นครศรีธรรมราช – รองโฆษก ปชป.ชี้“เฉลิม”บังคับ ข่มขู่ แทรกแซงการทำหน้าสื่อ ละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 45-48 ที่ให้หลักประกันไว้เข้มงวดมาก เตือนระวังมีจุดจบเดียวกับ“จักรภพ” ด้านพี่น้องชาวลุ่มน้ำปากพนัง ชี้หากสั่งปิดสัญญาณ ASTV จะรวมตัวชุมนุมหน้าศาลากลางทันที พร้อมวางแนวทางระดมทุน-จัดรถร่วมสมทบวันดีเดย์แน่นอน
วานนี้ (14 มิ.ย.) นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ใคร่ครวญให้รอบคอบก่อนการปฏิบัติตามคำสั่งของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีห้ามเคบิลทีวีท้องถิ่นถ่ายทอดสัญญาณของสถานีโทรทัศน์ ASTV เพราะคำสั่งดังกล่าวอาจขัดต่อกฎหมายและละเมิดรัฐธรรมนูญ
ร.ต.อ.เฉลิมเองไม่ควรคิดเพียงแค่ความสุขใจที่ได้ช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับนายสมัคร สุนทรเวช แต่ควรไปดู พ.ร.บ.การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ที่ให้อำนาจการบริหารจัดการสถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์อยู่ในการดูแลของ กสช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่จะจัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ และระหว่างนี้ ก็ยังเป็นอำนาจของ กทช.หรือคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม ที่จะต้องเข้ามากำกับในนามของอนุกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ร.ต.อ.เฉลิมอ่านแต่ประมวลกฎหมายอาญาแล้วคิดจะเล่นงานสื่อมวลชนคงไม่พียงพอ เพราะถ้าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาก็ให้ดำเนินคดีกับตัวบุคคลไป แต่จะมาเหมารวมก้าวล่วงถึงการทำหน้าที่ของสื่อสารมวลชนเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า การไปบังคับ ข่มขู่ หรือแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนทำไม่ได้แน่นอนเพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 45-48 ให้หลักประกันเรื่องนี้ไว้เข้มงวดมาก ยิ่งคิดจะไปสั่งปิดสถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ยิ่งย้อนยุคและทำไม่ได้เลย อยากเตือนร.ต.อ.เฉลิมว่า ถ้าไม่ตระหนักกับเรื่องนี้ ระวังว่าอาจจะต้องเดินเข้าสู่เส้นทางและมีจุดจบเดียวกับนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำลังถูกป.ป.ช.ดำเนินกระบวนการถอดถอนอันเนื่องมาจากการแทรกแซงสื่อมวลชนในขณะนี้
ด้านนายสมคิด พจน์จำเนียร แกนนำกลุ่มพันธมิตรลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่าภายหลังจากที่ได้รับทราบว่านายเฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย มีคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นตัดสัญญาณ ASTV นั้น ในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราชโดยเฉพาะในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังนั้นปรากฏว่าเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นยังไม่ได้มีการตัดสัญญาณ ASTV แต่อย่างใด ชาวบ้านยังสามารถที่จะติดตามรับชมการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่กรุงเทพฯได้อย่างปกติ
นายสมคิด กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่าชาวบ้านในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังทั้งในตัวเมืองและชานเมืองได้มีการติดตั้งเคเบิลทีวีกันเป็นจำนวนมาก จุดประสงค์เพื่อต้องการที่จะติดตามข่าวการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมองว่าหากผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชมีคำสั่งให้เคเบิลทีวีท้องถิ่นตัดสัญญาณ ASTV ชาวบ้านคงจะไม่ยอมแน่นอนเพราะเป็นการปิดหูปิดตาด้านข่าวสาร และได้มีชาวบ้านหลายรายที่ได้มาสอบถามเพราะหวั่นเกรงว่าจะถูกตัดสัญญาณ
จึงได้มีมติร่วมกันว่าหากผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งตัดสัญญาณ ASTV พันธมิตรลุ่มน้ำปากพนังจะรวมตัวกันมาชุมนุมประท้วงหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราชแน่นอน และในแง่ของกฏหมาย ก็พร้อมที่จะเป็นเจ้าทุกข์ในการแจ้งความดำเนินคดีได้หากมีการสั่งตัดสัญญาณเอเอสทีวี
