xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำคุก " 3 หนา" 4 ปี ไม่รอลงอาญา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วันนี้ (24 เม.ย.) เวลา 09.00 น.ศาลอาญาออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ในคดีที่นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร กกต.ร่วมกันเป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 มาตรา 24 และ มาตรา 42 สืบเนื่องจากกรณีอดีต กกต.ทั้ง 3 คน ได้ร่วมกันจัดการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตรอบใหม่ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2549 โดยไม่มีอำนาจ และออกหนังสือเวียนถึง ผอ.กกต.เขตเลือกตั้ง ให้รับผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งไม่ถึงร้อยละ 20 เปลี่ยนเขตลงสมัครในรอบใหม่ อันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้สมัครรายเดิมเวียนเทียนลงรับสมัครเลือกตั้งรอบใหม่ เพื่อช่วยให้ผู้สมัครรายเดียวพรรคไทยรักไทย หลีกเลี่ยงเกณฑ์ ร้อยละ 20 โดยศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2549 โดยพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 3 มีความผิดตามพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ให้จำคุก 4 ปี และตัดสิทธิทางการเมืองไม่ โดยไม่รอลงอาญา
คดีนี้ จำเลยอุทธรณ์ ว่า โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องและเป็นการฟ้องซ้ำ อีกทั้งจำเลยที่ 2 และ 4 ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษา รวมทั้งอุทธรณ์ขอลดโทษ โดยอ้างคุณงามความดีที่เคยปฏิบัติหน้าที่มา
ศาลอุทธรณ์ประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า จำเลยเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งโดยเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองหนึ่งส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแข่งขันกับพรรคไทยรักไทย เพื่อเลี่ยงหลักเกณฑ์ 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นการประทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง การที่จำเลยอ้างว่าได้ปฎิบัติหน้าที่รับใช้ประเทศชาติ แต่การที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง กกต.กลับไม่ได้ดำเนินการหรือประพฤติตัวตามหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย จึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คำพิพากษาของศาลชั้นต้นชอบแล้ว จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุก 4 ปี และตัดสิทธิทางการเมืองโดยไม่รอลงอาญา
กำลังโหลดความคิดเห็น