“ทั่นชัย” เดินหน้าตามแผนฟอก “แม้ว” อ้างข้อบังคับสภาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสภาต้องเดินหน้าแล้ว ถอยไม่ได้ต้องบรรจุเข้าระเบียบวาระดำเนินการภายใน 15 วัน ไม่เกี่ยวทำประชามติ มั่นใจทหารไม่กล้าปฏิวัติ ขณะที่ “เหวง” นำคณะให้กำลังใจชี้ทำถูกต้องแล้ว
วันนี้ (22 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คปพร.) เดินทางแสดงความยินดีมอบกระเช้าดอกไม้ให้กำลังใจ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในโอกาสรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นประธานสภาฯ โดย นายจรัล และ นพ.เหวงได้แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์การเมืองการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550
นายชัย กล่าวว่า ไม่ต้องเป็นห่วงสถานการณ์ เชื่อว่าคงไม่มีการทำรัฐประหารแน่นอน เพราะทหารคงไม่ออกมาปฏิวัติอีกแล้ว ทหารส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการแสวงหาอำนาจ และเชื่อว่าผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบันคงไม่ยอมให้มีการปฏิวัติ
“องค์พระประมุขของเราจะใช้บารมีคุ้มครองเราให้รอดพ้นจากปัญหาต่างๆ ได้ ถ้าเกิดเหตุเช่นวันที่ 19 ก.ย.อีกบ้านเมืองจะไปไม่รอด ผมเชื่อว่าพระสยามเทวาธิราชจะคุ้มครอง ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ปัญหาต่างๆ แก้ด้วยสนามการเมืองคือรัฐสภา สภาเท่านั้นจะเป็นสนามระหว่างฝ่ายค้าน และฝ่ายสนับสนุน พันธมิตรฯ ก็ต้องมาเล่นตรงนี้ คปพร.ก็ต้องมาเล่นตรงนี้ เอาสนามนี้เป็นหลัก” นายชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้ทำประชามติเพื่อขอความเห็นประชาชนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในส่วนของภาคประชาชน และส.ส.ที่ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ จะต้องถอนญัตติก่อนหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า การดำเนินการจะเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2544 โดยจะต้องบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมภายใน 15 วัน การทำประชามติเป็นเรื่องของฝ่ายรัฐบาลที่ต้องการให้บ้านเมืองมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และต้องการฟังเสียงประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เพราะการทำประชามติที่ผ่านมามีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
“ส.ส.และภาคประชาชนไม่จำเป็นต้องถอนญัตติ ขณะนี้มีความเข้าใจไขว้เขวกัน หากดูข้อบังคับการประชุมรัฐสภาปี 44 จะเห็นว่าต้องบรรจุญัตติเข้าสู่วาระการประชุมภายใน 15 วันเมื่อมีการเปิดสมัยประชุมสภา ไม่ใช่นับจากวันยื่นญัตติ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องถอนญัตติ” นายชัย กล่าว
เมื่อถามว่า หากมีการทำประชามติก่อนการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญจะไม่มีปัญหากับญัตติใช่หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ญัตติยังคงอยู่เพราะยังไม่ได้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ ถึงบรรจุแล้วก็ยังอยู่ กฎหมายต้องเป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีการเสนอญัตติซ้อนญัตติ
เมื่อถามต่อว่าจำเป็นต้องเร่งรีบบรรจุวาระหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ เพราะขณะนี้ยังไม่ได้เปิดสมัยประชุม และยังไม่รู้ว่าจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญเมื่อใด ตราบใดที่ยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เปิดประชุมเราบอกไม่ได้ เมื่อเปิดแล้วก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการ ไม่จำเป็นต้องรอให้ทำประชามติก่อน การแก้ไขกฎหมายต้องใช้เวลา ส่วนหากประชาชนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส.ส.ก็ต้องฟังเสียงประชาชน และคงไม่ยกมือผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแน่
เมื่อถามว่า การไม่ชะลอนำญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม แสดงให้เห็นว่าฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหารมีความเห็นขัดกันหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่มี นายกรัฐมนตรีเคยบอกว่าสถาบันทั้ง 3 แยกกันทำหน้าที่ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย นายชัย กล่าวอีกว่า การเสนอให้ทำประชามติของนายกรัฐมนตรีไม่ใช่การคิดนอกลู่นอกทางแต่เป็นการเสนอตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 ถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวเป็นคนกลางคงให้ความเห็นในเรื่องนี้ไม่ได้
ด้าน นพ.เหวง กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับการทำประชามติเพราะจะทำให้ยุติความรุนแรง ทั้งนี้ หากมีการทำประชามติ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยควรยุติการเคลื่อนไหว หยุดความรุนแรง หยุดดึงฟ้าต่ำ หยุดเอาสถาบันมาเป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมในการเคลื่อนไหว ทั้งนี้ หากความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญกลุ่มตนก็พร้อมจะหยุดการเคลื่อนไหวต่างๆเช่นกันเพราะเราเคารพการตัดสินใจของคนส่วนใหญ่
ด้าน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 กล่าวว่า การทำประชามติว่าจะแก้ไขหรือไม่ถือว่าเป็นเรื่องดี และพันธมิตรฯ ก็เรียกร้องให้ทำประชามติ แต่พอรัฐบาลจะทำกลับไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่รู้จะมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญหรือไม่ ถ้าจะเปิดเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2552 อาจจะเปิดเพียง 3 วันเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการฯ ก็ได้ ซึ่งตนก็ยังไม่ทราบ เพราะขึ้นอยู่กับรัฐบาล
“การทำประชามติผมไม่ทราบรัฐบาลจะทำลักษณะไหน จะตั้งหัวข้อว่าแก้หรือไม่แก้ ผมคิดว่าควรจะตั้งเป็นหัวข้อมันจะได้ชัดเจน เช่น ส.ว.ควรจะมาจากการเลือกตั้งทั้งหมดหรือเปล่า ยกมาเป็นประเด็นเลย และถามประชาชนว่าเห็นด้วยกับการแก้ไขหรือไม่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น ไม่เช่นนั้นจะเหมือนกับมัดมือชก ผมยังไม่รู้รัฐบาลจะทำอย่างไร” พ.อ.อภิวันท์ กล่าว
/0110