xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโปง! แผน 5 ขั้นล้มสถาบันกษัตริย์สู่สาธารณรัฐ วอนทหาร-ตร.ตื่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อดีตนายทหารราชองครักษ์ เรียกร้องพี่น้องทหาร-ตำรวจตื่นเสียทีออกมายืนเคียงข้างพี่น้องประชาชน ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ขณะที่ “ปราโมทย์ นาครทรรพ” เปิดโปง แผน 5 ขั้นของ “ขบวนการแม้ว” เป้าหมายสู่สาธารณรัฐ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง การเสวนาเรื่อง “เปิดโปงขบวนการสาธารณรัฐ” 

วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ ช่วงเสวนา “เปิดโปงขบวนการสาธารณรัฐ” โดยมี นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระ และ พล.อ.กิตติศักดิ์ รัตนประเสริฐ อดีตนายทหารองครักษ์เวร ดำเนินรายการโดย นายเติมศักดิ์ จารุปราณ

ผู้ดำเนินรายการได้ตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีได้ทำสกู๊ปเรื่องสถาบันกษัตริย์เนปาล หรือกรณีหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ฉบับหนึ่งขึ้นปกเรื่องเดียวกันส่อนัยอะไร โดย นายปราโมทย์ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องฟันธงก่อนว่า ราชอาณาจักรไทยจะไม่มีวันเป็นอย่างเนปาลอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามยังวางใจไม่ได้ เพราะมีความพยายามหลายอย่างให้เหมือนกับเนปาล

นายปราโมทย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในประเทศเนปาลว่า น่าสลดใจก็คือกรณีที่รัฐมนตรีมหาดไทยได้บีบบังคับให้กษัตริย์เนปาลยอมออกจากพระราชวังโดยเร็ว พร้อมทั้งกล่าวว่ากระแสการต่อสู้ในประเทศเนปาลได้ถูกนำมาพูดโดย นายจักรภพ เพ็ญแข รวมทั้งเรื่องของจักรพรรดิองค์สุดท้ายคือปูยี่หรือคำปาฐกถาของผู้นำพรรคไทยรักไทยล้วนมีเนื้อหาที่นำเสนอเพียงด้านเดียวจนนำไปสู่ความเสื่อม

“การเปลี่ยนแปลงในเนปาลถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ผมถึงขอเรียกร้องให้นักวิชการนำเสนอเรื่องการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเพื่อมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียให้เห็นอย่างชัดเจน” นักวิชาการผู้นี้ระบุ

ด้าน พล.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวก่อนร่วมเสวนาให้พี่น้องประชาชนที่มาชุมนุมกล่าวปฏิญานว่าจะพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นราชพลี พร้อมกล่าวว่า ถ้าคนไทยคนใดไม่นับถือพระเจ้าอยู่หัวก็ไม่ใช่คนไทย พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายทหารราชองครักษ์ นายทหารราชวัลลภ ตื่นเถิด

พล.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากลาออกจากราชการก็ได้เฝ้าติดตามมาตลอด ยังไม่คิดว่าคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ จะคิดเช่นนั้น กรณีที่เข้าไปทำพิธีในวัดพระแก้ว แม้ว่าจะได้รับอนุญาตถูกต้อง แต่ถือว่าไม่บังควร และบังอาจหรือไม่ หรือกรณี นายจักรภพไปพูดทั้งในประเทศและต่างประเทศถือว่าหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ และตำรวจบอกว่ามีมูล แต่คนที่ทำคดีคือ พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ กลับถูกย้ายไปเป็นจเรตำรวจ ขณะที่กรณีของนายสุนัยทำงานให้ประเทศชาติกลับถูกออกหมายจับ มันเกิดอะไรขึ้นในประเทศนี้ ย้ำถึงเวลาแล้วต้องให้ชาวบ้านรู้ทัน