นายสมคิด กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันในระดับแกนนำในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังพร้อมทั้งได้มีการวางแนวทาง และการระดมทุนจากคนลุ่มน้ำ เพื่อที่จะจัดรถและเดินทางไปร่วมสมทบกับกลุ่มลุ่มน้ำปากพนังที่ยังคงปักหลักร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯอีกครั้งหนึ่งในไม่กี่วันนี้เนื่องจากได้มีชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง ได้เรียกร้องที่จะเดินทางไปชุมนุมร่วมกันที่สะพานมัฆวานเพราะชาวบ้านในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังที่มีอาชีพทำประมงเป็นหลักจำนวนมากมีความเดือดร้อนจากหลายปัญหาที่ประดังเข้ามาในระยะนี้ จนชาวบ้านทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของรัฐบาลชุดนี้
ทางด้านนายโอสถ สุวรรณเศวต กรรมการพันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ กล่าวว่าจากการพูดคุยทางโทรศัพท์ประสานงานกับแกนนำพันธมิตรฯในจังหวัดต่างๆของภาคใต้นั้นมีข้อสรุปร่วมกันว่าในระยะนี้ให้กลุ่มพันธมิตรฯแต่ละจังหวัดอยู่ประจำพื้นที่ และจากการตรวจสอบแต่ละจังหวัดในภาคใต้เคเบิลทีวีท้องถิ่นยังไม่มีการตัดสัญญาณ ASTV แต่อย่างใดยังคงรับชมการชุมนุมที่สะพานมัฆวานได้ตามปกติ แต่ถ้าหากมีการตัดสัญญาณ ASTV เมื่อไหร่ก็จะมีการขับเคลื่อนครั้งใหญ่แน่นอน
นายโอสถ กล่าวอีกว่า ประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้มีความตื่นตัวทางด้านข่าวสารทั้ง 2 ฝ่ายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นฝ่ายพันธมิตรหรือฝ่ายรัฐบาล ประชาชนก็จะเฝ้าคอยติดตามชั่งน้ำหนักของข่าวสารแล้วนำมาวิเคราะห์ เมื่อพบว่าฝ่ายพันธมิตรทำถูกต้องที่ออกมาปกป้องรัฐธรรมนูญและพระมหากษัตริย์ก็เห็นด้วย จึงได้มีการรวมตัวกันชุมนุมดังกล่าวขึ้น
ส่วนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการรวมตัวกันที่ศาลาประดู่หก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราชและที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นอกจากนี้ก็ได้ประสานกับเวทีใหญ่อยู่ตลอดเวลาว่าจะมีการดีเดย์กันวันไหนก็พร้อมที่จะสนับสนุนได้ทันที
วานนี้ (14 มิ.ย.) นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ใคร่ครวญให้รอบคอบก่อนการปฏิบัติตามคำสั่งของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีห้ามเคบิลทีวีท้องถิ่นถ่ายทอดสัญญาณของสถานีโทรทัศน์ ASTV เพราะคำสั่งดังกล่าวอาจขัดต่อกฎหมายและละเมิดรัฐธรรมนูญ
ร.ต.อ.เฉลิมเองไม่ควรคิดเพียงแค่ความสุขใจที่ได้ช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับนายสมัคร สุนทรเวช แต่ควรไปดู พ.ร.บ.การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ที่ให้อำนาจการบริหารจัดการสถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์อยู่ในการดูแลของ กสช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่จะจัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ และระหว่างนี้ ก็ยังเป็นอำนาจของ กทช.หรือคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม ที่จะต้องเข้ามากำกับในนามของอนุกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ร.ต.อ.เฉลิมอ่านแต่ประมวลกฎหมายอาญาแล้วคิดจะเล่นงานสื่อมวลชนคงไม่พียงพอ เพราะถ้าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาก็ให้ดำเนินคดีกับตัวบุคคลไป แต่จะมาเหมารวมก้าวล่วงถึงการทำหน้าที่ของสื่อสารมวลชนเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า การไปบังคับ ข่มขู่ หรือแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนทำไม่ได้แน่นอนเพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 45-48 ให้หลักประกันเรื่องนี้ไว้เข้มงวดมาก ยิ่งคิดจะไปสั่งปิดสถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ยิ่งย้อนยุคและทำไม่ได้เลย อยากเตือนร.ต.อ.เฉลิมว่า ถ้าไม่ตระหนักกับเรื่องนี้ ระวังว่าอาจจะต้องเดินเข้าสู่เส้นทางและมีจุดจบเดียวกับนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำลังถูกป.ป.ช.ดำเนินกระบวนการถอดถอนอันเนื่องมาจากการแทรกแซงสื่อมวลชนในขณะนี้
