นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ซึ่งเป็นแคนดิเดตตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนที่ให้เสนอชื่อนายชัย ชิดชอบ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน บิดานายเนวิน ชิดชอบ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ว่า รับทราบมติของพรรคแล้ว จากนั้นจะนำเข้าหารือ ในที่ประชุมพรรคเพื่อให้ได้ข้อสรุป หากเป็นมติพรรคทุกอย่างก็จบ เป็นเรื่องที่พรรคต้องพิจารณา
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะผลัดกันดำรงตำแหน่งดังกล่าวกับนายชัยคนละครึ่งวาระนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่าไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค จึงไม่ได้เข้าร่วมประชุม และไม่ทราบรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีส.ส.บางส่วนอาจฝืนมติกรรมการบริหารพรรคโดยจะเสนอให้ นายสมศักดิ์ เป็นประธานฯ นายสมศักดิ์ กล่าวว่าว่า ตรงนั้นไม่ทราบ แตเมื่อเป็นมติพรรคแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นอย่างไรตนไม่ทราบ สำหรับกระแสข่าวที่ว่าจะลาออกจากตำแหน่งนั้น ไม่ทราบว่าจะลาออกทำไม ตนก็อยู่ของตนอย่างนี้ อย่าไปจริงจังกับตำแหน่งหัวโขนเลย อยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ ไม่เคยรู้สึกน้อยใจ ไม่มีปัญหา
ส่วนนายชัยมีความสง่างามที่จะดำรงตำแหน่งนี้หรือไม่นั้นนายสมศักดิ์ กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง ตนคงไม่อาจไปวิพากษ์วิจารณ์ ที่จริงท่านก็อาวุโสดีนี่
ชัยปัดพูดแบ่งคนละครึ่งเทอม
ด้านนายชัย ชิดชอบ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการ ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) ซึ่งนายชัย เป็นประธานวิปรัฐบาลอยู่ ถึงเรื่องดังกล่าว โดยกล่าวเพียงว่ายังไม่ทราบเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนมีมติให้ตนเป็นประธานสภาฯ ทราบจากสื่อมวลชนเท่านั้น จึงยังไม่ขอพูดอะไรและขอทำหน้าที่ประธานวิปรัฐบาลก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้นายชัยได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ โดยปฏิเสธกระแสข่าวการผลัดกันดำรงตำแหน่งประธานสภาฯคนละครึ่งเทอม กับ นายสมศักดิ์ โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่ายังไม่ทราบมติของกรรมการบริหาร พรรคพลังประชาชน
สมัครขอให้เป็นคนละครึ่งวาระ
ขณะที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงมติ กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนที่ให้นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาฯว่า หากสื่อมวลชนถามว่าคนดีมีความสามารถมีเพียงคนเดียวหรือก็ขอเรียนว่า หากถามแบบนี้ คนดีมีความสามารถมีมาก แต่การพิจารณาของ กรรมการบริหารพรรค มองหลักเกณฑ์ว่าคนที่สนใจและต้องการจะทำหน้าที่นี้มีใครบ้าง ก็นำรายชื่อมาดูและนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ก็บอกว่า เมื่อมีคนต้องการ ในตำแหน่งนี้ 2 คน และโต้เถียงกันมากมาย ก็ขอให้ไปคุยกันดูว่าจะประนีประนอมได้ไหม และลองทาบทามบุคคลที่สนใจจะทำหน้าที่ว่า หากทำงานไปสักระยะแล้วคนอื่นๆ อยากจะทำหน้าที่นี้จะตกลงกันได้ไหม
