“ กำนันชัยวัฒน์ ” พยานปากเอกคดีใบแดงยงยุทธ ร้องศาลฎีกา กล่าวหา"ยงยุทธ"ส่งหลักฐานปลอมสวมชื่อเป็นสมาชิก ปชป. เพิ่มน้ำหนักข้อต่อสู้ถูกพรรคตรงข้ามจัดฉาก
วันนี้ (11 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลฎีกา สนามหลวง น.ส.รัศมี เพ็ญสุข ทนายความจากสภาทนายความ พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย ประจักษ์พยานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ กกต.ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วน กลุ่มที่ 1 พรรคพลังประชาชน ซึ่งถูก กกต.แจกใบแดงและให้จัดการเลือกตั้งใหม่ จ.เชียงราย เขต 3 กรณีที่ น.ส.ละออง ติยะไพรัช ส.ส.ถูกแจกใบเหลือง ซึ่งทั้งสองกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 ด้วยการทุจริตการเลือกตั้งด้วยการแจกเงินให้กับกลุ่มกำนัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นตัวแทน (หัวคะแนน) ของนายยงยุทธ แจกเงินซื้อเสียงเพื่อให้มีการลงคะแนนเลือกผู้สมัครของพรรคประชาชน เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ไต่สวนเอกสารหนังสือของสำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 5 สำนักงาน กกต. ลงวันที่ 8 พ.ค.51 ซึ่งนายยงยุทธ ได้ยื่นต่อศาลในการเบิกความชั้นไต่สวนจำเลยเมื่อวันที่ 14 พ.ค.51 ระบุว่านายชัยวัฒน์เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเอกสารที่เป็นเท็จ มีการปกปิดและเปลี่ยนแปลงข้อมูลให้ผิดไปจากความเป็นจริงเพื่อให้สอดคล้องกับข้อต่อสู้ที่อ้างว่าถูกจัดฉากโดยพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ตนไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยมาโดยตลอด เมื่อถูกยุบพรรคก็มาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชน และก็ได้ยืนยันในการเบิกความต่อศาลไปแล้ว ไม่ทราบว่าใครแอบเอาชื่อไปสมัครสมาชิก หลังเป็นพยานเบิกความในศาล ถูกทนายความของนายยงยุทธยื่นฟ้องฐานเบิกความเท็จไปแล้วถึง 9 คดี
ด้าน น.ส.รัศมี กล่าวว่า เอกสารของ กกต.ที่นายยงยุทธยื่นเป็นพยานต่อศาลมีพิรุธหลายประการ คือ เอกสารดังกล่าวลงวันที่ 8 พ.ค.51 ลงนามโดย พ.ต.อ.ณัฐศักดิ์ นานาวัน ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและวินิจฉัย 5 ทั้งที่ความจริงในวันดังกล่าว พ.ต.อ.ณัฐศักดิ์ รับผิดชอบว่าความอยู่ที่ศาลฎีกาตลอดทั้งวัน จึงน่าสงสัยว่าหนังสือจะออกโดยไม่ถูกต้อง และผู้ที่นำหนังสือที่เป็นเท็จไปยื่นต่อศาลฎีกา มีความผิดต่อเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.180 และถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล จึงเดินทางมายื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนว่าเอกสารดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่ ถ้าไม่จริงใครบ้างที่มีส่วนรู้เห็น และนำคนทำผิดมาลงโทษ เชื่อว่าจะไม่กระทบกับการพิจารณาพิพากษาคดีใบแดงให้ล่าช้า