ด้านนายสมคิด พจน์จำเนียร แกนนำกลุ่มพันธมิตรลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่าภายหลังจากที่ได้รับทราบว่านายเฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย มีคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นตัดสัญญาณ ASTV นั้น ในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราชโดยเฉพาะในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังนั้นปรากฏว่าเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นยังไม่ได้มีการตัดสัญญาณ ASTV แต่อย่างใด ชาวบ้านยังสามารถที่จะติดตามรับชมการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่กรุงเทพฯได้อย่างปกติ
นายสมคิด กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่าชาวบ้านในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังทั้งในตัวเมืองและชานเมืองได้มีการติดตั้งเคเบิลทีวีกันเป็นจำนวนมาก จุดประสงค์เพื่อต้องการที่จะติดตามข่าวการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมองว่าหากผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชมีคำสั่งให้เคเบิลทีวีท้องถิ่นตัดสัญญาณ ASTV ชาวบ้านคงจะไม่ยอมแน่นอนเพราะเป็นการปิดหูปิดตาด้านข่าวสาร และได้มีชาวบ้านหลายรายที่ได้มาสอบถามเพราะหวั่นเกรงว่าจะถูกตัดสัญญาณ
จึงได้มีมติร่วมกันว่าหากผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งตัดสัญญาณ ASTV พันธมิตรลุ่มน้ำปากพนังจะรวมตัวกันมาชุมนุมประท้วงหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราชแน่นอน และในแง่ของกฏหมาย ก็พร้อมที่จะเป็นเจ้าทุกข์ในการแจ้งความดำเนินคดีได้หากมีการสั่งตัดสัญญาณเอเอสทีวี
นายสมคิด กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันในระดับแกนนำในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังพร้อมทั้งได้มีการวางแนวทาง และการระดมทุนจากคนลุ่มน้ำ เพื่อที่จะจัดรถและเดินทางไปร่วมสมทบกับกลุ่มลุ่มน้ำปากพนังที่ยังคงปักหลักร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯอีกครั้งหนึ่งในไม่กี่วันนี้เนื่องจากได้มีชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง ได้เรียกร้องที่จะเดินทางไปชุมนุมร่วมกันที่สะพานมัฆวานเพราะชาวบ้านในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังที่มีอาชีพทำประมงเป็นหลักจำนวนมากมีความเดือดร้อนจากหลายปัญหาที่ประดังเข้ามาในระยะนี้ จนชาวบ้านทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของรัฐบาลชุดนี้
ทางด้านนายโอสถ สุวรรณเศวต กรรมการพันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ กล่าวว่าจากการพูดคุยทางโทรศัพท์ประสานงานกับแกนนำพันธมิตรฯในจังหวัดต่างๆของภาคใต้นั้นมีข้อสรุปร่วมกันว่าในระยะนี้ให้กลุ่มพันธมิตรฯแต่ละจังหวัดอยู่ประจำพื้นที่ และจากการตรวจสอบแต่ละจังหวัดในภาคใต้เคเบิลทีวีท้องถิ่นยังไม่มีการตัดสัญญาณ ASTV แต่อย่างใดยังคงรับชมการชุมนุมที่สะพานมัฆวานได้ตามปกติ แต่ถ้าหากมีการตัดสัญญาณ ASTV เมื่อไหร่ก็จะมีการขับเคลื่อนครั้งใหญ่แน่นอน
นายโอสถ กล่าวอีกว่า ประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้มีความตื่นตัวทางด้านข่าวสารทั้ง 2 ฝ่ายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นฝ่ายพันธมิตรหรือฝ่ายรัฐบาล ประชาชนก็จะเฝ้าคอยติดตามชั่งน้ำหนักของข่าวสารแล้วนำมาวิเคราะห์ เมื่อพบว่าฝ่ายพันธมิตรทำถูกต้องที่ออกมาปกป้องรัฐธรรมนูญและพระมหากษัตริย์ก็เห็นด้วย จึงได้มีการรวมตัวกันชุมนุมดังกล่าวขึ้น
ส่วนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการรวมตัวกันที่ศาลาประดู่หก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราชและที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นอกจากนี้ก็ได้ประสานกับเวทีใหญ่อยู่ตลอดเวลาว่าจะมีการดีเดย์กันวันไหนก็พร้อมที่จะสนับสนุนได้ทันที