ผู้สื่อข่าวถามว่าการพิจารณาต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์บุคคลหรือไม่เพราะตำแหน่งนี้คือประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ นายชูศักดิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญ แต่ตนเรียนไปแล้วว่า บุคคลที่สนใจจะรับหน้าที่นี้มี 2 คนคือนายชัยและนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาฯ
ชูศักดิ์รับพปช.ไม่มีเอกภาพ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากบอกว่ามีหลายคนคนอยากทำหน้าที่นี้ แต่การเสนอชื่อ ไม่ได้คำนึงถึงความรู้ความสามารถ เพราะตำแหน่งนี้หากไปถาม ใครๆ ก็อยากทำหน้าที่นี้ทั้งนั้น นายชูศักดิ์กล่าวว่า สุดท้ายมีเพียง 2 คนและมีบุคคลในพรรคสนับสนุน โดยต้องมีส.ส. 20 คนลงชื่อรับรอง ส่วนคนอื่นๆ ที่เคยมีชื่อว่าอาจรับหน้าที่นี้ รวมทั้งตนก็ไม่มีใครสนับสนุนเลย แม้บางคนอยากเป็นในใจแต่ไม่มีเสียงสนับสนุนแล้วจะให้ทำอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเป็นเช่นนี้พรรคพลังประชาชนก็ไม่มีเอกภาพ นายชูศักดิ์กล่าวว่า มันก็เป็นธรรมดา ทุกพรรคก็มีหลายกลุ่มในพรรคแบบนี้ การเมืองนั้นคือ การพูดคุยและตกลงกัน เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคจะไปปรับความเข้าใจกับกลุ่มต่างๆ ในเรื่องนี้ นายชูศักดิ์กล่าวว่า นายสมชายเป็นผู้ใหญ่น่าจะไปประสานได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าสมมุติว่า หากมีนักเลงหัวไม้และมีเสียงในพรรคสนับสนุนก็รับหน้าที่นี้ได้ใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่ทราบ เรื่องนี้ต้องมี ส.ส.20 คนลงชื่อรับรอง มันต้องยกมือสนับสนุนในสภาและลงคะแนนลับ และรอดูว่ามีเสียงสนับสนุนอย่างไร เมื่อถามว่า หากเป็นเช่นนี้จริง แสดงว่ามีใบสั่งตามกระแสข่าว นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่มี เมื่อถามว่า หากเป็นเช่นนี้พรรคพลังประชาชนไม่มีเอกภาพ นายชูศักดิ์กล่าวว่า มันก็เป็นธรรมดา
อีสานเหนือขอใช้เอกสิทธิโหวต
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า แม้กรรมการบริหารพรรคจะมีมติเลือกนายชัย แต่ก็มีจำนวนไม่มากหากเทียบกับจำนวนส.ส.พรรค ซึ่งในการประชุมพรรคในวันอังคารที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ถือว่า เป็นวาระสำคัญที่ส.ส.ในพรรคจะอภิปรายหากมีความเห็นที่แตกต่าง และหากชี้แจงไม่ได้ก็ควรให้เป็นเอกสิทธิ์ของส.ส.ในการซาวเสียงว่ายอมรับนายชัยหรือไม่ เรื่องนี้เหมือนเป็นเอกสิทธิ์ในสภาจะมาบังคับกันไม่ได้ เพราะในกรณีที่มีเสียงแตกต่างก็ต้องยอมให้ผู้แทนฯแสดงความคิดเห็น
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส.หลายคนไม่พอใจที่นายเนวิน ชิดชอบ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย มักจะเข้ามามีบทบาทในทุกๆ ด้านของพรรคนั้น นายไพจิต กล่าวว่า เข้าใจว่าที่นายเนวินมีบารมีเพราะส.ส.ในกลุ่มได้รับเลือกตั้งเข้ามาเยอะ ซึ่งส.ส.ส่วนใหญ่ก็อยู่ในกลุ่มของนายเนวินทั้งนั้น แต่ในภาคอีสานบางส่วนและในภาคอื่นๆ ที่ไม่เห็นด้วยก็มี ดังนั้นฝ่ายที่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งนายชัยเป็นประธานสภาฯ จะต้องอธิบายคุณงามความดีของนายชัย เพราะคนทำงานสภาฯ ต้องมีความสง่างามเป็นหลัก ประธานสภาฯเมื่อขึ้นมามีอำนาจก็มีความสำคัญมากไปจนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อาจส่งผลกระทบต่อการแก้ไขได้
