xs
xsm
sm
md
lg

"เหลิม"หน้าระรื่นยอมรับโกหก เรื่องส่งอาวุธหวังสกัดพันธมิตรฯชุมนุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมสมาชิกวุฒิสภา เพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 เริ่มขึ้นเมื่อเวลาในเวลา 09.30 น. วานนี้ (23มิ.ย.) โดยมีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ในการประชุม
ทั้งนี้ หลังจากนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้อภิปรายถึงความไม่ชอบ

ธรรม 10 ประการ ที่ทำให้รัฐบาลไม่สมควรที่จะบริหารประเทศต่อไป ซึ่งนายสมัคร สุนทร

เวช นายกรัฐมนตรีก็ลุกขึ้นชี้แจงทันที แต่ส่วนใหญ่เป็นไปในลักษณะ ตีโพยตีพาย ตะแบง

ตอบไม่ตรงคำถาม หลังจากนั้นก็มี ส.ว.อภิปรายอีกหลายคน
ต่อมาในช่วงบ่าย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา ได้ทำการประท้วงคณะ

รัฐมนตรี ที่ในขณะนั้นมีเพียงนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว.วัฒนธรรม นั่งเป็นตัวแทน

รัฐบาลอยู่ในห้องประชุมคนเดียว และในขณะที่นายสุรชัย ทำการประท้วง นายสมศักดิ์

ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ ก็เดินเข้ามาในห้องประชุมพอดี จึงได้ชี้แจงว่ารัฐบาลให้

ความสำคัญกับการเปิดอภิปราย และรัฐมนตรีหลายคนก็นั่งอยู่บริเวณรัฐสภา แค่ไม่ได้มา

นั่งบนบัลลังก์ เนื่องจากรัฐมนตรีบางคนมี ส.ว.มาขอหารืออยู่ด้านนอก
ส่วนการอภิปรายของ ส.ว.ก็มีเจ้าหน้าที่คอยบันทึกประเด็นไว้ทั้งหมด ดังนั้น

ครม.จะรอให้การอภิปรายเสร็จสิ้นแล้วรัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงจะเข้ามาตอบ เพื่อจะได้ไม่เสีย

เวลา เนื่องจากก่อนหน้านี้เห็น ส.ว. บางท่านระบุว่า เวลาในการอภิปรายจะไม่เพียงพอ ครม.

จึงเห็นว่าจะให้ส.ว.อภิปรายไปก่อน
จากนั้นนายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา ลุกขึ้นมาถามว่า ถ้าเช่นนั้นถ้ารัฐบาล

ให้เปิดอภิปรายทำไม ถ้าไม่ให้เกียรติกัน และไม่ยอมมานั่งฟัง เหมือนกับว่า เมื่อเช้ารัฐบาล

มาขออภิปราย ส.ว.แล้วก็ออกไป และตนขอตั้งข้อสังเกตว่า การที่ครม.แห่มากันทั้งหมดเมื่อ

เช้า เป็นเพราะเข้าทำเนียบรัฐบาลไม่ได้ ใช่หรือไม่ ถ้าไม่ให้เกียรติกันแบบนี้ ตนขอให้ปิด

การประชุมไปเลยดีกว่า จากนั้นนายวรินทร์ ขอให้กล้องช่วยถ่ายภาพที่เก้าอี้ฝั่ง ครม. ที่มีเพียง

รมว.วัฒนธรรม และรมว.เกษตรฯ นั่งอยู่ 2 คนเท่านั้น
ด้านนาย ตวง อันทไชย ส.ว.สรรหา กล่าวเสริมว่า ถ้าคณะรัฐมนตรีเชื่อมั่นใน

ระบบสภา ก็ขอให้เข้ามานั่งฟังที่นี่ ทำให้นายสมศักดิ์ ต้องลุกขึ้นชี้แจงอีกรอบว่า การเปิด

