รัฐบาลส่งสัญญาณบางอย่าง “ชูศักดิ์” แนะให้รัฐบาลหารือกับประธานสภาผู้แทนฯ และ ส.ส.ที่ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ชะลอญัตติเอาไว้ก่อนแล้วให้รอฟังผลการทำประชามติก่อน
วันนี้ (27 พ.ค.) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าดูเหมือนว่าสภาพการเมืองยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ คิดว่าเราบอกช้ำกันมามากน่าจะจะให้ประเทศชาติมันไปได้
สำหรับปัญหาของนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เป็นความรับผิดชอบของนายจักรภพ ซึ่งนายจักรภพเองก็บอกโอเคขอให้อยู่ในดุลพินิจพิจารณาของสื่อและประชาชนและนายจักรภพก็ลาพักไป เข้าใจว่ามันคงจะคลี่คลายสถานการณ์ว่ามันควรจะเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะหาทางออกให้กับบ้านเมืองยามนี้อย่างไร นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ถ้าประเด็นรัฐธรรมนูญเราก็ชัดเจนกันแล้วว่าที่สุดคือการทำประชามติกันว่าประชาชนจะเห็นอย่างไร คิดว่านั่นคือทางออกระดับหนึ่ง หากฝ่ายพันธมิตรเห็นว่ามันไม่ใช่ประเด็นรัฐธรรมนูญแล้ว เป็นประเด็นอื่น จะไล่รัฐบาล จะอะไรต่างๆ คิดว่ามันเป็นเรื่องของบ้านเมืองก็ต้องมาดู
เมื่อถามว่า เรื่องการทำประชามติรัฐบาลยังคิดจะทำลัดขั้นตอน ขณะที่ญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไปรออยู่แล้ว นายชูศักดิ์ซึ่งเคยเป็นประธานกรรมการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า เรื่องกฎหมายวันนี้คงจะหารือกันว่ากฎหมายประชามติปี 2541 ยังมีผลบังคับอยู่หรือเปล่า ซึ่งตนก็อ้างว่ามันเคยมีคำวินิจฉัยของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญว่าการยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2540 กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญไม่ได้ยกเลิก ถ้าจะยกเลิกต้องมีการออกกฎหมายหรือมีคำสั่งให้ยกเลิก ฉะนั้น ความเห็นตนคิดว่า พ.ร.บ.ประชามติปี 2541 ยังมีผลอยู่ แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้บอกว่าให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำกฎหมายประชามติภายใน 1 ปี ซึ่งตนคิดว่ามันเป็นความสับสนทางกฎหมาย คงจะต้องหารือกันว่าท้ายที่สุดกฎหมายมีไหม ยังใช้ได้อยู่หรือไม่ ถ้าใช้ได้ก็ใช้ แต่ถ้าใช้ไม่ได้ก็จำเป็นต้องเร่งรัดในการตรากฎหมายออกมา
“ส่วนที่ถามว่าเป็นการลัดขั้นตอนเพราะมีญัตติอยู่ควรจะถอนญัตติออก ผมว่ามันคนละเรื่องกัน เมื่อเขายื่นไปก็เป็นเอกสิทธิ์ของเขา แต่รัฐบาลมีสิทธิ์ที่จะหารือกับคณะรัฐมนตรีว่ามีเรื่องใดที่มีความจำเป็นควรหารือขอถามความเห็นประชาชนก็ออกมาเป็นมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งตรงนี้ก็สามารถทำได้ เมื่อบรรจุวาระไว้ก็บรรจุไป แต่ควรจะหารือกันในสภาฯว่ารัฐบาลกำลังจะทำประชามติ รอฟังก่อนไหม มันก็เป็นทางออกได้ ไม่จำเป็นต้องมาพิจารณาในขณะนั้น” นายชูศักดิ์กล่าว
