xs
xsm
sm
md
lg

ครป.จวกยับสภา"เกียร์ว่าง"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ครป.กล่าวถึง การแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ครป.เห็นว่า การเปิดสภาวิสามัญฯ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ไม่ชอบ และสะท้อนให้เห็นถึงความลุกลี้ลุกลนของรัฐบาลและ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ที่พยายามรวบรัดตัดตอน รื้อรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิดตนเอง โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของสังคม และทำให้ปมความแตกแยกในสังคมยังดำรงอยู่ต่อไป
ประการสำคัญ ยังส่งผลให้ความเปราะบางและเสถียรภาพของรัฐบาลแย่ลงไปเรื่อยๆ จนทำให้หลายฝ่ายลดความคาดหวังต่อรัฐบาลในการคลี่คลายปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ข้าวยากหมากแพง ที่ต้องอาศัยการเมืองที่นิ่งและมีเสถียรภาพรรวมทั้งความสมัครสมานสามัคคีของประชาชนร่วมมือกันแก้ไข
" ครป.ขอประณามสภาผู้แทนฯ ที่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาฯ ผ่านมาแล้วกว่า 3 เดือน จนมีการปิดสมัยประชุม แต่สภายังไม่สามารถตั้งกรรมาธิการฯ ได้แต่อย่างใด ส่งผลให้ฝ่ายนิติบัญญัตินอกจากไม่สามารถสร้างช่องทางในการรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนได้แล้ว ยังทำให้สภาฯไม่สามารถมีกลไกถ่วงดุล ตรวจสอบฝ่ายบริหารที่มีประสิทธิภาพได้ ซึ่งความล่าช้าในการตั้งกรรมาธิการสามัญฯ นั้น ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่การจัดสรรโควต้า และผลประโยชน์ในพรรคพลังประชาชนไม่ลงตัว ในขณะที่วุฒิสภา ซึ่งดำเนินการในภายหลัง สามารถแต่งตั้งกรรมาธิการฯ ได้เรียบร้อยครบทุกคณะแล้ว"

**กม.ลูกยังไม่มีแม้ฉบับเดียว
เลขาธิการ ครป. กล่าวต่อว่า ครป.ขอเรียกร้องให้รัฐสภาใส่ใจกับการตรากฎหมายลูก และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งในขณะนี้สภาฯ ยังไม่สามารถตรากฎหมาย เพื่อรองรับรัฐธรรมนูญ 2550 ได้แม้แต่ฉบับเดียว โดยเฉพาะกฏหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน และต้องดำเนินการภายใน 1 ปี ตามมาตรา 303 เช่น กฎหมายที่เกี่ยวกับการส่งเสริม และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน เสรีภาพของสื่อมวลชน ความล่าช้าและความพยายามจะรื้อรัฐธรรมนูญอย่างเดียวนั้น ได้ทำให้ประชาชนเสียโอกาสที่จะเข้าถึงสิทธิ และสวัสดิการต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญเป็นอย่างมาก แม้ว่าหากมีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจากฝ่ายใดก็ตาม ในช่วงการเปิดสภาสมัยวิสามัญ ครป.และพันธมิตรฯ ยังยืนยันจุดยืนเดิมคือ การเข้าชื่อถอดถอนและการการชุมนุมใหญ่ แม้พรรคพลังประชาชนจะอำพรางด้วยการเสนอร่างที่รวบรวมโดยประชาชน 5 หมื่นรายชื่อก็ตาม เพราะสุดท้ายแล้ว จุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ความพยายามฟอกผิดคนในรัฐบาลและพรรคพลังประชาชน
**ดันร่างแก้ไขรธน.เข้าสภาวิสามัญ
นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประชาสัมพันธ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ขณะนี้สังคมกำลังเข้าใจผิดว่า จะมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญฯ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ความจริงเป้าหมายหลักของการเปิดประชุมสมัยวิสามัญฯ คือการพิจารณางบประมาณปี 2552 และมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่จะต้องออกให้ครบตามที่รัฐธรรมนูญปี 50 กำหนดไว้ เมื่อมีเวลาเหลือ เราจึงจะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 พ่วงเข้าไปเท่านั้น
ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล มาเทียบเคียงกับร่างที่ประชาชนเสนอมาให้มากที่สุด และเวลาก็ไกลเกินกว่าจะแก้ไขให้ทันเรื่องของการยุบพรรค และช่วย พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว จึงพิสูจน์ได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะเชื่อว่า อย่างไรเสียการแก้ไขรัฐธรรมนูญคงไม่สามารถทำให้เสร็จได้อย่างรวดเร็วเพราะมีตัวแปรอีกมาก
เมื่อถามว่า กรณีคำให้สัมภาษณ์ของนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีอุปสรรคหรือไม่ นายสุนัย กล่าวว่า เป็นเพียงการนำเรื่องของบุคคลมาอ้าง เพื่อต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นสะพานไปถึงรัฐบาลให้ได้ ไม่ว่าอย่างไร พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ตั้งใจจะล้มรัฐบาลนี้ทุกวิถีทางอยู่แล้ว แต่ที่น่าแปลกใจคือ ขณะนี้กระบวนการที่พันธมิตรฯเคลื่อน กระบวนการที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคประชาธิปัตย์ กำลังเคลื่อนไหวมันคล้ายกันเหมือนนัดกันไว้ล่วงหน้า
" คนที่ออกมาแหลมมากช่วงหลังคือพล.อ.ชวลิต อยากให้ไปดูว่า พล.อ.ชวลิต กับพล.ต.จำลอง ศรีเมืองนั้น เคยเป็นมือไม้ให้ใคร ตอนนี้มือที่มองไม่เห็นดูเหมือนทำงานอยู่ และเหมือนเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปตย์ตัวจริงเสียด้วย"
นายสุนัย กล่าวว่า ขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวล เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่จะทำได้ เพราะพรรคพลังประชาชน มีภาระที่เคยให้สัญญากับประชาชนไว้ช่วงเลือกตั้ง ว่าจะเข้ามาแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชาชน ยึดถือสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสถาบันสูงสุด จะไม่มีการแตะต้องอย่างแน่นอน
**ชท.อ้างยังไม่มีการหารือแก้รธน.
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชน จะเป็นตัวเร่งให้เกิดมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่ ว่า อย่ามองพฤติกรรมของใครคนใดคนหนึ่ง แล้วไปเหมารวมว่า พรรคการเมืองนั้น จะเอาด้วย เพราะเป็นแค่การเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคพลังประชาชนบางคนเท่านั้น ทั้งนี้ หากพรรคพลังประชาชนจะแก้ไขจริง ต้องมีการประชุมพรรคเพื่อหามติ และต้องมีการแถลงข่าว และมีผู้ใหญ่ของพรรคร่วมแถลงอย่างเป็นทางการ เข้าใจว่าชั้นนี้พรรคยังไม่มีข้อยุติ เพราะต้องดูด้วยว่าจะยื่นเมื่อไร ยื่นในนามใคร ในนามพรรคพลังประชาชนพรรคเดียว หรือในนามพรรคร่วมรัฐบาล เพราะหากเขาจะเอาร่างนี้ยื่นในนามพรรคร่วมรัฐบาล ก็ต้องประสานมาที่พรรคชาติไทยให้รับทราบ โดยทางพรรคชาติไทย ก็จะมีการประชุมเพื่อหามติ และมีข้อเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของพรรคชาติไทยประกอบไปด้วย แต่ในชั้นนี้ยืนยันว่า พรรคชาติไทย ยังไม่มีการหารือถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
เมื่อถามต่อว่า มีหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า หลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ นายกฯจะยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องยาก ที่จะคาดเดา เพราะเป็นเรื่องของอนาคต และอย่าเหมาหรือคิดไปก่อนเหตุการณ์ที่จะเกิด
กำลังโหลดความคิดเห็น