ด้านนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตนและส.ส.ส่วนหนึ่งในพรรคมีความเป็นห่วงภาพลักษณ์ของนายชัย ที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช ลาออกจากตำแหน่งประธานสภาฯก็เพราะกลัวกระทบตำแหน่งภาพลักษณ์ของประธานสภาฯ แต่ตอนนี้เมื่อมีมติของคณะกรรมการบริหารพรรคออกมา ก็ขอให้สภาฯ เดินต่อไปให้ได้ ส่วนส.ส.จะดำเนินการอย่างไรนั้นขอไปคุยกันภายในกลุ่มก่อน
ขณะที่นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคพลังประชาชน กล่าวว่าในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.นี้ พรรคพลังประชาชนได้นัดประชุมเพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับการเบือกประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ และคาดว่าจะมีการพูดคุยเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่นายสุธา ชันแสง ลาออกด้วย แต่ทั้งนี้ส.ส.ภาคเหนือ คงไม่เรียกร้องให้มีการจัดสรรโควตารัฐมนตรีใหม่ให้แทนตำแหน่งประธานสภาฯที่เสียไป เพราะภาคเหนือถือว่าเป็นกลุ่มที่เสียสละทางการเมืองอยู่แล้ว
เด็กเนวินเช็ควุ่นวันโหวตปธ.สภา
มีรายงานข่าวจากรัฐสภาว่า ตลอดทั้งวัน ส.ส.ในสภา ได้ตรวจสอบกระแสข่าว ที่ว่าจะมีการเรียกประชุมสภาฯนัดพิเศษในวันจันทร์ที่ 12 พ.ค. เพื่อพิจารณาระเบียบวาระการเลือกประธานสภาฯ ทำให้ส.ส.บางส่วนจองตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับมา กทม.ในช่วงเย็นวันอาทิตย์
ขณะเดียวกัน ส.ส.กลุ่มนายเนวิน ชิดชอบ ได้เช็กข่าวว่าจะมีการประชุมในวันดังกล่าวจริงหรือไม่ เพื่อที่จะเตรียมรับมือชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาของนายชัย ในที่ประชุม ส.ส.ที่จะต้องมีการเรียกประชุมในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค. แต่เมื่อเวลา 17.15น นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มีการลงนามในระเบียบวาระว่าจะมีการประชุมสภาฯในวันพุธที่ 14 พ.ค. เวลา 9.30 น. เพื่อพิจารณา เลือกประธานสภาฯ ทั้งนี้หากมีการประชุมในวันจันทร์จะกระทบต่อ ส.ส.ที่ได้นัดชาวบ้านไว้ในพื้นที่และเมื่อลงพื้นที่ไปแล้วก็จะต้องมาประชุมพรรคในวันอาทิตย์อีก ตรงนี้อาจทำให้ส.ส.หลายคนโวยได้ เพราะได้นัดประชาชนไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากที่จะมีการประชุมวันจันทร์แต่เลื่อนไปในวันพุธ เป็นการเล่นเกมอะไรหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีอะไร ไม่ได้เล่นเกม จะประชุมในวันจันทร์หรือวันพุธก็เหมือนกัน แต่ในวันจันทร์อาจกระทบต่อส.ส.ในสภา ที่จะต้องลงพื้นที่พบประชาชน
ให้ปชช.ตัดสินชัยเหมาะหรือไม่
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงการที่พรรคพลังประชาชนจะเสนอชื่อนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาฯว่า ในส่วนของพรรคยังไม่มีมติว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยว่า นายชัย เหมาะสมหรือไม่ที่จะดำรงตำแหน่งนี้ และต้องพูดคุยกันในพรรคก่อนว่า มติพรรคจะเห็นควรอย่างไร
“จะเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ผมเป็นคนที่เกี่ยวข้องทางการเมือง ไม่อยากพูดถึง เพราะมีส่วนได้ส่วนเสีย แต่อยากให้ประชาชนมองว่าการที่นายชัยเข้ามาดำรงตำแหน่งเหมาะสมหรือไม่ เพื่อให้ประชาชนคิดเอาเอง เพราะสังคมรู้ว่า ใครเหมาะสมที่สุด” นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้านนาย เอกพจน์ ปานแย้ม ส.ส.ปทุมธานี พรรคชาติไทย ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวว่า ตนไม่ปฏิเสธเรื่องความอาวุโส และประสบการณ์ทางการเมืองของนายชัย แต่หากนายชัย ได้ดำรงตำแหน่งนี้จริง ตนอยากให้นายชัย รับฟังความคิดเห็นของ พรรคร่วมรัฐบาลให้รอบด้านมากกว่านี้ ไม่ด่วนสรุปความเห็นในการประชุมเรื่องใดก็ตาม ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นอย่างยิ่ง
ชท.ส่อใช้สิทธิส.ส.ไม่โหวตหนุนชัย
แหล่งข่าวจากพรรคชาติไทย ระบุถึงการแนวทางของพรรคในการลงมติ เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ว่า แนวโน้มของพรรคชาติไทยนั้นไม่เห็นด้วยกับการสนับสนุนนายชัย โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะท่าทีของนายชัย ในการเป็นประธานการประชุมวิปรัฐบาลที่ผ่านมานั้นมักเป็นการทำงานแบบรวบอำนาจและรีบสรุปจบการประชุม เพื่อไม่ให้พรรคร่วมรัฐบาลได้ออกเสียงแสดงความเห็น ที่แตกต่างจากพรรคแกนนำ
“การเลือกประธานสภา ถือเป็นเอกสิทธิ์ของพรรคร่วม ต้องแยกแยะระหว่างงาน บริหารกับงานสภา เพราะการเลือกประธานสภาฯ เป็นสิทธิ์ของส.ส.ที่เป็นสมาชิก ไม่เกี่ยวกับมติใดๆของรัฐบาล ดังนั้นเมื่อเป็นการลงคะแนนลับ พรรคร่วมก็สามารถ ใช้สิทธิ์ที่เปิดช่องไว้ได้” แหล่งข่าวกล่าว โดยเชื่อว่าเสียงโหวตของพรรคชาติไทยจะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงตัวผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ แต่ก็จะเป็นการแสดงจุดยืนของพรรคร่วมรัฐบาลได้ต่อไปในอนาคต
เหน็บรัฐบาบหน้าตาอย่างไรสภาก็ไม่ต่างกัน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่พรคพลังประชาชนมีมติเลือกนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภา ว่า เป็นสิทธิ์ของพรรคพลังประชาชน ที่จะเสนอชื่อนายชัย ซึ่งต้องเสนอให้สภาพิจารณาต่อไปว่าจะเหฌรอย่างไร อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่า ในพรรคร่วมรัฐบาลก็มีการวิจารณ์ในเรื่องดังกล่าวอยู่ ทั้งนี้เราอยากเห็นผู้ที่มาทำ หน้าที่ดังกล่าว ต้องเป็นที่เชื่อมั่นของทุกฝ่ายอย่างแท้จริง สำหรับพรรคประชาธิปัตย์จะมีการหารือกันต่อไปว่าจะส่งใครลงชิงตำแหน่งดังกล่าว
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภาฯ หากเลือกใครเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนนั้นก็ได้เป็น แต่ความเหมาะสมถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และตนไม่ทราบเรื่องนายชัยมีคดีบุกรุกที่หรือไม่ แต่เคยเตือนมาตลอดตั้งแต่ตอนโปรดเกล้าฯนายกรัฐมนตรี และประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้วว่า ต้องระวังเวลาเสนอชื่อคนมีคดีติดตัวถือเป็นเรื่องใหญ่
อย่างไรก็ตามเมื่อหน้าตารัฐบาลเป็นเช่นนี้จะหวังให้สภาหน้าตาดีกว่าคงไม่ได้ เพราะเลือกมาจากคนกลุ่มเดียวกัน
“รัฐบาลกับสภาก็ไปด้วยกัน จะไปหวังให้สภาหน้าตาดีกว่ารัฐบาล หรือรัฐบาลดีกว่าสภาก็คงยาก เพราะเป็นกลุ่มเดียวกัน” นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวว่า จะต้องรอดูก่อนว่าสุดท้ายส.ส.จะเลือกใคร หากเลือกนายชัย ก็ต้องให้เวลานายชัยได้ทำงาน ซึ่งส่วนตัวต้องถือว่าเป็นคนมีอาวุโส โดยพื้นฐานมีประสบการณ์และเป็นส.ส.มานาน ฉะนั้นการรอบรู้ในเรื่องกติกา กฎข้อบังคับพรรค คงมีเต็มที่ อีกทั้งตนกับนายชัยถือเป็นเพื่อนต่างวัยกัน เพราะเป็นส.ส.พร้อมกัน และมีความสนิทสนมกันดี แต่หน้าที่ก็ถือเป็นหน้าที่ และขณะนี้ยังไม่ฝากอะไร ต้องรอให้เป็นประธานก่อน จะฝากแน่นอน