อภิปรายนั้น นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจอย่างเร่งด่วน ทำให้รัฐมนตรีตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งนัด

บางนัดก็คืนนัดไม่ได้ ส่วนที่ตอนเช้ารัฐมนตรีนั่งหลายคนแล้วค่อยๆหายไปนั้น พวกเราก็

เชื่อมั่นใน ส.ว. ที่หวังดีต่อชาติ ทั้งนี้ ตนจึงขอเสนอให้แบ่งการอภิปรายเป็นหมวด เขาพระ

วิหาร ก็เรื่องหนึ่ง เศรษฐกิจก็เรื่องหนึ่ง เพื่อรัฐบาลที่เกี่ยวข้องจะได้รู้เวลา และจะทำให้

บรรยากาศไม่เป็นการตัดพ้อเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า รัฐมนตรีหลายคนยังอยู่แถวนี้
นางทัศนา บุญทอง รองปธ.สภาที่ทำหน้าที่ประธานขณะนั้น กล่าวชี้แจงว่า การ

ประสานระหว่างรัฐบาล และ ส.ว.เป็นไปอย่างกะทันหัน จึงไม่มีการเตรียมเป็นหมวดหมู่

อย่างไรก็ตาม ตนขอให้รัฐมนตรีที่อยู่บริเวณรัฐสภาให้เข้ามานั่งฟังการอภิปรายด้วย
ขณะที่นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ กล่าวถึงการที่นายสมัคร ชอบอ้างว่า

ครม.ขี้เหร่ว่า ถ้านายสมัครเห็นว่าครม.ขี้เหร่ แล้วทำไมไม่เปลี่ยนครม.ที่ขี้เหร่ เพราะแค่ระยะ

เวลาแค่ 4 เดือน ยังสร้างปัญหาได้ขนาดนี้ ถ้าปล่อยให้ทำงานเป็นปี จะสร้างปัญหาขนาดไหน

**จวกรัฐบาลต้นเหตุพันธมิตรฯชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายในช่วงเย็นของ ส.ว.เริ่มเข้มข้นขึ้น โดยส.ว.ยัง

คงทยอยอภิปรายตำหนิการบริหารงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องทั้ง ปัญหาเศรษฐกิจ

นโยบายการแก้ปัญหาราคาข้าว โครงการเช่ารถปรับอากาศ 6 พันคัน โดยเอกชนรายเดียวทำ

ให้รัฐเสียหาย และยังหยิบยกถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

มาอภิปราย โดยระบุว่า รัฐบาลเป็นต้นเหตุที่ทำให้ประชาชนต้องมาชุมนุมในท้องถนน และ

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กับร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ยังมีความคิด

เป็นเผด็จการ กรณีจะสลายการชุมนุม และพยายามปิดกั้น เอเอสทีวี ไม่ให้เผยแพร่สัญญาณ

ผ่านเคเบิลทีวี
นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา อภิปรายว่า ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีไม่

พยายามที่จะปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักการสำคัญในการคุ้มครองบุคคลตามรัฐธรรมนูญ

มาตรา 4 ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้ออกมาระบุว่า จะปิดสถานีเอเอสทีวี เรื่องดังกล่าวทำ

ให้ตนไม่สบายใจ เพราะถือเป็นการไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญด้วยการแทรกแซงสื่อ และ

ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน
"ในฐานะที่ผมเสนอญัตติต่อที่ประชุมวุฒิสภา กรณีที่มีผู้เขียนข้อความอันไม่

สมควรลงในธงชาติไทย ในการชี้แจงกรณีดังกล่าวนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรี

ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เคยรับปากว่าจะทำการตรวจสอบและรายงานความคืบหน้า

ให้วุฒิสภาทราบ แต่จนถึงขณะนี้วุฒิสภายังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด จึงขอถามถึงความ

คืบหน้าในการดำเนินการเรื่องดังกล่าว"
**รัฐบาลแทรกแซงสื่อ
ขณะที่ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา อภิปรายว่า เหตุผลที่การเมืองเกิด

