“ปลาไหล” โชว์ลีลาพลิ้วแก้ต่างพลังแม้วแก้ รธน.ตีกัน “จิ๋ว”

ชาติไทย ย้อนถามใจ “แม้ว” ฝืน รธน.ทาบ “จิ๋ว” นั่งนายกฯจริงหรือ โชว์ลีลาพลิ้วโต้ “จำลอง” โยงสถาบันหวังผลทางการเมือง แก้ตัวแทน พปช.ยังไม่สรุป แก้ รธน.

วันนี้ (18 พ.ค.) นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีข่าวที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะผลักดันให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี อีกครั้งว่า เรื่องนี้ถ้าจะเป็นไปได้ต้องดูรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ที่ระบุว่า คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ต้องมาจากการเลือกตั้ง ก็ต้องกลับไปมองว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ท่านมาจากการเลือกตั้งหรือไม่ หรือพ.ต.ท.ทักษิณ ท่านอาจจะหมายถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมาถึงก็ไม่ทราบได้ ซึ่งหากบุคคลใดที่ลงรับสมัครเลือกตั้งผ่านมาเป็น ส.ส.ก็มีสิทธิ์ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ไม่มีใครรังเกียจ

แต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันได้แค่ 120 วัน และทางรัฐสภาเองก็ปิดสมัยประชุมสภาจึงไม่รู้ได้ว่าท่านจะมาอย่างไร เข้าใจว่า คงเป็นการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุในงานครบรอบ 16 ปี พฤษภาทมิฬ ว่า การที่ นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พูดพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูงและการที่พรรคพลังประชาชนเร่งเสนอแก้ รัฐธรรมนูญปี 2550 ในการประชุมสภาสมัยวิสามัญจะเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาล และอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนั้น

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า รู้สึกแปลกใจ เพราะเรื่องนี้ นายจักรภพได้พูดมาตั้งนานก่อนการเลือกตั้งอีก แต่ไม่เป็นประเด็น เหตุใดจึงกลับมาเป็นประเด็นข่าวใหญ่ในช่วงนี้ เพราะการจะอ้างถึงเหตุการณ์หรืออะไรก็แล้วแต่ ต้องดูความเหมาะสม ไม่ใช่จะหวังผลทางการเมืองแต่ฝ่ายเดียว เพราะเรื่องใหญ่อย่างนี้ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อฝ่ายใดเลย สำหรับเรื่องผลกระทบต่อรัฐบาลนั้น คงไม่กระทบ ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล เพราะถือเป็นเรื่องปกติที่จะมีการปรับคนเข้าคนออก แต่จะมีการปรับนายจักรภพออกหรือไม่นั้น ตนไม่สามารถทราบได้และขอสงวนความเห็นในเรื่องนี้ แต่การเปลี่ยนแปลงตัวนายกรัฐมนตรีหรือนายกฯลาออก ถือว่ามีผลมาก แต่ตนก็มองไม่เห็นถึงสาเหตุของการลาออก หรือการยุบสภาเพราะไม่มีปัจจัยอะไร

เมื่อถามย้ำถามว่า การเร่งจะแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชนจะเป็นตัวเร่งให้เกิดมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่ เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมาอดีตแกนนำ นปก.ยื่นร่างแก้รัฐธรรมนูญ และมอบรายชื่อผู้สนับสนุนผ่านรองประธานสภาแล้ว นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อย่ามองพฤติกรรมของใครคนใดคนหนึ่งแล้วไปเหมารวมว่าพรรคการเมืองนั้นจะเอาด้วย เพราะเป็นแค่การเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคพลังประชาชนบางคนเท่านั้น หากพรรคพลังประชาชนจะแก้ไขจริงต้องมีการประชุมพรรคเพื่อหามติ และต้องมีการแถลงข่าวและมีผู้ใหญ่ของพรรคร่วมแถลงอย่างเป็นทางการ เข้าใจว่าชั้นนี้พรรคยังไม่มีข้อยุติ เพราะต้องดูด้วยว่าจะยื่นเมื่อไหร่ ยื่นในนามใคร ในนามพรรคพลังประชาชนพรรคเดียวหรือในนามพรรคร่วมรัฐบาล เพราะหากเขาจะเอาร่างนี้ยื่นในนามพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องประสานมาที่พรรคชาติไทยให้รับทราบ โดยทางพรรคชาติไทยก็จะมีการประชุมเพื่อหามติและมีข้อเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของพรรคชาติไทยประกอบไปด้วย แต่ในชั้นนี้ยืนยันว่าพรรคชาติไทยยังไม่มีการหารือถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด

เมื่อถามต่อว่า มีหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า หลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ นายกฯจะยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องยาก ที่จะคาดเดาเพราะเป็นเรื่องของอนาคต และอย่าเหมาหรือคิดไปก่อนเหตุการณ์ที่จะเกิด