“สมเกียรติ” แฉ กกต.รู้เห็นเป็นใจตั้งแต่เจ้าหน้าที่ยันกรรมการฯ ปล่อยเอกสารปลอมปรักปรำ พยานปากเอกมัด “ยุทธ ตู้เย็น” ว่าเป็นคนของ “ปชป.” ชี้นำสืบหลักฐานเท็จต่อศาลโทษถึงติดคุกนับสิบปี เชื่อ 8ก.ค.นี้ ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย “พรรคพลังประชาชน” โดนใบแดงยุบพรรคแน่ จวก “ลูกกรอก” ได้ชัยชนะจากการปล้น และโกงเลือกตั้งตบหน้าประชาชน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
วันนี้ (11 มิ.ย.) เมื่อเวลา 20.57 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ว่า ต่อจากนี้จะมีคดียุบพรรคเกิดขึ้นอีก จะมีการยุบพรรคการเมืองเป็นพรรคที่สี่ หลังจากที่ศาลเคยสั่งยุบพรรคการเมืองมาแล้ว 3พรรคในอดีต โดยตำรวจสองคน ไปอ่านประมวลกฎหมายอาญา เพราะว่าแก้ไขวันที่ 8 ก.ค. วันเดียวทำเสร็จเลย เร็วมาก พอไปส่งศาลฎีกาแผนกเลือกตั้ง ศาลก็ลงเลขประทับเลย คดีนี้จะตัดสินวันที่ 8 ก.ค.นี้ แล้วพันธมิตรฯ จะอยู่จนถึงรอฟังคำพิพากษาในวันนั้น
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า คนที่บอกว่าพยานปากเอกของคดีนายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ พยานปากเขาประกาศอยู่เสอว่าเขาจะทำงานเพื่อชาติและราชบัลลังก์ นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ แห่งเชียงราย นี่คือผู้กล้าของแผ่นดิน เขาซื้อพยานปากอื่นหมด แต่พยานปากนี้บอกว่าเพื่อชาติและราชบัลลังก์
“พ.ต.อ.ณัฐศักดิ์ นานาวัน ผอ.สสว.5 รีบทำเลยว่านายชัยวัฒน์ เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ฉลาดก่อนจะเขียนทำหนังสือไปถามฝ่ายพรรคการเมืองที่นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการ กกต.คุมอยู่ ฝ่ายพรรคการเมืองก็ร่วมมือด้วย ส่งหนังสือกลับมาลงชื่อ นายธนิศร์ ศรีประเทศ ผ.อ.สำนักกิจการพรรคการเมือง ระบุว่า พบชื่อบุคคลดังกล่าวแล้วเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กกต.คนหนึ่ง สำนักอีกสำนักหนึ่ง พ.ต.ท.ใน กกต.อีกคนหนึ่ง ฉะนั้นวันจันทร์เราจะไปให้กำลังใจ กกต.สามคนนี่ถูกต้องแล้ว” นายสมเกียรติ ระบุ
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า พอพวกตำรวจไปเปิดกฎหมายดู ไปสืบพยานในศาล ไปเปิดประมวลกฎหมายอาญาดู ในมาตรา 180 “ผู้ใดนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จใน การพิจารณาคดี ถ้าเป็นพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดีนั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ได้กระทำในการพิจารณาคดี อาญาผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นสี่พันบาท” ตำรวจสองคนนี้อ่านเป็นลมเกือบตาย ไปให้การเท็จนำสืบเท็จต่อศาลฎีกาด้วย
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า อีกมาตรา 162 “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการดังต่อไปนี้ในการปฏิบัติการ ตามหน้าที่ (1) รับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่า การอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ (2) รับรองเป็นหลักฐานว่า ได้มีการแจ้งซึ่งข้อความอันมิได้มี การแจ้ง (3) ละเว้นไม่จดข้อความซึ่งตนมีหน้าที่ต้องรับจด หรือจด เปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น หรือ (4) รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ ความจริงอันเป็นความเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท” รวม 14 ปี ตายพอดี นี่ยังไม่รวมมาตรา 157 เจ้าพนักงานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าทีโดยมิชอบ พอเห็นรีบรับสารภาพเลย
ทั้งนี้ นายสมเกียรติ ยังได้กล่าวถึงที่มาของข้อมูลดังกล่าวด้วยว่า เหตุที่พันธมิตรฯ ได้ข้อมูลนี้มา เราประชุมกลั่นกรองมาสองวัน คุณสนธิบอกว่ามีตำรวจและกกต.ที่รักชาติแอบส่งให้เรา แต่เราไม่อยากโดนลับลวงพราง จึงได้ตรวจสอบอย่างละเอียดมาสองวัน แล้วตัดสินใจว่าวันนี้ต้องเอาเรื่องนี้ก่อน
“วันนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะว่าชัยชนะของรัฐบาลที่ได้มา มันมาจากการปล้นชัยชนะของพรรคการเมือง และทุจริตการเลือกตั้งตบหน้าประชาชน” นายสมเกียรติ
นายสมเกียรติ กล่าวด้วยว่า วันจันทร์นี้ (16 มิ.ย.) จะเป็นวันประวัติศาสตร์ จำได้ไหมเมื่อปี 49 ที่ตนไปถล่ม 3 หนา (อดีต กกต.) 10 กว่าข้อ วันรุ่งขึ้นก็แจ้งจับตนแต่เขาสั่งไม่ฟ้อง แต่ 3 หนาติดคุก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าอีกไม่นานรับรองว่าคราวนี้เรามาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแน่ อีกไม่กี่วันชัยชนะจะเป็นของประชาชนอย่างแน่นอน