วิกฤตซึ่งรัฐบาลนี้ไม่เข้าใจและไม่พยายามเข้าใจ และไม่ได้เอาอดีตมาเป็นบทเรียนอย่าง

กรณีปัญหาที่เกิดขึ้นตอนพฤษาทมิฬ ก็เกิดจากการแทรกแซงสื่อ ท่านก็ไม่สนใจแต่ถือ

คัมภีร์ที่ว่าตราบใดที่คุมสื่อได้ อำนาจก็ยังอยู่ โดยได้ดำเนินการตั้งแต่เปลี่ยนสถานีโทรทัศน์

ช่อง11 กรมประชาสัมพันธ์ มาเป็นเอ็นบีที ส่วน อสมท.ที่มี นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการ

ผู้อำนวยการใหญ่บริษัท อสมท.จำกัด (มหาชน) ก็ถูกจี้ให้ออกตลอด แต่รัฐบาลหน้าแตก

เพราะเขามีผลกำไรร้อยกว่าล้าน หรือ ร่าง พ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับกิจการวิทยุ

กระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.... ซึ่งเจตนาของกฎหมายต้องการ

ให้ กสช. มีอิสระก็หายไป แต่กลับเปลี่ยนไปให้คณะรัฐมนตรีเลือกแทนวุฒิสภา การที่

รัฐบาลไม่ตั้งใจทำเรื่องนี้ทำให้มีคลื่นวิทยุเถื่อนจำนวนมาก
"สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นว่ามีความพยายามปิดกั้นสื่อของรัฐบาลนายสมัคร ซึ่ง

นายกฯ ตอบคำถามไม่ตรงประเด็น ตอบคำถามแบบสั้น ห้วน ไม่มีประเด็น นอกจากนี้ยัง

ชอบพูดจาเสียดสีฝ่ายตรงข้าม สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สื่อฝากถึงนายกฯซึ่งสื่อไม่ใช่ผู้วิเศษแต่ท่าน

เป็นนายกฯ ขอให้ปรับปรุงตรงนี้แล้วทำงาน ขอให้ศึกษาและเปลี่ยนแปลง หยุดทะเลาะกับ

สื่อ เพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้" นายสมชายกล่าว

**"เหลิม"ยอมรับโกหกประชาชน
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา อภิปรายถึงพฤติกรรมของ ร.ต.อ.เฉลิม

อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ได้มีการเรียกผู้ว่าราชการจังหวัด ไปสั่งให้ปิดการถ่ายทอดสัญญาณ

เอเอสทีวี ของเคเบิลทีวีท้องถิ่น และยังมีพฤติกรรมพูดจายั่วยุ ท้าทายประชาชนพูดน้ำเน่า

จนคนเบื่อหน่ายกันทั้งโลก แล้วมีการออกคำสั่งขัดขวางการชุมนุมด้วยหน้าตาขึงขัง พอวัน

รุ่งขึ้นก็มาแก้ตัวว่าไม่ได้สั่งการ
ส่วนนายกฯ ก็ยังมีพฤติกรรมสร้างความแตกแยกให้บ้านเมือง นอกจากจะใช้

วาจา ยังมีสายตาแสวงหาศัตรู ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ มีสมาชิกเพิ่มนับแสนคน เพราะท่าที

เชื่อมั่นตัวเอง ขึงขังถือเป็นลักษณะของคนที่ใช้ปัญหาน้อย ขออย่าได้ลำพองใจในเสียงข้าง

มาก เพราะไม่ใช่สิ่งถาวร
ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ลุกขึ้นมาตอบโต้อีกครั้ง โดยยอมรับว่า

ที่ออกมาพูดเรื่องข่าวขนอาวุธ และประชุมกันที่สำนักงานทนายความ ที่บางโพ เพราะต้อง

การตีปลายหน้าไซ เพียงต้องการบอกผู้ชุมนุมว่า อย่าทำ ซึ่งถือเป็นผลดีต่อบ้านเมือง ทำให้