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะผลัดกันดำรงตำแหน่งดังกล่าวกับนายชัยคนละครึ่งวาระนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่าไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค จึงไม่ได้เข้าร่วมประชุม และไม่ทราบรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีส.ส.บางส่วนอาจฝืนมติกรรมการบริหารพรรคโดยจะเสนอให้ นายสมศักดิ์ เป็นประธานฯ นายสมศักดิ์ กล่าวว่าว่า ตรงนั้นไม่ทราบ แตเมื่อเป็นมติพรรคแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นอย่างไรตนไม่ทราบ สำหรับกระแสข่าวที่ว่าจะลาออกจากตำแหน่งนั้น ไม่ทราบว่าจะลาออกทำไม ตนก็อยู่ของตนอย่างนี้ อย่าไปจริงจังกับตำแหน่งหัวโขนเลย อยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ ไม่เคยรู้สึกน้อยใจ ไม่มีปัญหา
ส่วนนายชัยมีความสง่างามที่จะดำรงตำแหน่งนี้หรือไม่นั้นนายสมศักดิ์ กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง ตนคงไม่อาจไปวิพากษ์วิจารณ์ ที่จริงท่านก็อาวุโสดีนี่
ชัยปัดพูดแบ่งคนละครึ่งเทอม
ด้านนายชัย ชิดชอบ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการ ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) ซึ่งนายชัย เป็นประธานวิปรัฐบาลอยู่ ถึงเรื่องดังกล่าว โดยกล่าวเพียงว่ายังไม่ทราบเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนมีมติให้ตนเป็นประธานสภาฯ ทราบจากสื่อมวลชนเท่านั้น จึงยังไม่ขอพูดอะไรและขอทำหน้าที่ประธานวิปรัฐบาลก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้นายชัยได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ โดยปฏิเสธกระแสข่าวการผลัดกันดำรงตำแหน่งประธานสภาฯคนละครึ่งเทอม กับ นายสมศักดิ์ โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่ายังไม่ทราบมติของกรรมการบริหาร พรรคพลังประชาชน
สมัครขอให้เป็นคนละครึ่งวาระ
ขณะที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงมติ กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนที่ให้นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาฯว่า หากสื่อมวลชนถามว่าคนดีมีความสามารถมีเพียงคนเดียวหรือก็ขอเรียนว่า หากถามแบบนี้ คนดีมีความสามารถมีมาก แต่การพิจารณาของ กรรมการบริหารพรรค มองหลักเกณฑ์ว่าคนที่สนใจและต้องการจะทำหน้าที่นี้มีใครบ้าง ก็นำรายชื่อมาดูและนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ก็บอกว่า เมื่อมีคนต้องการ ในตำแหน่งนี้ 2 คน และโต้เถียงกันมากมาย ก็ขอให้ไปคุยกันดูว่าจะประนีประนอมได้ไหม และลองทาบทามบุคคลที่สนใจจะทำหน้าที่ว่า หากทำงานไปสักระยะแล้วคนอื่นๆ อยากจะทำหน้าที่นี้จะตกลงกันได้ไหม
ผู้สื่อข่าวถามว่าการพิจารณาต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์บุคคลหรือไม่เพราะตำแหน่งนี้คือประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ นายชูศักดิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญ แต่ตนเรียนไปแล้วว่า บุคคลที่สนใจจะรับหน้าที่นี้มี 2 คนคือนายชัยและนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาฯ
ชูศักดิ์รับพปช.ไม่มีเอกภาพ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากบอกว่ามีหลายคนคนอยากทำหน้าที่นี้ แต่การเสนอชื่อ ไม่ได้คำนึงถึงความรู้ความสามารถ เพราะตำแหน่งนี้หากไปถาม ใครๆ ก็อยากทำหน้าที่นี้ทั้งนั้น นายชูศักดิ์กล่าวว่า สุดท้ายมีเพียง 2 คนและมีบุคคลในพรรคสนับสนุน โดยต้องมีส.ส. 20 คนลงชื่อรับรอง ส่วนคนอื่นๆ ที่เคยมีชื่อว่าอาจรับหน้าที่นี้ รวมทั้งตนก็ไม่มีใครสนับสนุนเลย แม้บางคนอยากเป็นในใจแต่ไม่มีเสียงสนับสนุนแล้วจะให้ทำอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเป็นเช่นนี้พรรคพลังประชาชนก็ไม่มีเอกภาพ นายชูศักดิ์กล่าวว่า มันก็เป็นธรรมดา ทุกพรรคก็มีหลายกลุ่มในพรรคแบบนี้ การเมืองนั้นคือ การพูดคุยและตกลงกัน เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคจะไปปรับความเข้าใจกับกลุ่มต่างๆ ในเรื่องนี้ นายชูศักดิ์กล่าวว่า นายสมชายเป็นผู้ใหญ่น่าจะไปประสานได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าสมมุติว่า หากมีนักเลงหัวไม้และมีเสียงในพรรคสนับสนุนก็รับหน้าที่นี้ได้ใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่ทราบ เรื่องนี้ต้องมี ส.ส.20 คนลงชื่อรับรอง มันต้องยกมือสนับสนุนในสภาและลงคะแนนลับ และรอดูว่ามีเสียงสนับสนุนอย่างไร เมื่อถามว่า หากเป็นเช่นนี้จริง แสดงว่ามีใบสั่งตามกระแสข่าว นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่มี เมื่อถามว่า หากเป็นเช่นนี้พรรคพลังประชาชนไม่มีเอกภาพ นายชูศักดิ์กล่าวว่า มันก็เป็นธรรมดา
อีสานเหนือขอใช้เอกสิทธิโหวต
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า แม้กรรมการบริหารพรรคจะมีมติเลือกนายชัย แต่ก็มีจำนวนไม่มากหากเทียบกับจำนวนส.ส.พรรค ซึ่งในการประชุมพรรคในวันอังคารที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ถือว่า เป็นวาระสำคัญที่ส.ส.ในพรรคจะอภิปรายหากมีความเห็นที่แตกต่าง และหากชี้แจงไม่ได้ก็ควรให้เป็นเอกสิทธิ์ของส.ส.ในการซาวเสียงว่ายอมรับนายชัยหรือไม่ เรื่องนี้เหมือนเป็นเอกสิทธิ์ในสภาจะมาบังคับกันไม่ได้ เพราะในกรณีที่มีเสียงแตกต่างก็ต้องยอมให้ผู้แทนฯแสดงความคิดเห็น
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส.หลายคนไม่พอใจที่นายเนวิน ชิดชอบ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย มักจะเข้ามามีบทบาทในทุกๆ ด้านของพรรคนั้น นายไพจิต กล่าวว่า เข้าใจว่าที่นายเนวินมีบารมีเพราะส.ส.ในกลุ่มได้รับเลือกตั้งเข้ามาเยอะ ซึ่งส.ส.ส่วนใหญ่ก็อยู่ในกลุ่มของนายเนวินทั้งนั้น แต่ในภาคอีสานบางส่วนและในภาคอื่นๆ ที่ไม่เห็นด้วยก็มี ดังนั้นฝ่ายที่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งนายชัยเป็นประธานสภาฯ จะต้องอธิบายคุณงามความดีของนายชัย เพราะคนทำงานสภาฯ ต้องมีความสง่างามเป็นหลัก ประธานสภาฯเมื่อขึ้นมามีอำนาจก็มีความสำคัญมากไปจนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อาจส่งผลกระทบต่อการแก้ไขได้
ด้านนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตนและส.ส.ส่วนหนึ่งในพรรคมีความเป็นห่วงภาพลักษณ์ของนายชัย ที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช ลาออกจากตำแหน่งประธานสภาฯก็เพราะกลัวกระทบตำแหน่งภาพลักษณ์ของประธานสภาฯ แต่ตอนนี้เมื่อมีมติของคณะกรรมการบริหารพรรคออกมา ก็ขอให้สภาฯ เดินต่อไปให้ได้ ส่วนส.ส.จะดำเนินการอย่างไรนั้นขอไปคุยกันภายในกลุ่มก่อน
