xs
xsm
sm
md
lg

พปช.นัดแกนนำถกชี้ชะตา “จักรภพ” หมิ่นเบื้องสูงวันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน
โฆษกพรรคพลังประชาชน ระบุนัดประชุม ส.ส.ถกคดี “จักรภพ” หมิ่นสถาบันเบื้องสูงวันนี้ (20 พ.ค.) ขณะที่ส.ส.อีสานแนะส่งเรื่องให้ศาลตัดสิน จวกพวกหมิ่นสถาบันต้องเอาผิดตามกฎหมาย และไม่สมควรเป็นพลเมืองไทยด้วยซ้ำ

ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่จะมีการประชุม ส.ส.ของพรรคในวันที่ 20 พ.ค.นี้ เพื่อพิจารณาถึงกรณีที่นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปบรรยายที่สมาคมนักข่าวต่างประเทศ แล้วถูกกล่าวหามีเนื้อหาหมิ่นสถาบันว่า สำนักเลขาธิการพรรคยังไม่มีการนัดประชุม ส.ส. เพราะอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภา แต่ถ้ามีการประชุมตามปกติทั่วไปจะมีระเบียบวาระพิจารณาสถานการณ์การเมืองทั่วไปอยู่แล้ว ไม่ได้พิจารณาประเด็นใดประเด็นหนึ่งโดยเฉพาะ ทั้งนี้ เมื่อไม่มีการประชุมพรรค รัฐบาลจะต้องดูแลและชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกฯและองคมนตรี ระบุว่าอย่าไปดึงสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองนั้น เรื่องนี้เห็นด้วย จึงอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ที่มีข้อมูลเรื่องนี้มากที่สุดไปฟ้องต่อศาล เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการยุติธรรม หรือจะยื่นถอดถอนก็ทำไป ไม่ควรออกมาตอบโต้กันไปมาจะไม่จบ และจะได้มีกระทบกระเทือนต่อสถาบัน

ทางด้าน นายฉลาด ขามช่วง ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมต่อนายจักรภพ เพ็ญแข โดยให้องค์กรที่เป็นกลางที่เชื่อถือได้พิจารณาคือศาลยุติธรรม และให้องค์กรที่เป็นกลางแปล เช่น คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม ในหลักการใครมีเจตนาหมิ่นสถาบันต้องเอาผิดตามกฎหมาย และไม่สมควรเป็นพลเมืองไทยด้วยซ้ำไป เพราะคนไทยไม่ว่าอยู่ที่ไหนทั่วโลกต่างเทิดทูลสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นเอกหลักสารหลักฐานในการบรรยายดังกลางของนายจักภพต่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ปลดออกจาก รมต.ประจำสำนักนายกฯ นั้น เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่จำเป็นต้องดำเนินการ ถ้านายจักรภพมีความผิดจริงพรรคพลังประชาชนจะดำเนินการเอง

นายฉลาด กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่พรรคจะมีการพิจารณาเลือกบุคคลไปเป็นประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แทนนายชัย ชิดชอบ ที่ลาออกไปเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น จากเป็นส.ส.มาหลายสมัยเห็นว่า นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีความเหมาะสมที่สุด เพราะมีความอาวุโส เป็นนักกฎหมาย สามารถประสานได้ทั้งใน ครม. ฝ่ายค้าน และส.ส. ที่สำคัญรัฐมนตรีมาเป็นประธานวิปรัฐบาลจะทำให้ฝ่ายค้านเกรงใจ หรือการเชิญข้าราชการที่เป็นนักกฎหมายมาชี้แจงสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ต่างๆต่อที่ประชุมวิปรัฐบาลจะทำได้ง่าย แต่ถ้าได้ประธานวิปรัฐบาลที่ไม่ได้นเป็นรัฐมนตรี จะทำให้การประสานกับฝ่ายต่างๆ เหล่านี้ได้ลำบาก จากที่ประสานงานอาจกลายเป็นประสานงาได้ โดยเฉพาะการประสานกับฝ่ายค้าน ยิ่งในช่วงการทำงานต่อไปในสภา จะต้องมีการประสานงานกันมากขึ้น เพื่อให้การทำงานในสภาเดินหน้าไปด้วยดี ทั้งการพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มตามร่างรัฐธรรมนูญ 2550 การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 และการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่อาจจะมีขึ้นในปี 2552 สมัยการประชุมสภาทั่วไป
กำลังโหลดความคิดเห็น