xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์ยืนคุก2ปี"กกต.3หนา"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (14 พ.ค.) ศาลอาญา เวลา ศาลออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ในคดีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องพล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธาน กกต. , นายปริญญา นาคฉัตรีย์ , นายวีระชัย แนวบุญเนียร อดีตกกต. เป็นจำเลยในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 และพ.ร.บ.คณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 มาตรา 24 และ 42 กรณีที่ไม่เร่งสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ข้อร้องเรียนกล่าวหาพรรคไทยรักไทย ว่าจ้างพรรคการแผ่นดินไทย และพรรคพัฒนาชาติไทย ลงรับสมัครเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.49 โดยพลัน ตามระเบียบกกต.ว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงและการวินิจฉัย พ.ศ.2542 มาตรา 37 ,48 จำเลยให้การปฏิเสธ
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 15 ก.ย.49 ให้จำคุกจำเลยทั้ง 3 คน คนละ 3 ปี อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานที่พวกจำเลยนำสืบเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยคนละ 2 ปี พร้อมกับเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งคนละ 10 ปี จำเลยอุทธรณ์ ขอให้ศาลยกฟ้อง และ บรรเทาโทษลงด้วย
ทั้งนี้ อุทธรณ์ของจำเลยทั้ง 3 ขอบรรเทาโทษด้วย โดยอ้างว่า ได้ประกอบคุณงามความดี และมีโรคประจำตัว ศาลเห็นว่า การเข้ามาดำรงตำแหน่ง กกต.นั้น ต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ไม่มีลักษณะต้องห้าม ผ่านการคัดเลือกจากวุฒิสภา แทนที่พวกจำเลย จะใช้ประสบการณ์ที่มีอยู่ เข้ามาดำเนินการจัดการ เลือกตั้งให้มีความเป็นกลาง โปร่งใสและบริสุทธิ์ ยุติธรรม เพื่อให้เกิดความสันติสุขในบ้านเมือง ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ แต่พวกจำเลยหาได้สำนึกไม่
ฉะนั้นการที่จำเลยขอให้ศาลปรานีนั้น จึงไม่เป็นเหตุให้ศาลอุทธรณ์เปลี่ยนแปลงคำพิพากษาของศาลชั้นต้น อุทธรณ์จำเลยฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษามานั้นชอบแล้ว พิพากษายืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้จำเลยทั้ง 3 คน เดินทางมาฟังคำพิพากษา โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ หลังจากนั้นญาติได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 1.2 แสนบาท ขอประกันตัวระหว่างฎีกา โดยศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้จำเลยทั้ง 3 ประกันตัวไป
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.51 ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษาให้จำคุก พล.ต.อ.วาสนา , นายปริญญา และนายวีระชัย คนละ 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดคนละ 10 ปี ในคดีที่ นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง 3 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งโดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ร่วมกันจัดการเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตรอบใหม่ เมื่อวันที่ 23 และ 29 เม.ย. 49 โดยไม่มีอำนาจ และการออกหนังสือเวียนถึง ผู้อำนวยการการเลือกตั้งระดับเขต ให้รับผู้สมัครรายเดิมเวียนเทียนสมัครใหม่ อันเป็นความผิดตามพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 มาตรา 24 และ 42
กำลังโหลดความคิดเห็น