี้แจงว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเปิดอภิปรายและรัฐมนตรีหลายคนก็นั่งอยู่บริเวณรัฐสภาแค่ไม่ได้มานั่งบนบัลลังก์ เนื่องจากรัฐมนตรีบางคนมี ส.ว.มาขอหารืออยู่ด้านนอก ส่วนการอภิปรายของ ส.ว.ก็มีเจ้าหน้าที่คอยบันทึกประเด็นไว้ทั้งหมด ดังนั้น ครม.จะรอให้การอภิปรายเสร็จสิ้นแล้วรัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงจะเข้ามาตอบเพื่อจะได้ไม่เสียเวลา เนื่องจากก่อนหน้านี้ เห็น ส.ว.บางท่านระบุว่าเวลาในการอภิปรายจะไม่เพียงพอ ครม.จึงเห็นว่าจะให้ ส.ว.อภิปรายไปก่อน
จากนั้น นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา ลุกขึ้นมาถามว่า ถ้าเช่นนั้นถ้ารัฐบาลให้เปิดอภิปรายทำไม ถ้าไม่ให้เกียรติกันและไม่ยอมมานั่งฟัง เหมือนกับว่า เมื่อเช้ารัฐบาลมาขออภิปราย ส.ว.แล้วก็ออกไป และตนขอตั้งข้อสังเกตว่า การที่ ครม.แห่มากันทั้งหมดเมื่อเช้าเป็นเพราะเข้าทำเนียบรัฐบาลใช่หรือไม่ ถ้าไม่ให้เกียรติ์กันแบบนี้ตนขอให้ปิดการประชุมเลยดีกว่า จากนั้นนายวรินทร์ขอให้กล้องช่วยถ่ายภาพที่เก้าอี้ฝั่งครม.รัฐมนตรีที่มีเพียง รมว.วัฒนธรรม และ รมว.เกษตรฯ นั่ง 2 คนเท่านั้น ด้าน นายตวง อันทไชย ส.ว.สรรหา กล่าวเสริมว่า ถ้าคณะรัฐมนตรีเชื่อมั่นในระบบสภาก็ขอให้เข้ามานั่งฟังที่นี่
นายสมศักดิ์ ต้องลุกขึ้นชี้แจงอีกรอบว่า การเปิดอภิปรายนั้นนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจอย่างเร่งด่วน ทำให้รัฐมนตรีตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งนัดบางนัดก็คืนนัดไม่ได้ ส่วนที่ตอนเช้ารัฐมนตรีนั่งหลายคนแล้วค่อยๆ หายไปนั้น พวกเราก็เชื่อมั่นใน ส.ว.ที่หวังดีต่อชาติ ทั้งนี้ ตนจึงขอเสนอให้แบ่งการอภิปรายเป็นหมวด เขาพระวิหารก็เรื่องหนึ่ง เศรษฐกิจก็เรื่องหนึ่ง เพื่อรัฐบาลที่เกี่ยวข้องจะได้รู้เวลา และจะทำให้บรรยากาศไม่เป็นการตัดพ้อเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่ารัฐมนตรีหลายคนยังอยู่แถวนี้
นางทัศนา บุญทอง รอง ปธ.สภาที่ทำหน้าที่ประธานขณะนั้น กล่าวชี้แจงว่า การประสานระหว่างรัฐบาล และ ส.ว.เป็นไปอย่างกะทันหัน จึงไม่มีการเตรียมเป็นหมวดหมู่ อย่างไรก็ตามตนขอให้รัฐมนตรีที่อยู่บริเวณรัฐสภาให้เข้ามานั่งฟังการอภิปรายด้วย
ขณะที่ นางสาวนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.จังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวถึงการที่ นายสมัคร ชอบอ้างว่า ครม.ขี้เหร่ว่าถ้านายสมัครเห็นว่า ครม.ขี้เหร่ แล้วทำไมไม่เปลี่ยน ครม.ที่ขี้เหร่ เพราะแค่ระยะเวลาแค่ 4 เดือนยังสร้างปัญหาได้ขนาดนี้ ถ้าปล่อยให้ทำงานเป็นปีจะสร้างปัญหาขนาดไหน