ขณะที่นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคพลังประชาชน กล่าวว่าในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.นี้ พรรคพลังประชาชนได้นัดประชุมเพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับการเบือกประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ และคาดว่าจะมีการพูดคุยเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่นายสุธา ชันแสง ลาออกด้วย แต่ทั้งนี้ส.ส.ภาคเหนือ คงไม่เรียกร้องให้มีการจัดสรรโควตารัฐมนตรีใหม่ให้แทนตำแหน่งประธานสภาฯที่เสียไป เพราะภาคเหนือถือว่าเป็นกลุ่มที่เสียสละทางการเมืองอยู่แล้ว
เด็กเนวินเช็ควุ่นวันโหวตปธ.สภา
มีรายงานข่าวจากรัฐสภาว่า ตลอดทั้งวัน ส.ส.ในสภา ได้ตรวจสอบกระแสข่าว ที่ว่าจะมีการเรียกประชุมสภาฯนัดพิเศษในวันจันทร์ที่ 12 พ.ค. เพื่อพิจารณาระเบียบวาระการเลือกประธานสภาฯ ทำให้ส.ส.บางส่วนจองตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับมา กทม.ในช่วงเย็นวันอาทิตย์
ขณะเดียวกัน ส.ส.กลุ่มนายเนวิน ชิดชอบ ได้เช็กข่าวว่าจะมีการประชุมในวันดังกล่าวจริงหรือไม่ เพื่อที่จะเตรียมรับมือชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาของนายชัย ในที่ประชุม ส.ส.ที่จะต้องมีการเรียกประชุมในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค. แต่เมื่อเวลา 17.15น นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มีการลงนามในระเบียบวาระว่าจะมีการประชุมสภาฯในวันพุธที่ 14 พ.ค. เวลา 9.30 น. เพื่อพิจารณา เลือกประธานสภาฯ ทั้งนี้หากมีการประชุมในวันจันทร์จะกระทบต่อ ส.ส.ที่ได้นัดชาวบ้านไว้ในพื้นที่และเมื่อลงพื้นที่ไปแล้วก็จะต้องมาประชุมพรรคในวันอาทิตย์อีก ตรงนี้อาจทำให้ส.ส.หลายคนโวยได้ เพราะได้นัดประชาชนไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากที่จะมีการประชุมวันจันทร์แต่เลื่อนไปในวันพุธ เป็นการเล่นเกมอะไรหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีอะไร ไม่ได้เล่นเกม จะประชุมในวันจันทร์หรือวันพุธก็เหมือนกัน แต่ในวันจันทร์อาจกระทบต่อส.ส.ในสภา ที่จะต้องลงพื้นที่พบประชาชน
ให้ปชช.ตัดสินชัยเหมาะหรือไม่
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงการที่พรรคพลังประชาชนจะเสนอชื่อนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาฯว่า ในส่วนของพรรคยังไม่มีมติว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยว่า นายชัย เหมาะสมหรือไม่ที่จะดำรงตำแหน่งนี้ และต้องพูดคุยกันในพรรคก่อนว่า มติพรรคจะเห็นควรอย่างไร
“จะเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ผมเป็นคนที่เกี่ยวข้องทางการเมือง ไม่อยากพูดถึง เพราะมีส่วนได้ส่วนเสีย แต่อยากให้ประชาชนมองว่าการที่นายชัยเข้ามาดำรงตำแหน่งเหมาะสมหรือไม่ เพื่อให้ประชาชนคิดเอาเอง เพราะสังคมรู้ว่า ใครเหมาะสมที่สุด” นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้านนาย เอกพจน์ ปานแย้ม ส.ส.ปทุมธานี พรรคชาติไทย ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวว่า ตนไม่ปฏิเสธเรื่องความอาวุโส และประสบการณ์ทางการเมืองของนายชัย แต่หากนายชัย ได้ดำรงตำแหน่งนี้จริง ตนอยากให้นายชัย รับฟังความคิดเห็นของ พรรคร่วมรัฐบาลให้รอบด้านมากกว่านี้ ไม่ด่วนสรุปความเห็นในการประชุมเรื่องใดก็ตาม ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นอย่างยิ่ง
