พบอีกหลักฐาน “สุธา ชันแสง” หมกเมียน้อย มีลูกนอกสมรส 1 คน แต่ไม่ยอมแจ้งบัญชีทรัพย์สินของลูกนอกสมรสที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อ ป.ป.ช.หลังจากก่อนหน้านี้มีพิรุธจบปริญญาตรีจากฟิลิปปินส์มา 24 ปี เพิ่งโผล่แสดงวุฒิการศึกษา หลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี และกำลังถูก ส.ว.ยื่นเรื่องถอดถอน
ภายหลัง นายสุธา ชันแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถูกตั้งคำถามว่า จบการศึกษาระดับปริญญาตรีตั้งแต่เมื่อใด เนื่องจากตั้งแต่เล่นการเมืองครั้งแรกในปี พ.ศ.2528 ระบุว่า จบมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.ศ.5) และมาเปลี่ยนเป็นจบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรชั้นสูง และ วุฒิบัตรขั้นสูงสุด (FCILT) ด้านลอจิสติกส์และการขนส่ง จากสถาบันลอจิสติกส์และการขนส่ง สหราชอาณาจักร (สาขาประเทศไทย) ในปี 2548 และใช้วุฒิบัตรดังกล่าว แม้กระทั่งการเลือกตั้งครั้งล่าสุดในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 แต่เมื่อนายสุธา เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกระทรวงกลับแจ้งสื่อมวลชน ว่า นายสุธา จบปริญญาตรี Bachelor of Science in Commerce (Management) (BSC) จาก Republican College ประเทศฟิลิปปินส์ ในปี 1984 (พ.ศ.2527) เนื่องจากรัฐธรรมนูญระบุว่า รัฐมนตรีจะต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรีเท่านั้น ทำให้มีข้อสังเกตว่า หาก นายสุธา จบการศึกษาปริญญาตรีจริง ทำไมเอกสารที่ระบุวุฒิการศึกษาของนายสุธา ตั้งแต่ปี 2528 จนถึงปี 2550 จึงไม่ระบุว่า จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเลย และต่อมาถูกตั้งคำถามว่า นายสุธา ไปเรียนจริงหรือไม่ เรียนเมื่อใด และยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจนถึงขณะนี้ จนกระทั่งทางคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน)มีมติว่าจะเข้าชื่อยื่นถอดถอนนั้น
กรณีปมปัญหาของ นายสุธา ได้เกิดขึ้นอีกกรณีหนึ่ง เมื่อพบหลักฐานว่า นายสุธา ไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เนื่องจากพบว่า นายสุธา มีบุตรสาวที่เกิดกับภรรยาอีกคนหนึ่งชื่อ นางปภาดา ชัยตระกูลสวัสดิ์ โดยบุตรสาวเกิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2550 ที่บ้านเลขที่ 397 หมู่ 2 ต.วังไทร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ก่อนที่ นายสุธา จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ออกหนังสือรับรองการเกิดโดยสถานีอนามัยวังไทร ทร.1/1 ตอน 1 ที่ 1/2550 ลว.2ม.ค.2550
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 259 ระบุว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังต่อไปนี้ มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ทุกครั้งที่เข้ารับตำแหน่งหรือพ้นจากตำแหน่ง (1) นายกรัฐมนตรี (2) รัฐมนตรี (3) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (4) สมาชิกวุฒิสภา (5) ข้าราชการการเมืองอื่น (6) ผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นตามที่กฎหมายบัญญัติ
บัญชีตามวรรคหนึ่งให้ยื่นพร้อมเอกสารประกอบ ซึ่งเป็นสำเนาหลักฐานที่พิสูจน์ความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าว รวมทั้งสำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมาการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้รวมถึงทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มอบหมายให้อยู่ในความครอบครอง หรือดูแลของบุคคลอื่นไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมด้วย
จากการตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีของ นายสุธา พบว่า นายสุธา ไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินของบุตรนอกสมรสคนดังกล่าว โดยแจ้งต่อ ป.ป.ช.ว่า มีภรรยาชื่อ นางวีณา ชันแสง มีบุตรในสมรส 2 คน คือ น.ส.ญานิศา ชันแสง อายุ 18 ปี และ ด.ช.ศุภกร ชันแสง อายุ 11 ปี และแจ้งว่า ไม่มีบุตรนอกสมรส
คลิกดู บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ของนายสุธา ชันแสง เมื่อเป็นส.ส.ครั้งล่าสุด ที่นายสุธาแจ้งว่าไม่มีบุตรนอกสมรส
บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ของนายสุธา ชันแสง เมื่อเป็นรัฐมนตรี ที่นายสุธาแจ้งว่าไม่มีบุตรนอกสมรส