xs
xsm
sm
md
lg

“ยามฯ” เปิดแผลใหม่ “สุธา” ส่อผิด รธน. - ชี้พิรุธ “สุวิทย์” เปลี่ยนไปหลังขึ้นราคาน้ำตาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ยามเฝ้าแผ่นดิน” เปิดอีกแผล “สุธา ชันแสง” มีลูกนอกสมรสไม่แจ้งต่อ ป.ป.ช.ส่อผิดรัฐธรรมนูญ จวก 6 พรรคร่วมรัฐบาลไม่แยแสความรู้สึกประชาชน เมินเงื่อนไข 5 ข้อ พร้อมจับพิรุธ “สุวิทย์ คุณกิตติ” ท่าทีเปลี่ยนไปหลัง ครม.อนุมัติขึ้นราคาน้ำตาล เพิ่มเม็ดเงิน 6,500 ล้าน โยงหุ้น บ.น้ำตาลขอนแก่นฯ ราคาพุ่งพรวด

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, สโรชา พรอุดมศักดิ์ ช่วงที่ 1

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, สโรชา พรอุดมศักดิ์  ช่วงที่ 2


รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 7 พ.ค. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ ร่วมดำเนินรายการ ในช่วงแรกได้เปิดหลักฐานใหม่เกี่ยวกับตัวนายสุธา ชันแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องวุฒิการศึกษา และถูกตั้งข้อสงสัยว่าจบปริญญาตรีจากประเทศฟิลิปปินส์จริงหรือไม่ จนทำให้ ส.ว.กลุ่มหนึ่งเข้าชื่อถอดถอนนายสุธาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีเนื่องจากอาจจะขาดคุณสมบัติ

ล่าสุด มีหลักฐานอีกว่านายสุธามีบุตรนอกสมรสแล้ว แต่ไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ทั้งที่รัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 259 ระบุเอาไว้ว่า คนเป็นรัฐมนตรีจะต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินฯท ของตัวเอง คู่สมรส บุตร และบุตรนอกสมรสต่อ ป.ป.ช.ด้วย โดยบุตรนอกสมรสคนดังกล่าวเป็นเด็กหญิง เกิดเมื่อวันที่ 2 ม.ค.2550 อยู่บ้านเลขที่ 397 ม.2 ต.วังไทร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งในใบเกิดระบุชื่อบิดาคือนายสุธา ชันแสง เมื่อตรวจสอบหมายเลขบัตรประชาชนแล้วปรากฏว่าตรงกับหมายเลขบัตรประชาชนของนายสุธา ที่แจ้งต่อ ป.ป.ช.

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า แม้เด็กหญิงคนดังกล่าวจะเป็นลูกนอกสมรส แต่กฎหมายระบุว่าต้องแจ้งต่อ ป.ป.ช.ทั้งบัตร และบุตรนอกสมรส กรณีที่นายสุธาไม่ได้แจ้ง จะถือว่านายสุธาทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช.หรือไม่ และเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากกว่าตำแหน่งรัฐมนตรีของนายสุธาก็คือเรื่องในครอบครัวของนายสุธาเอง กรณีนี้จะกล่าวหาว่านำเรื่องส่วนตัวของนายสุธามาเปิดเผยไมได้ เพราะกฎหมายระบุว่าต้องเปิดเผย ถ้านายสุธาไม่พร้อมที่จะเปิดเผยก็ไม่ต้องเข้ามาเล่นการเมือง

**จวก 6 พรรคร่วมไม่แยแส ปชช.

ต่อมา ผู้ดำเนินรายการ กล่าวถึงกรณีที่หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล 6 พรรคไปรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านไพซาโน่ว่า เป็นบรรยากาศที่ทุกลักทุเล และน่าตั้งข้อสังเกตอยู่ 2 ประเด็น คือ ประเด็นที่ 1 กรณีที่ พล.อ.เชษฐา ฐานจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา บอกว่าเห็นพ้องในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายเรื่องที่สอดคล้องกับสถานการณ์และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ส่วนเงื่อนไข 5 ข้อ ที่พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินตั้งไว้ตอนก่อนเข้าร่วมรัฐบาลนั้น คงต้องว่ากันแบบไทยๆ จะค้านก็ไม่มีประโยชน์

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า คำพูดของ พล.อ.เชษฐา เป็นเรื่องตลก เพราะสิ่งที่เคยให้สัญญาประชาคมเอาไว้ว่าจะไม่ทำ ก็ทำหมดทุกข้อ ไม่ต้องแยแสความรู้สึกของประชาชน ดูถูกประชาขนว่าจำความอะไรไม่ได้ ประเด็นนี้ปัญหาอยู่ที่ไหนกันแน่ อยู่ที่รัฐธรรมนูญที่เขียนเอาไว้แล้ว นักการเมืองไม่อยากทำตาม ก็เลยจะขอแก้ไข ใช่หรือไม่

ประเด็นที่ 2. เมื่อเห็นบรรยากาศที่พรรคร่วมรัฐบาลคุยกันเรื่องรัฐธรรมนูญ ทำให้รู้สึกเจ็บปวด เมื่อนึกถึงชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนแสนสาหัส โดยเฉพาะปัญหาข้าว ที่รัฐบาลบอกว่าให้เรายอมกินข้าวแพง โม้ว่าข้าวจะขายได้ตันละหลายหมื่น แต่ชาวนาก็กำลังร้องเรียนว่าขายข้าวไม่ได้ราคาเต็มเพราะถูกกดราคา นี่คือสิ่งที่ชาวนากำลังประสบ

ผู้ดำเนินรายการกล่าวต่อว่า ที่รัฐบาลโม้เอาไว้ว่าราคาข้าวในตลาดโลกกำลังสูง แต่ข้าวก็ไม่ได้อยู่ในมือชาวนาแล้ว แถมต้องไปซื้อข้าวแพงมากิน ที่รัฐมนตรีบางคนอ้างว่าพ่อค้าต้องไปง้อหน้าประตูบ้านชาวนาให้ขายข้าว ก็ไม่ได้เป็นตามนั้น คนที่ได้ประโยชน์จากราคาข้าวที่สูงขึ้นยังเป็นพ่อค้าคนกลางและโรงสีเหมือนเดิม ส่วนชาวนามีแต่หนี้สิน เพราะเมื่อข้าวราคาดีจะปลูกเพิ่มก็เจอปัญหาปุ๋ยแพง ขาดแคลนน้ำ ผลผลิตต่อไร่ต่ำ เพราะรัฐบาลไม่ได้วางยุทธศาสตร์เอาไว้ จึงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไปทุกๆ ปี

**จับพิรุธ “สุวิทย์” เปลี๊ยนไป๋! หลังขึ้นราคาน้ำตาล

ต่อมา ผู้ดำเนินรายการกล่าวถึงการขึ้นราคาน้ำตาลว่า มีข้อสังเกตถึงท่าทีของนายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกฯ และ รมว.อุตสาหกรรม โดยในช่วงก่อนที่นายสุวิทย์ จะไปประชุมเพื่อหาทางแก้ปัญหาราคาอ้อยตกต่ำร่วมกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 26 เม.ย.นั้น นายสุวิทย์ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินแสดงท่าทีว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญ และก่อนเข้าประชุมกับนายสมัครในวันดังกล่าวก็บอกว่าไม่อยากพูดถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือเรื่องการเมือง ขอแก้ไขปัญหาปากท้องให้เกษตรกรก่อน

หลังจากการประชุมในวันดังกล่าวนายสมัครให้สัมภาษณ์ว่านายสุวิทย์ได้รับปากเกษตรกรชาวไร่อ้อยว่า จะทำให้ราคาอ้อยขายได้ 807 บาทต่อตัน จากที่ขายได้อยู่ 600 กว่าบาทต่อตัน ส่วนข้อเรียกร้องของชาวไร่อ้อยที่ขอ 1,200 บาทต่อตันนั้นยังรับปากไม่ได้ แต่จะหาทางช่วยโดยการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มผลผลิตต่อไร้ให้สูงขึ้น

นอกจากนั้น นายสมัครได้บอกว่าถ้าจะขึ้นราคาน้ำตาลเพื่อช่วยชาวไร่อ้อย ประชาชนทั่วไปก็เดือดร้อนไม่มาก นอกจากบริษัทน้ำอัดลม ซึ่งคำพูดของนายสมัครทำให้นายสมัครได้ใจนายสุวิทย์ และนายสุวิทย์ก็บอกว่าจะอยู่กับรัฐบาลต่อไป ต่อมา วันอาทิตย์ที่ 27 เม.ย.นายสมัคร ออกรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ก็พูดย้ำอีกครั้งถึงความจำเป็นต้องขึ้นราคาน้ำตาลว่าราคาปุ๋ยแพงขึ้น 3 เท่าตัวแล้ว ที่ผ่านมาจะขึ้นราคาน้ำตาลแต่ละทีก็ยาก และอ้างว่า ถ้าขึ้นราคาน้ำตาล ประชาชนทั่วไปคงเดือดร้อนไม่มาก

หลังจากนั้น วันจันทร์ที่ 28 เม.ย. มีกระแสข่าวออกมาว่ารัฐบาลจะอนุมัติให้ขึ้นราคาน้ำตาลอีกกิโลกรัมละ 5.25 บาท โดย กอน.(คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย) ได้ประชุมกันก่อนแล้ว จะเสนอ ครม.ในวันอังคารที่ 29 เม.ย.