ด้านนายธวัช บวรวนิชยกูร ส.ส.สรรหา กล่าวถึงโครงการการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 6,000 คันว่า แม้จะสนับสนุนแนวทางดังกล่าว แต่เห็นว่าราคาในการเช่าซื้อแพงเกินไป และการเช่าซื้อรถผูกขาดคู่สัญญาเพียง 1 ราย จะทำให้ต้นทุนมีราคาสูง โดยหากรัฐบาลแบ่งสัญญาเช่าเป็นรายย่อยจะช่วยให้ลดต้นทุนลงได้ นอกจากนี้ยังเสนอว่า รัฐบาลควรเก็บภาษีป้ายรถยนต์ให้สูงขึ้นจากเดิม เพื่อนำมาช่วยแบ่งเบาภาระประชาชนในส่วนของรถประจำทาง
ขณะที่ปัญหาในเรื่องพลังงานนั้น นายชลิต แก้วจินดา ส.ว.สรรหา เสนอให้รัฐบาลเร่งรัดบริหารจัดการการผลิตพลังงานทดแทน โดยการแบ่งพื้นที่ให้ชัดเจนในการเพาะปลูกพืชพลังงาน อาทิ อ้อย น้ำตาล และสบู่ดำ เพื่อป้องกันสินค้าการเกษตรขาดหรือล้นตลาด รวมถึงเร่งรัดการออกมาตรการสนับสนุนยานยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทน เช่น อี 85 มากขึ้น และการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาล เพื่อรองรับการผลิตในประเทศอีกด้วย
“เป็ดเหลิม”ชูคออวดเป็นคนสั่งปิดเวปไซด์ฉาว
ต่อมาร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ชี้แจง กรณีการเปิดเวปไซต์ที่ไม่เหมาะสมจำนวนมาก นั้นขอเรียนว่าตนได้รับมอบหมายให้ดูแลเวปไซต์ที่มีข้อความอันไม่สมควร โดยได้ขอร้องทางตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าขาดความเข้าใจคิดว่าเมื่อเป็นถ้อยคำที่มาจากต่างประเทศแล้วจะไม่มีความผิด ซึ่งตนได้อธิบายว่าเมื่อนำมาเผยแพร่ในราชอาณาจักรไทยก็ถือว่าผิด จะไม่รับผิดชอบไม่ได้ แต่กระทรวงมหาดไทยมีแต่กฎหมายความมั่นคง ในทางอาญา ดำเนินการเท่านั้นส่วนการปิดเวปไซต์อยู่ในอำนาจของ กระทวงไอซีที
“สิ่งที่นายคำนูญว่ามีคนๆหนึ่งเป็นคนปิดเวปไซค์ที่รัฐบาลปิดไม่ได้ ถือว่าเข้าใจผิด เพราะวันที่ปิดเวปนี้ ผมเป็นคนปิดเอง และปิดโดยการขอร้องแต่ว่าไปนั่งอยู่ที่บ้านคนๆนั้น และคนๆนั้นเป็นคนขอร้องผม ว่าช่วยดำเนินการให้หน่อยผมก็ดำเนินการให้เรียบร้อย ขอให้รับรู้ไว้ว่าการปิดเวปไซด์ บริษัทจัสมินนั้น เป็นการกระทำของรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช โดยกระทรวงมหาดไทย วันนี้คนๆนั้นอยู่เชียงรายและจะรู้ว่าผมพูดเรื่องจริง”ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ส่วนกรณี เขาพระวิหารนั้นร.ต.อ.เฉลิมชี้แจงว่า ความจริงเขาพระวิหารเป็นของเขมรมา45 ปีแล้วหลังจากศาลโลกสั่ง เมื่อมีการขอยื่นจดทะเบียนมรดกโลกอีกครั้งก็มีปัญหาเรื่องพื้นที่เขตแดน ซึ่ง รมว.ต่างประเทศได้ ไปเจรจาที่กรุงปารีสนาน 12 ชั่วโมง บอกเขมรว่าเอาเขาพระวิหารขึ้นทะเบียนได้ แต่ที่ดิน 4.5 กม.ต้องตรวจสอบให้ถูกต้องชอบธรรม ซึ่กองทัพไทยช่วยดูแผนทีอย่างละเอียด ก็ยืนยันว่าตัวเขาพระวิหารนั้นจดทะเบียนไปได้ แต่พื้นที่ 4.5 กม.ไม่ได้ รมว.ต่างประเทศ จึงเซ็นยินยอมให้
ส.ว.เบรก เหลิม เล่นบทชี้แจงน้ำท่วมทุ่ง
ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวถึงปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ขณะนี้เหตุการณ์ไม่ดีลดลงแล้วครึ่งหนึ่ง ขอต้องชื่นชมทุกกองทัพที่บูรณาการแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมาตนไม่ลงไปเพราะรู้เรื่องหมดแล้ว ไม่รู้ว่าจะต้องไปศึกษาทำไม ไม่ต้องไปฟังบรรยายสรุป ทุกวันนี้อยากรู้อะไรแค่โทรศัพท์กริ๊งเดียวก็ได้รู้ จึงไม่อยากลงไป ถึงแม้จะลงไปเองก็ไม่อันตรายเพราะมีเฮลิปคอปเตอร์ทหาร ตำรวจใช้เดินทาง
“ทุกคนบอกว่าความสมานฉันท์จะนำพาไปสู่ความสุข แต่รัฐบาลชุดนี้สมานฉันท์ไม่ได้จริงๆ เพราะคนที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกับรัฐบาลขณะนี้ คือรูปแบบเดิมก่อนที่ท่านทักษิณ จะลาออกและมีการปฎิวัติ เป็นคณะเดียวกันหมด บูรณาการกัน ไม่ชอบรัฐบาลไทยรักไทย ก็ทำจนถูกยุบแล้วมาเป็นพลังประชาชน นายสมัคร เป็นหัวหน้าพรรค ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมินี เป็นกากเดนอำนาจเก่า กลุ่มคนเหล่านี้ออกรณรงค์ไม่ต้องการให้พลังประชาชนได้เสียงมากกว่าอื่นๆ แม้แต่สนช.ปิดหน้าก็รู้ เห็นเงายังรู้ว่า สนช.คนนั้นคิดยังไงกับพลังประชาชน ขับเคี่ยวกันมาอย่างนี้ ครูบาอาจารย์เวทีพันธมิตรฯ ก็เป็นพวกเดิมที่ไล่พวกผม”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อมาถึงตรงนี้นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้ประท้วงว่าร.ต.อ.เฉลิม ตอบไม่ตรงประเด็น และอยากให้ชี้แจงเป็นเรื่องๆไปไม่ใช่ชี้แจงทีเดียวทุกเรื่อง ร.ต.อ.เฉลิม ลุกขึ้นโต้ทันทีว่า
“ผมรู้ว่าท่านไม่ชอบรัฐบาลของพวกผม ถ้าไม่ชอบแล้วเปิดทำไม เมื่อเปิดแล้วผมต้องตอบ ต้องอธิบาย ถ้าไม่อยากให้อธิบายแล้วยื่นทำไม รู้อยู่ว่ารัฐบาลชุดนี้ช่างพูดทุกคน อยู่ในสภาก็แย่งกันพูด ดีที่ตอนนี้ท่านสมัครลงไปแล้ว ที่บอกว่าแก้รัฐธรรมนูญเป็นเผด็จการ ทำให้คดีท่านทักษิณ หลุดไป อย่าไปเชื่อพวกพันธมิตรฯมันนะที่บอกเป็นด็อกเตอร์ปลอม เป็นดอกเตอร์ไม่ต้องสอบโทเฟล พันธมิตรฯไปเอาระเบียบปี 48 มาอ่าน แต่ผมเข้าในปี 44 รัฐธรรมนูญปี 40 ก็มีการล้อมสภา วี๊ดบึ้ม ธงเขียว บังคับให้ต้องรับ แต่พออยู่ไปบอกว่ารัฐธรรมนูญ 40 เอื้อให้ทักษิณ ทั้งที่ทักษิณ ไม่ได้เป็นสสร. ถึงแก้รัฐธรรมนูญก็ช่วยทักษิณ ไม่ได้ เพราะคดีอยู่ในศาล คดีที่ดินรัชดาตอนนี้นี้อยู่ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเรื่องที่อยู่ในคตส.ถ้าหมดอายุก็ถูกส่งต่อไปที่ป.ป.ช. ถ้าผมไม่เถียงก็ถูกกล่าวหาว่าผิด แต่พอเถียงก็บอกว่าเคลียร์ให้ทักษิณ ไหนช่วยแนะนำหน่วยว่าทำอย่างไรถึงจะช่วยทักษิณให้คดีความมันจบ ปัญหาตอนนี้คือคตส.ที่พอพันธมิตรฯไปมอบดอกไม้ก็ร้องห่มร้องให้ มีปัญหากับอัยการ และศาลได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าคตส.ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ วุฒิต้องมีใจเป็นธรรมนักการเมืองอย่างผมมาแล้วก็ไป ”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว