“หมอนิรันดร์” แฉกลุ่มทาสแม้วเดินเกมฮุบคลื่นความถี่ชุมชน

อุบลราชธานี- รัฐบาล “สมัคร” นอมินีทักษิณแอบเติมเชื้อไฟเสนอขอแก้ร่าง พ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่วิทยุและโทรทัศน์ หวังฮุบคลื่นทั้งหมดมาบริหารแบบธุรกิจใช้มอมเมาคนทั้งประเทศให้สติปัญญาต่ำ ชี้นำได้ง่าย ขณะเดียวกับชุมชนคนเมืองดอกบัวลั่นพร้อมขึ้นจอโปรเจกเตอร์ 4 มุมเมือง หากภาครัฐกดดันเคเบิลทีวีจนต้องตัดสัญญาณ ASTV

วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่ศูนย์ข่าวประชาสังคม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ร่วมกับตัวแทนภาคประชาชน นักวิชาการ และสื่อมวลชนระดมความเห็นต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีการถ่ายทอดสดจากสถานีโทรทัศน์ ASTV และสถานีเคเบิลของจังหวัดได้รับสัญญาณการถ่ายทอดมาให้ประชาชนชม

แต่ผู้ประกอบการกำลังถูกข่มขู่จากข้าราชการในจังหวัด เพื่อให้ตัดสัญญาณการถ่ายทอด แต่ผู้ประกอบการสถานีเคเบิลทีวีของจังหวัด ยังยืนยันถ่ายทอดสัญญาณต่อไปจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร

ในที่ประชุมจึงมีข้อตกลงร่วมกัน หากอนาคตสถานีเคเบิลทีวีจำเป็นต้องตัดสัญญาณการถ่ายทอดของสถานี ASTV NEWS1 ตามข้อจำกัดทางกฎหมาย หรือระเบียบของทางราชการ เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี จะติดตั้งจอโปรเจกเตอร์ 4 มุมเมือง พร้อมเคลื่อนมวลชนออกมาร่วมติดตามชมการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตามมุมต่างๆ ของตัวเมือง

นอกจากนี้ ในการหารือยังได้มีการวิเคราะห์ร่างแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ซึ่งมีการนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.วันที่ 10 มิ.ย.2551 โดยมีการเสนอแก้ไขในมาตรา 47 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งร่างเดิมได้บัญญัติให้มีองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระเป็นผู้ทำหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุและโทรทัศน์คือ กสช.และ กทช.องค์กรละ 7 คน ต่อจากนั้นส่งรายชื่อให้วุฒิสภาเป็นผู้คัดเลือกคนมาดำรงตำแหน่งให้เหลือ 7 คน

แต่ร่างแก้ไขที่ส่งเข้า ครม.วันที่ 10 มิ.ย.ได้ตัดองค์กรอิสระที่มาทำหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่เหลือเพียงองค์กรเดียว คือ กสช.และให้อำนาจรัฐบาลเป็นผู้คัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งจำนวน 10 คน และไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นที่จะต้องมีการจัดสรรคลื่นความถี่ที่มีอยู่ทั้งหมดให้ชุมชนรับไปบริหารร้อยละ 20 ทั้งที่ของเดิมมีระบุไว้ในรัฐธรรมนูญปี 2550 ด้วย

นพ.นิรันดร์ กล่าวถึงเงื่อนงำและผลกระทบจากร่างฉบับแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่อย่างเป็นรูปธรรม คือ ชุมชนไม่มีส่วนร่วมบริหารจัดการ ไม่สามารถมีสื่อภายใต้การดำเนินงานของชุมชน แต่จะเป็นสื่อที่ถูกบริหารโดยภาคธุรกิจขนาดใหญ่ และถูกคลอบงำอยู่ภายใต้ระบบทุนนิยมผูกขาด ประชาชนจะถูกมอมเมาให้บริโภคเฉพาะเรื่องไร้สาระ เพราะไม่มีตัวเลือกให้รับบริโภคได้อย่างหลากหลาย รวมทั้งถ้ารัฐบาลเป็นผู้กำหนดคนมาทำหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ ก็จะมีผลต่อความเป็นอิสระของคณะกรรมการ กสช.

“ซึ่งถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งถ้าสื่อตกอยู่ภายใต้การครอบงำของรัฐบาล ง่ายต่อการถูกนำไปบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อยั่วยุให้สังคมแตกแยกเหมือนกรณีการใช้กรมประชาสัมพันธ์ออกข่าวบิดเบือนการชุมนุมของประชาชนในเหตุการณ์ 14 ตุลาปี 16 และ 6 ตุลาปี 19 ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมาแล้ว”

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ขณะเดียวกัน กลุ่มสหเครือข่าย อาทิ กลุ่มตลาดต้นยาง กลุ่มคนสันเขื่อนริมมูล กลุ่มคนฟุตปาธทางเท้า กลุ่มพลังงานสิ่งแวดล้อม กลุ่มบ้านมั่นคง และกลุ่มฟื้นฟูหนี้สิน ซึ่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดอุบลราชธานี ได้ประกาศเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อกดดันรัฐบาลให้แสดงความชัดเจนต่อการสุ่มเสี่ยงการสูญเสียพื้นที่รอบตัวปราสาทพระวิหาร โดยจะไปรวมตัวกันที่ผามออีแดง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อย่างไม่มีกำหนดด้วย