เมื่อถามว่า ทางผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชาชนควรจะคุยกับ ส.ส.ที่ยื่นเรื่องไปหรือไม่เพื่อให้ดึงเรื่องกลับมาก่อน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า คงต้องคุยประสานกับประธานรัฐสภาฯประธานวุฒิสภาว่าถ้าเป็นแบบนี้ได้ไหม ก็น่าจะเป็นทางออกได้ เมื่อถามว่าเวลานี้ก็มีการทยอยถอนชื่อออกกัน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็ธรรมดา ถอนบ้างไม่ถอนบ้างก็สุดแท้แต่
เมื่อถามว่าทางกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันให้ยุติเรื่องการแก้ไขรับธรรมนูญ ถ้าไม่ก็จะชุมนุมยืดเยื้อต่อไป นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นอะไรว่าต้องถอนหรือไม่ถอน เมื่อเขายื่นไปแล้วก็เป็นเอกสิทธิ์ของเขา หมายความว่าถ้ารัฐบาลเสนอให้มีประชามติ เราก็รอฟังประชามติ ญัตตินั้นก็ค้างอยู่ ถ้าเห็นด้วยว่าควรแก้ก็เดินต่อ ถ้าไม่เห็นด้วยมันก็ต้องถอนอย่าแล้ว
ส่วนประเด็นการขับไล่รัฐบาล นายชูศักดิ์ กล่าวว่า อันนี้ต้องเป็นเรื่องระดับนายกรัฐมนตรีหรือระดับคณะรัฐมนตรีที่เห็นว่าควรจะเป็นอย่างไร แต่ตนคิดว่าประเทศชาติมันไม่ควรจะไปถึงขนาดนั้น เราก็บอกบช้ำกันมามาก ประเด็นคือถ้าจัดคัดค้านรัฐธรรมนูญ เราก็ฟังประชามติ แต่นี่กลายเป็นล้มรัฐบาล มันก็เลยเถิดไป หากเลยเถิดไปอย่างนี้ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องเข้าไปแก้ไขปัญหา
เมื่อถามว่า แต่นายกรัฐมนตรีไม่ใช่คนประนีประนอม เกรงว่าจะบานปลายหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูในอนาคตควรจะเป็นอย่างไร ระดับนายกรัฐมนตรีคงต้องหารือกับฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายต่างๆควรจะเป็นอย่างไรถ้ามันบานปลาย ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะเรียกฝ่ายความมั่นคงมาหารือกันนั้น ไม่ทราบจริงๆ เป็นเรื่องของนายกฯ
ในส่วนของกลุ่ม นปก.มาข่มขู่สื่อ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดจริงๆ เห็นแต่เป็นข่าว เมื่อถามว่าจะดูแลกันอย่างไร นายชูศักดิ์ กล่าวว่า มันคนละส่วนกับรัฐบาล วันนี้ควรจะสงบสติอารมณ์กันเสียบ้าง ให้เคารพความคิดเห็นของคนอื่น เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล ฟังความเห็นของกันและกันแล้วเอามาไต่ตรอง อย่าคิดว่าใครเป็นศัตรู กับใคร จะต้องล้มล้างกัน ไม่ใช่
เมื่อถามว่าประเมินการชุมนุมอย่างไร เพราะดูเหมือนกลุ่มคนไม่ใช่น้อยมารวมตัวกัน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า อันนี้เป็นฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะประเมิน รัฐบาลตอบแทนไม่ได้
เมื่อถามว่า ส.ส.พลังประชาชน อาฆาตมาดร้าย มีการข่มขู่กันว่าแกนนำ 3-4 คนอย่าไปต่างจังหวัด มีการตั้งค่าหัว นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พวกตนก็ได้แต่เตือนๆ กันไปว่าอย่าไปสร้างเงื่อนไขอะไรที่มันมีความรุนแรง หรือเป็นการท้าทายกัน ต้องฟังความเห็น เคารพซึ่งกันและกัน บ้านเมืองก็ไปได้ แต่นั่นเป็นเรื่องส่วนบุคคลเสียส่วนใหญ่ มันไม่เหมือนกัน ได้แต่เตือนกันไป