ชท.ส่อใช้สิทธิส.ส.ไม่โหวตหนุนชัย
แหล่งข่าวจากพรรคชาติไทย ระบุถึงการแนวทางของพรรคในการลงมติ เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ว่า แนวโน้มของพรรคชาติไทยนั้นไม่เห็นด้วยกับการสนับสนุนนายชัย โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะท่าทีของนายชัย ในการเป็นประธานการประชุมวิปรัฐบาลที่ผ่านมานั้นมักเป็นการทำงานแบบรวบอำนาจและรีบสรุปจบการประชุม เพื่อไม่ให้พรรคร่วมรัฐบาลได้ออกเสียงแสดงความเห็น ที่แตกต่างจากพรรคแกนนำ
“การเลือกประธานสภา ถือเป็นเอกสิทธิ์ของพรรคร่วม ต้องแยกแยะระหว่างงาน บริหารกับงานสภา เพราะการเลือกประธานสภาฯ เป็นสิทธิ์ของส.ส.ที่เป็นสมาชิก ไม่เกี่ยวกับมติใดๆของรัฐบาล ดังนั้นเมื่อเป็นการลงคะแนนลับ พรรคร่วมก็สามารถ ใช้สิทธิ์ที่เปิดช่องไว้ได้” แหล่งข่าวกล่าว โดยเชื่อว่าเสียงโหวตของพรรคชาติไทยจะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงตัวผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ แต่ก็จะเป็นการแสดงจุดยืนของพรรคร่วมรัฐบาลได้ต่อไปในอนาคต
เหน็บรัฐบาบหน้าตาอย่างไรสภาก็ไม่ต่างกัน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่พรคพลังประชาชนมีมติเลือกนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภา ว่า เป็นสิทธิ์ของพรรคพลังประชาชน ที่จะเสนอชื่อนายชัย ซึ่งต้องเสนอให้สภาพิจารณาต่อไปว่าจะเหฌรอย่างไร อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่า ในพรรคร่วมรัฐบาลก็มีการวิจารณ์ในเรื่องดังกล่าวอยู่ ทั้งนี้เราอยากเห็นผู้ที่มาทำ หน้าที่ดังกล่าว ต้องเป็นที่เชื่อมั่นของทุกฝ่ายอย่างแท้จริง สำหรับพรรคประชาธิปัตย์จะมีการหารือกันต่อไปว่าจะส่งใครลงชิงตำแหน่งดังกล่าว
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภาฯ หากเลือกใครเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนนั้นก็ได้เป็น แต่ความเหมาะสมถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และตนไม่ทราบเรื่องนายชัยมีคดีบุกรุกที่หรือไม่ แต่เคยเตือนมาตลอดตั้งแต่ตอนโปรดเกล้าฯนายกรัฐมนตรี และประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้วว่า ต้องระวังเวลาเสนอชื่อคนมีคดีติดตัวถือเป็นเรื่องใหญ่
อย่างไรก็ตามเมื่อหน้าตารัฐบาลเป็นเช่นนี้จะหวังให้สภาหน้าตาดีกว่าคงไม่ได้ เพราะเลือกมาจากคนกลุ่มเดียวกัน
“รัฐบาลกับสภาก็ไปด้วยกัน จะไปหวังให้สภาหน้าตาดีกว่ารัฐบาล หรือรัฐบาลดีกว่าสภาก็คงยาก เพราะเป็นกลุ่มเดียวกัน” นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวว่า จะต้องรอดูก่อนว่าสุดท้ายส.ส.จะเลือกใคร หากเลือกนายชัย ก็ต้องให้เวลานายชัยได้ทำงาน ซึ่งส่วนตัวต้องถือว่าเป็นคนมีอาวุโส โดยพื้นฐานมีประสบการณ์และเป็นส.ส.มานาน ฉะนั้นการรอบรู้ในเรื่องกติกา กฎข้อบังคับพรรค คงมีเต็มที่ อีกทั้งตนกับนายชัยถือเป็นเพื่อนต่างวัยกัน เพราะเป็นส.ส.พร้อมกัน และมีความสนิทสนมกันดี แต่หน้าที่ก็ถือเป็นหน้าที่ และขณะนี้ยังไม่ฝากอะไร ต้องรอให้เป็นประธานก่อน จะฝากแน่นอน
