xs
xsm
sm
md
lg

ปธ.วุฒิฯ ไม่สนลิ่วล้อ “แม้ว” บี้ ย้ำรับเรื่องถอด ส.ส.-ส.ว.ทำตามหน้าที่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายประสพสุข บุญเดช
ประธานวุฒิฯ ย้ำทำตามกฎหมายรับเรื่องถอดถอน ส.ส.-ส.ว.ที่ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ย้ำหากไม่รับเรื่องก็ถือว่ามีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ คาดแนวโน้มเสียงรับหลักการวาระแรกเสียงฝ่าย “พลังแม้ว” อาจปริ่มน้ำ ขณะที่รองประธานวุฒิฯเชื่อจะมีการล็อบบี้เสียงสภาสูงหนุน

วันนี้ (28 พ.ค.) นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะมายื่นหนังสือเพื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่ลงชื่อยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมว่า ไม่ทราบว่า กลุ่มพันธมิตรฯจะมายื่นรายชื่อให้ตน เพราะยังไม่ได้รับการประสานมา ซึ่งตอนนี้ทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อกล่าวหาและการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้แสดงตนยื่นถอดถอน ภายหลังจากดำเนินการตามขั้นตอนนี้เสร็จตนจะพิจารณา ว่า ข้อกล่าวหามีมูลหรือไม่ ถ้ามีมูลในฐานะประธานวุฒิสภาก็ต้องส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งช่าติ (ป.ป.ช.) พิจารณาเรื่องการถอดถอนตามมาตรา 272 ซึ่งหาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดตามข้อกล่าวหาผู้ที่ถูกถอดถอนก็ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตาม กว่าจะถึงขั้นตอนนั้นคงใช้เวลาอีกหลายเดือน

เมื่อถามว่ามี ส.ส.พรรคพลังประชาชนคนหนึ่ง ระบุว่าจะติดตามพฤติกรรมของประธานวุฒิที่รับเรื่องร้องเรียนถอดถอน นายประสพสุข กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 272 ระบุไว้ว่า เป็นหน้าที่ของประธานวุฒิสภาที่ต้องรับเรื่องการยื่นถอดถอน หากจะมาบอกว่ารับก็ผิดไม่รับก็ผิด ตนเองก็ไม่รู้จะต้องทำอย่างไร จึงขอบอกว่าเรื่องนี้ประธานวุฒิสภาได้ทำตามกฎหมายจึงไม่มีความผิด แต่ถ้าไม่ทำถึงจะผิดกฎหมาย

เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ที่ขณะนี้ส.ส.ก็จะยื่นถอดถอนกันเองและกลุ่มพันธมิตรฯก็จะยื่นถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.อาจทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย นายประสพสุขกล่าวว่า ต่างคนก็ต่างอ้างใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งยอมรับว่าอาจเกิดความวุ่นวายบ้าง แต่ก็ไม่เป็นไร แต่ก็ต้องแยกเป็นเรื่องๆ กรณีที่ ส.ส.และ ส.ว.ยื่นญัตติแต่พันธมิตรฯขอยื่นถอดถอน และกรณีที่ ส.ส.ยื่นถอดถอนกันเอง ส่วนปัญหาที่สมาชิกอาจถอนชื่อทำให้ไม่ครบจำนวน 1 ใน 5 ตามมาตรา 291 นั้น ตนเห็นว่า รายชื่อไม่ครบทำให้ญัตตินี้ตกไป สมาชิกฯก็สามารถยื่นญัตติใหม่ได้ และตามช่องทางมาตรา 291 ก็ไม่ได้กำหนดให้ต้องใช้เสียงทั้งสองสภา จะใช้เสียงแค่เสียงของสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียวก็สามารถทำได้

เมื่อถามว่า พันธมิตรฯ จะมีการชุมนุมยืดเยื้อหากไม่มีการถอนญัตติออกไป ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ตนก็ได้แต่หวังเหมือนทุกคนว่าจะยุติโดยเร็ว ในฐานะประธานวุฒิสภาตนก็พยายามทำทุกอย่างตามกฎหมายด้วยความเป็นกลาง

ด้าน นายนิคม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์เชิงรุกประจำวุฒิสภา กล่าวถึงสถานการณ์การชุมของกลุ่มพันธมิตรฯที่อาจจะยืดเยื้อว่า หากเป็นไปตามที่ ส.ส.กลุ่มที่ยื่นญัตติออกมาระบุว่าแม้ส.ว.จะถอนรายชื่อออกหมดแต่ก็จะใช้สิทธิ์ตามมาตรา 291 ให้ ส.ส.เพียงแค่ 96 คน ยื่นญัตติใหม่นั้น ก็ถือเป็นกรรมของประชาชนถ้าเป็นเช่นนั้นพันธมิตรฯ คงไม่หยุดชุมนุม เพราะจะมีการตั้งเงื่อนไขใหม่ไปเรื่อยๆ ตนจึงเชื่อว่าเหตุการณ์อาจจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆถ้าสองฝ่ายยังไม่ลดทิฐิลง

นายนิคม กล่าวอีกว่า การทำประชามติ ถือเป็นปัญหาร่วมกันเพราะเท่าที่ตนทราบมาความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ เพราะมีปัญหาข้าวยากหมากแพง ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่กว่ารออยู่ แต่ถ้ามีการผลักดัน พ.ร.บ.ประชามติ โดยรัฐสภาและวุฒิสภาต้องเห็นร่วม หากเป็นทางออกที่ส.ว.เห็นตรงกันว่าจะสามารถเป็นทางออกที่ดี ก็อาจจะเห็นด้วยกับการทำประชามติ

นายนิคม กล่าวถึงกรณีที่หากมีการยื่นญัตติการแก้รัฐธรรมนูญผ่าน และเข้าสู่วาระการประชุมว่า ประเด็นที่น่าสนใจ คือ ขณะนี้ต้องการเสียง 315 เสียง ในขั้นตอนการลงคะแนน ในวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ ซึ่งถึงตอนนั้น ตนเชื่อว่ารัฐบาลคงจะหาเสียงได้แบบปริ่มน้ำ และแม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะมีความเห็นที่แตกต่างกันและมีท่าทีที่ไม่ลงรอยกันอยู่ ซึ่งถ้าเสียงไม่พอก็มีความเป็นไปได้ว่าส.ว.บางส่วนจะไปช่วยออกเสียงสนับสนุนในขั้นตอนนี้ ซึ่งถึงเวลานั้นคงห้าม ส.ว.ไม่ได้ เพราะทุกคนต่างมีเอกสิทธิ์ตัวเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น