พล.อ.กิตติศักดิ์ ระบุว่า มีขบวนการทำลายล้างสถาบันโดยผ่านทางเว็บไซต์ ทั้งใบปลิว หรือการโจมตีประธานองคมนตรีล้วนเป็นขบวนการเดียวกัน และเห็นว่าสาธารรรัฐในประเทศไทยอาจจะได้เห็นภายใน 20 ปี หากคนไทยไม่จงรักภักดีอย่างจริงจัง

ถามว่า ยุทธศาสตร์ฟินแลนด์ กับปฏิญญาฟินแลนด์ เป็นขบวนการเดียวกันหรือไม่ นายปราโมทย์ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องเดียวกัน เพราะพฤติกรรมเดียวกันพร้อมระบุว่า ขั้นตอนของทักษิณได้ดำเนินการ 5 ขั้นตอน คือ 1.ทำให้เป็นระบบพรรคเดียว คือเหมือนกับระบบพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ต่างกันคือของไทยใช้ทุนเป็นหลัก แต่เป้าหมายอยู่ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ 2 แปลงสินทรัพย์เป็นทุน ซึ่งจะหากำไรจากการแปรรูป โดยยกตัวอย่างกรณีของการบินไทยและ ปตท.เป็นต้น

ประการที่ 3 มีการบ่อนทำลายระบบราชการและบังคับให้มาสวามิภักดิ์ระบบการเมืองและสร้างอาณาจักรแห่งความกลัว 4.ลดทอนพระราชอำนาจ ตีตัวเสมอพระมหากษัตริย์ เช่น เข้าไปทำพิธีในวัดพระแก้ว หรือทำสัญญากับต่างประเทศโดยไม่ต้องเข้าสภา ไม่มีมีการลงพระปรมาภิไธย และ 5.หลอกลวงว่าพรรคไทยรักไทยเป็นพรรคของมวลชนทั้งที่เป็นคุกนั่นเอง ซึ่งทั้ง 5 ประการดังกล่าวล้วนยมีจุดมุ่งหมายไปสู่ระบอบสาธารณรัฐนั่นเอง

ถามว่า การนำเรื่องสาธารณรัฐเป็นการดึงฟ้าต่ำหรือไม่ พล.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า คำพุดดังกล่าวถือว่าเป็นความชาญฉลาดของระบอบทักษิณ เหมือนกรณีกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งใช้เงินภาษีของชาวบ้านไปใช้แล้วได้ประโยชน์จากการนำเงินที่ได้ไปซื้อโทรศัพท์มือถือ ซึ่งหน้าที่ของคนไทยต้องรักษา 3 อย่าง ซึ่งต้องมีความจงรักภักดี

นายปราโมทย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมีมีคนทำซีดีซึ่งผลิตในประเทศจีนจำนวน 2 ล้านแผ่นโจมตีสถาบัน แต่ข้าราชการทั้งทหาร และตำรวจทำเป็นทองไม่รู้ร้อน และว่าทุนนิยมที่กำลังเป็นอยู่นี้ถือว่าเป็นทุนนิยมที่ล้าหลังที่สามานต์ยิ่งกว่าทุนสามานต์ในต่างประเทศเสียอีก

“เราจำเป็นต้องออกมาพูดเพื่อชี้ให้เห็นขบวนการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีขบวนการเหมือนกับที่เกิดขึ้นในเนปาลคือสร้างความแตกแยกในสภา โดยใช้เสียงข้างมากเหมือนที่พรรคไทยรักไทยเคยทำ คือทางหนึ่งใช้เสียงข้างมาก และตั้งมวลชนคู่กันไป และต่อไปก็จะอ้างกับต่างประเทศว่ามาจากการเลือกตั้ง แต่ของไทยไม่มีวันเหมือนเนปาล เพราะพระมหากษัตริย์ของไทยทรงทศพิธราชธรรมที่ต่างกับเนปาล” นักวิชาการผู้นี้ระบุ
 นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระ
พล.อ.กิตติศักดิ์ รัตนประเสริฐ อดีตนายทหารองครักษ์เวร
นายเติมศักดิ์ จารุปราณ ผู้ดำเนินรายการ
กำลังโหลดความคิดเห็น