xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ยุส่ง หน.ลูกกรอกตะเพิด “เพ็ญ” พ้นเก้าอี้ เย้ยตัวถ่วง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป.
“อภิสิทธิ์” เย้ย “จักรภพ” คุณสมบัติไม่เหมาะนั่งเก้าอี้ รมต. ให้เกียรติ “สมัคร” พิจารณาปรับพ้นตำแหน่งกรณีทัศนคติอันตราย ตอกกลับอย่าเลี่ยงบาลีเรื่องปัญหาคำแปล พร้อมค้านการยื่นร่างแก้ รธน.แนวเดิมของ พปช.

วันนี้ (20 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุจะให้เวลากับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พิจารณากรณีนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพาดพิงสถาบัน เพราะเพิ่งยื่นเรื่องไปเมื่อวันศุกร์ที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา และยืนยันว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้มีปัญหาเรื่องคำแปล แต่เป็นเรื่องความพยายามที่จะเบี่ยงเบนของนายจักรภพ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการยื่นเรื่องดังกล่าวเป็นการทำหน้าที่และให้เกียรตินายกรัฐมนตรีในการพิจารณาพฤติกรรมของนายจักรภพ โดยไม่มีเจตนาที่จะทำให้เป็นประเด็นทางการเมือง และหากตนได้รับทราบเรื่องนี้แล้วเพิกเฉย ก็คิดว่าตนละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจะเห็นว่าการละเลยการเพิกเฉยที่ผ่านมาหลายๆ เรื่องเป็นผลทำให้ปัญหาขณะนี้บานปลาย อย่างที่มีการพูดเรื่องกระบวนการและเว็บไซท์ต่างๆ ซึ่งน่าเป็นห่วง ดังนั้น ตนคิดว่าทุกคนควรทำเรื่องนี้อย่างจริงจังให้เรียบร้อย

“ผมคิดว่าท่านคงต้องดูให้ความเป็นธรรม คือดูคำกล่าวทั้งหมด ดูข้อมูลเหตุการณ์แวดล้อมต่างๆ และท่านอาจจะสอบถามเจ้าตัว ก็ให้เวลาท่านในการพิจารณา แต่ผมยืนยันว่าคุณจักรภพไม่มีความเหมาะสม และขอยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรี หรือการจะไปล้มล้างรัฐบาล ผมมองในทางตรงกันข้ามว่า ถ้ารัฐบาลยอมตัดกรณีของคุณจักรภพออกไปจะทำให้รัฐบาลทำงานได้ง่ายขึ้น ราบรื่นขึ้นและเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย และผมไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปทำลายล้างคุณจักรภพทางการเมือง ผมบอกได้เลยว่าไม่ว่าใครก็ตามมีพฤติกรรมเช่นนี้ ผมถือว่าไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่ง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

สำหรับกรณีที่มีข่าวว่า นายจักรภพจะให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ช่วยเป็นกระบอกเสียงชี้แจงเรื่องนี้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ และตนเห็นว่า พล.อ.ชวลิตยังไม่ทราบว่านายจักรภพพูดอะไร นายอภิสิทธิ์ยังปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นกรณีที่มีข่าวว่าอาจจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีเพิ่มอีก 3 ตำแหน่งรวม 6 ตำแหน่ง โดยระบุว่ายังไม่ทราบและคิดว่ารัฐบาลคงจะรอฟังคำพิพากษากรณีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชนก่อน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่มีแนวโน้มว่าวิปรัฐบาลจะพ่วงเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในการเปิดสมัยประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2552 ว่า หากมีกฎหมายที่มีความเร่งด่วนจะหยิบยกมาพิจารณาในช่วงเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ทางพรรคก็ไม่ขัดข้อง รวมถึงยังมีเรื่องที่สภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ทำในช่วงสมัยสามัญเช่นการตั้งกรรมาธิการสามัญด้วย แต่เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้นยังไม่ทราบว่าจะมีหรือไม่ แต่หากเป็นการยื่นในลักษณะเดิมที่ตั้งใจจะยื่น ทางพรรคก็ไม่เห็นด้วย และหากมีการยื่นก็จะมีการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อกำหนดท่าทีทันทีซึ่งพรรคมีการเตรียมการไว้หลายทางเลือก

“พรรคยังเหมือนเดิมทุกอย่าง การแก้รัฐธรรมนูญต้องแก้ที่มีส่วนร่วม ต้องเป็นการแก้เพื่อให้ระบบดีขึ้น ต้องไม่แก้เพื่อแก้ปัญหาตัวเอง หรือแก้การเมืองเฉพาะหน้า และการยื่นร่างแก้ไขแบบเหมารวม พูดง่ายๆ คือเอาของปี 40 จะมีปัญหาการพิจารณาของคณะกรรมาธิการในสภาจะยื่นเยื้อมาก เพราะทุกพรรคเคยแสดงท่าทีไว้ตั้งแต่ปี 49 ว่าฉบับปี 40 ก็ต้องแก้ไขครั้งใหญ่ ก็จะทำให้การพิจารณาขาดภาพรวมขาดทิศทาง และการมีส่วนร่วมของประชาชนก็ไม่เหมือนกับการมีสสร.หรือมีกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาก่อน เพราะเป็นการบีบให้มีการพิจารณาแบบแปรญัตติ และถ้าจะปล่อยให้สภาพิจารณาในวาระที่ 2 เรียงมาตราจะเสียเวลามาก เพราะฉะนั้น ถ้าอยากจะได้รัฐธรรมนูญที่ดีควรมีกรรมาธิการศึกษาจะดีกว่า” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น