“นายกฯ” เบี้ยวนัด “ผู้นำฝ่ายค้าน” อ้างได้รับหนังสือขอเปิดอภิปรายจากสมาชิกพรรค ปชป.เรียบร้อยแล้ว “โฆษกรัฐบาล” เผย “หมัก” ยังไม่ตัดสินใจส่งเรื่องประธานสภาฯ ขอเปิดตามคำขอ “วิปฝ่ายค้าน” อ้างเพิ่งรับเรื่อง
วันนี้ (12 มิ.ย.) พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวด่วนต่อสื่อมวลชนว่า จากกรณีที่มีข่าวว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะไปพบกับนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ (12 มิ.ย.) เวลา 11.30 น.นั้น ขอชี้แจงว่า เนื่องจากทางพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำหนังสือขอให้รัฐบาลเปิดอภิปราย ตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2550 กรณีนี้ถ้ามีเรื่องต้องการจะซักถามก็สามารถเปิดอภิปรายได้ เมื่อมีข่าวหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านทำหนังสือขอเปิดอภิปรายและนำมามอบให้กับนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลวานนี้ (11 มิ.ย.) ซึ่งก่อนยื่นนายกรัฐมนตรีแจ้งไปว่าไม่ต้องมาทำเนียบรัฐบาล โดยจะเดินทางไปรับหนังสือที่รัฐสภา เวลา 11.30 น.ด้วยตัวเอง คือไม่ต้องการรบกวนหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านให้เดินทางมาถึงทำเนียบ แต่ปรากฏว่าวานนี้ (11 มิ.ย.) เวลา 14.30 น.ได้มีทีมคณะของพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน ได้นำหนังสือดังกล่าวจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มายื่นแล้ว โดยรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือไว้และนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว
“ฉะนั้น วันนี้ไม่มีการพบกันที่สภาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านอีก เนื่องจากวัตถุประสงค์ในการพบได้บรรลุเรียบร้อยแล้ว คือได้รับหนังสือจากหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านแล้ว และนายกรัฐมนตรีจะดำเนินการต่อไป” โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินการหมายความว่าจะทำตามข้อเรียกร้องของฝ่ายค้านใช่ไหม โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เป็นอำนาจของรัฐสภาที่จะเปิดให้มีการอภิปรายได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญมาตรา 179 ระบุว่ากรณีที่มีปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่คณะรัฐมนตรีเห็นสมควรจะฟังความคิดเห็นของ ส.ส.และส.ว. นายกรัฐมนตรีจะแจ้งไปยังประธานสภาขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในการประชุมร่วมของรัฐสภาก็ได้ กรณีเช่นว่านี้รัฐสภาจะลงมติในปัญหาที่อภิปรายมิได้ ซึ่งเวลานี้นายกรัฐมนตรีได้รับหนังสือเรียบร้อยแล้ว ก็จะส่งไปให้ทางประธานรัฐสภาเพื่อให้เปิดอภิปรายตามที่ฝ่ายค้านต้องการ
เมื่อถามว่า ตกลงว่านายกรัฐมนตรีจะแจ้งไปยังประธานสภาใช่หรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะแจ้งไปยังสภาเพื่อเปิดอภิปราย เมื่อถามว่าเบื้องต้นได้ขอไปว่าเป็นช่วงเวลาใดหรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แล้วแต่สภา เปิดเวลาให้เมื่อไรก็เมื่อนั้น เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรียอมเปิดให้ฝ่ายค้านอภิปรายหรือโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ได้ ถ้ามีปัญหาอะไรอยากจะซักฟอก สอบถามก็ยินดี เมื่อถามว่าจะซ้ำซ้อนกับการที่สมาชิก ส.ว.ขอเปิดอภิปรายไว้หรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของประธานสภาผู้แทนฯ
ภายหลังการแถลงข่าว โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ลงจากโต๊ะแถลงมายืนกล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า เมื่อนายกฯ ได้รับหนังสือแล้วก็จะนำมาพิจารณาว่าประเด็นอะไร เป็นยังไง ต้องการอะไรบ้าง หลังจากนั้นท่านจะทำหนังสือถึงประธานสภาฯ ว่าทางฝ่ายค้านต้องการให้เปิดอภิปราย ซึ่งเวลานี้ยังไม่ได้กำหนดเวลาว่าจะส่งไปวันไหน การที่นายกรัฐมนตรียกเลิกไปพบผู้นำฝ่ายค้าน เป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์ได้มายื่นหนังสือแล้ว ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์เรียบร้อย ไม่มีความจำเป็นต้องไปพบผู้นำฝ่ายค้าน หากนายสาทิตย์ไม่มายื่นหนังสือ วันนี้ (12 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรีก็จะไปรับหนังสือเอง เพราะนายกรัฐมนตรีต้องการอำนวยความสะดวกให้กับพรรคฝ่ายค้านโดยไม่ต้องมาทำเนียบ
เมื่อถามว่า สัปดาห์หน้าจะสามารถยื่นเรื่องไปยังประธานสภาฯ ได้หรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบ พอได้รับหนังสือ ฝ่ายธุรการก็ต้องนำมาประมวลก่อนให้เรียบร้อยถึงจะส่งหนังสือพร้อมคำขอของนายกรัฐมนตรีไปยังสภา ซึ่งเงื่อนเวลานั้นยังตอบไม่ได้และทางสภาจะให้เวลาเมื่อไรก็ตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภาจะพิจารณา
ผู้สื่อข่าวย้ำถามว่า ตกลงนายกรัฐมนตรียอมให้เปิดหรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯ รับเรื่องแล้วและจะพิจารณา ตอนนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะเพิ่งได้รับหนังสือ ถ้าตัดสินแล้วจะส่งเรื่องให้ประธานสภาฯ เมื่อถามว่าถ้ารัฐบาลมีคำตอบถึงจะส่งให้ประธานสภา โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ใช่ ตอนนี้ยังไม่ส่งให้ประธานสภาฯ เพราะยังไม่ได้อ่านเลย แต่โดยข้อเท็จจริงฝ่ายค้านต้องการขอให้เปิดก็ควรเปิดตามหลักการ ไม่เป็นไร
เมื่อถามว่า หากผู้นำฝ่ายค้านขอคุยนอกรอบกับนายกรัฐมนตรีเป็นการส่วนตัวยินดีหรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องถามนายกรัฐมนตรีจะให้พูดหรือไม่ ถามตนไม่ได้