ปรากฏว่า ในวันที่ 28 เม.ย.นั้น กระทรวงอุตสาหกรรมได้สั่งให้โรงงานน้ำตาล 47 แห่งทั่วประเทศ งดจำหน่ายน้ำตาลโควตา ก.ที่ขายในประเทศ โควตา ข.ที่ส่งออก โดยบริษัทน้ำตาลไทย และโควตา ค.ที่ส่งออกโดยโรงงานน้ำตาล ซึ่งก็คือน้ำตาลทั้งหมด เป็นการชั่วคราว จนกว่าการขอขึ้นราคาจะได้รับการอนุมัติ โดยอ้างว่าถ้ายังเปิดจำหน่ายจะทำให้มีการซื้อไปกักตุน

ขณะที่ นายสุวิทย์อ้างว่าได้สั่งหยุดจำหน่ายเพื่อตรวจสอบปริมาณน้ำตาลทรายที่มีในโรงงานว่ามีเท่าไหร่ เพื่อดูข้อมูลภาพรวม นำมาพิจารณาช่วยเหลือ ชาวไร่อ้อย เป็นการเช็กสต๊อกชั่วคราว และวันอังคาร ครม.ก็อนุมัติให้ขึ้นราคาน้ำตาลทราย กก.ละ 5.25 บาท

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น นายสุวิทย์ก็มีท่าทีเปลี่ยนไปกลับไปสนใจการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้ง ส่วนนายสมัครก็ออกมาแช่งคอลัมนิสต์ที่เขียนว่าเขาได้ผลประโยชน์ 500 ล้าน

ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า ในวันที่ 28 เม.ย.ที่มีการสั่งหยุดจำหน่ายน้ำตาลนั้น ทั้ง 47 โรงงาน มีน้ำตาลทรายอยู่ 13 ล้านกระสอบ หลังจาก ครม.อนุมัติขึ้นราคาน้ำตาลทำให้มีเงินเพิ่มขึ้น 6,500 ล้านบาท

นอกจากนี้ มีการตั้งข้อสังเกตอีกว่า นายสุวิทย์นั้น เป็นคนขอนแก่น หลังจาก ครม.อนุมัติขึ้นราคาน้ำตาลแล้ว ปรากฏว่า หุ้นของบริษัทน้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 25 ปี ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ราคาปิดลบตลอด มูลค่าการซื้อขายแต่ละวันอยู่ที่ 21-41 ล้านบาท แต่ในวันที่ 28 เม.ย.ราคาหุ้นบริษัทน้ำตาลขอนแก่นฯ ได้ขึ้นไปถึงร้อยละ 5 มูลค่าการซื้อขาย 145 ล้านบาท และ 2 วันต่อมาก็ราคาขึ้นไปอีก โดยมีมูลค่าซื้อขาย 100 กว่า – 200 กว่าล้านบาท

มีคนตั้งข้อสังเกตว่าการขึ้นราคาน้ำตาลเพื่อช่วยเหลือชาวไร่อ้อยนั้นมีความชอบธรรมหรือไม่ เพราะเป็นการให้คนไทยช่วยจ่ายเงินจ่ายค่าน้ำตาลแพง เพื่อช่วยแบกรับภาระที่ราคาน้ำตาลในตลาดโลกตกต่ำ หากชาวไร่อ้อยตัวจริงได้ประโยชน์ก็พอยอมรับได้ แต่กรณีนี้คนที่ได้ปผระโยชน์คือชาวไร่อ้อยบรรดาศักดิ์ที่เป็นหัวหน้าโควต้า ขับรถเบนซ์

** ย้อน รัฐบาลลูกกรอกสร้างเองเงื่อนไขยึดอำนาจ

ต่อมา ผู้ดำเนินรายการ กล่าวถึงคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ว่า ทำให้รู้สึก ชื่นใจทหารที่ทหารออกมาปกป้องสถาบัน เห็นด้วยที่ว่าไม่อยากให้มีการก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูง และ เราก็ไม่อยากพูดถึง น ถ้าไม่มีใครไปก้าวล่วง

แต่อีกความรู้สึกหนึ่งก็สงสัยว่า ทำไมทหารต้องมาตอบคำถามแบบนี้อีกแล้ว ถ้าบ้านเมืองปกติ จะมีคนไปถามว่าทหารว่าจะปฏิวัติไหม หรือไม่ และเห็นด้วยกับ พล.ท.ประยุทธ์ ที่บอกว่าไม่ต้องมาถามทหารว่าจะปฏิวัติหรือไม่ แต่ต้องถามว่ามีอะไรที่จะนำไปสู่การปฏิวัติหรือไม่ แต่ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราต้องการสร้างเงื่อนไขให้มีการปฏิวัติ เพราะจริงๆ แล้ว คนที่สร้างเงื่อนไขคือรัฐบาลต่างหาก ถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยมีให้ประชาชนมีส่วนร่วม ให้ มี ส.ส.ร.และลงประชามติ ถ้าลงแล้วรัฐบาลชนะ มันก็จบ เราจะพูดอะไรได้ เพราะฉะนั้นเงื่อนไขการปฏิวัติถ้าจะเกิดก็เป็นเงื่อนไขที่เขาสร้างมาเอง

คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 1

( 56 k ) | ( 256 K )



คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2

( 56 k ) | ( 256 K )



กำลังโหลดความคิดเห็น