ประชาชนไม่มาร่วมชุมนุมมากขึ้น
"ผมไม่ใช่เด็กเลี้ยงแกะ ความจริง แกะถือเป็นตำนานการปกครองระบอบ

ประชาธิปไตยในประเทศอังกฤษ เพราะประชาชนมีความสามารถทำรายได้จากการเลี้ยงแกะ

จึงออกมาเรียกร้องให้มีประชาธิปไตย และยังเป็นตำนานของคนเล่นกอล์ฟ โดยเดินตามฝูง

แกะ ตีไปเดินไป จนกลายเป็นกีฬาที่ยอมรับทั่วโลก"

**ตะแบงไม่เคยสั่งปิดเคเบิ้ลทีวี
ร.ต.อ. เฉลิม ชี้แจงอีกว่า การสั่งปิดเคเบิลทีวีไม่ทราบ ส.ว. เอาข้อมูลจากไหน

เป็นการพูดสวนกระแสจากข้อเท็จจริง ตนไม่เคยสั่งปิด ให้เอาหลักฐานมายืนยัน ถ้ามีหลัก

ฐานตนจะลาออกคืนนี้เลย ถ้าไม่มีหลักฐาน ขออนุญาตเอาไม้เรียวตีก้นคนละ 5 ที ได้หรือไม่

ตนไม่ได้เป็นผู้กำหนดกฎหมายห้ามถ่ายทอดเคเบิลทีวีขึ้น แต่กฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 85

มีนานแล้ว เพียงยังไม่เคยมีการนำมาใช้ เพราะในอดีต ไม่มีพวกบ้าบอ ออกมาด่าในที่

สาธารณะซึ่งตนได้นั่งอ่านกฎหมายเห็นว่าสามารถนำมาดำเนินการกับกรณีนี้ได้ ไม่คิดว่า

คนที่เก่งกฎมาย จะไม่เอาความจริงมาพูด เพราะทำให้รัฐบาลเสื่อมเสีย ประชาชนคิดว่าเรา

ไม่สั่งปิดจริง
"ผมยอมรับว่าได้มีคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เรียกผู้ประกอบการเคเบิลทีวีมา

อธิบายให้ฟังว่า แม้จะมีการถ่ายทอดต่อมาจาก เอเอสทีวี โดยเป็นลักษณะการประกาศ

โฆษณาให้คนกระทำความผิด ก็ถือว่าเข้าข่าย มาตรา 85 ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่รู้ เมื่อพวก

เขารู้แล้วก็ยินดีให้ความร่วมมือ เพราะไม่มีใครปิดถนนด่าโคตรพ่อโคตรแม่ พูดจาหยาบคาย

ไม่มีการเซ็นเซอร์ เอเอสทีวี เป็นสถานีเดียวในโลกที่ทำความผิดตลอด 24 ชั่วโมง ถ้ารัฐบาล

จะฟ้องต้องใช้ทนายถึง 500 คน ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไร จึงขอท้าให้เอาหลักฐาน

ที่ผมสั่งมายืนยัน" ร.ต.อ.เฉลิม ย้ำทิ้งท้าย
นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา ลุกขึ้นกล่าวว่า ไม่ขอตอบโต้ ร.ต.อ.เฉลิม แต่

ที่อ้างว่ารัฐบาลได้ไปพบกับผู้ประกอบการเคเบิลทีวีนั้น ตนจะไปตรวจสอบอีกครั้ง และไม่

คิดจะไปรับคำท้า เพราะสภาแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่เล่นการพนัน ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม ได้ตอบ

สวนทันควันว่า ไม่ต้องลงไปตรวจสอบ ตนจะสั่งให้เจ้าหน้าที่นำคำสั่งดังกล่าวมามอบให้เอง
กำลังโหลดความคิดเห็น