xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.จี้ “หมัก” ไตร่ตรองข้อมูลทัศนคติมัด “เจ็เพ็ญ” ตัวอันตราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป.
“มาร์ค” ส่งข้อมูลทัศนคติอันตรายของ “เพ็ญ” ถึงมือ “หมัก” ไว้ไตร่ตรอง เตือนให้เปิดใจกว้าง อย่าหลับตาก็ว่าใช่ แฉหากแปลคำพูดตรงๆ ถือว่าเป็นความผิดครั้งยิ่งใหญ่

วันนี้ (16 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้ นายณัฐพล ทีปสุวรรณ ผู้อำนวยการพรรคไปยื่นหนังสือเกี่ยวกับกรณีการปาฐกถาของ นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีอคติต่อสถาบัน ถึง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว พร้อมข้อสังเกตที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การยื่นถอดถอนไม่เกี่ยวกับการยื่นถอดถอนนายจักรภพ เพราะทางคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้านจะไปยื่นกับประธานรัฐสภาวันที่ 21 พ.ค.นี้

โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาฝ่าฝืนรัฐธรมนูญ หรือฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสื่อมวลชนและการแทรกแซงสื่อ ทั้งนี้ รายละเอียดต่างๆ ที่ทำถึงนายกฯ ขอ แต่ขอย้ำว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ส่งไปขอให้นายกฯ เปิดใจกว้าง และพิจารณาหลับตาก็ได้ ว่าไม่ใช่นายจักรภพ แต่ว่าเป็นพฤติกรรมของบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งได้พูดสิ่งต่างๆ เหล่านี้ และยืนยันว่า แนวความคิดยังไม่เปลี่ยน ซึ่งนายกฯต้องพิจารณาว่า นายจักรภพ เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่

“ขอเรียนว่า สิ่งที่นายกฯได้อ่านในหนังสือพิมพ์ ไม่ใช่สิ่งที่ผมนำมาแล้วส่งให้ท่าน เพราะสิ่งที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ที่เป็นคำแปล ผมเข้าใจว่า เป็นคำแปลที่มีการเผยแพร่กันอยู่ ผมก็ต้องเอาคำแปลต่างๆ มาดูกับเทปของจริงและขัดเกลาถ้อยคำทั้งหลาย ที่น่าเป็นห่วงคือ บังเอิญนายกฯพูดว่ามีการแปลผิด ที่แปลกก็คือ ที่บอกว่าแปลผิดนั้น ผมไม่เคยเห็นคำแปลในลักษณะนั้นมาก่อนเลยไม่ทราบว่าใครไปจงใจเอาคำแปลที่ผิดให้นายกฯอ่าน และสาระสำคัญของเรี่องไม่ได้อยู่ที่คำแปลคำใดคำหนึ่ง หรือประโยคใดประโยคหนึ่งแต่เนื้อหาสาระ และเป้าหมายของการบรรยายถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นขอความกรุณาให้นายกฯได้พิจารณาสิ่งต่างๆ ที่ส่งไปด้วย และขอให้ท่านได้ตัดสินใจเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง ทั้งในระยะยาวในการรักษาสถาบันหลักของชาติต่อไป” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายจักรภพ ระบุว่า อาจจะมีการฟ้องกลับ เพราะทำให้เสียหาย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่า นายจักรภพ มีเป้าหมายอะไร เพราะพยายามที่จะใช้วิธีการของการตอบโต้ทางการเมืองประเด็นเล็กประเด็นน้อย แต่ว่าเรื่องที่ทำกันหมดเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านั้น นายจักรภพ ก็ทราบดี ที่จริงในคำบรรยายของนายจักรภพ ย้ำว่า อย่าเอาเรื่องหยุมหยิมมาเถียงกันทางการเมือง และประเด็นที่ส่งไปให้นายกฯไม่ใช่เรื่องหยุมหยิมว่าใครแปลถูกแปลผิด แปลไพเราะไม่ไพเราะอย่างไร แต่เอาความจริงมาพูดและดูเหมือนว่านายจักรภพคงยอมรับบ้างอย่างแล้วถึงได้บอกว่าพูดนานแล้ว แสดงว่า เริ่มยอมรับแล้วว่าสิ่งที่พูดไม่เหมาะสมถึงขั้นพูดด้วยว่ามาเป็นรัฐมนตรีก็ต้องพูดอีกอย่างยิ่งแสดงให้เห็นว่ามีคำพูดที่ไม่เหมาะสม

ขณะเดียวกัน นายจักรภพ ก็ตอกย้ำว่า แนวคิดไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ จึงอยากใหนายกฯพิจารณาด้วยความรอบคอบ ซึ่งตนได้เรียนด้วยว่ารายละเอียดต่างๆ ไม่นำมาพูด เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เมื่อถามว่า นายจักรภพ ย้ำว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์แปลออกมานั้นผิด โดยจะนำของจริงมาเปิดเผย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ นายจักรภพ พูดมีความยาวเป็นสิบๆ หน้า ไม่มีใครที่ไปอ่านและแปลผิดได้ทั้งหมด เพราะไม่ใช่เรื่องหยุมหยิม แต่เป็นเป้าหมายของสาระสำคัญของการพูด ซึ่งเจ้าตัวก็รู้ดีถึงได้บอกว่าไม่ควรพูด และยอมรับเองว่าเป็นรัฐมนตรีแล้วพูดอย่างนี้ไม่ได้ แต่ย้ำว่าแนวคิดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงนี่คือสิ่งที่น่ากลัว และถ้านายจักรภพจะแปลออกมาเผยแพร่ก็ไม่ว่าอะไรแต่คงต้องดู แต่ถ้าถามตนถ้าแปลตรงตามใจความ ไม่ควรเผยแพร่อย่างยิ่ง ตนถือว่าเป็นการกระทำผิดครั้งใหญ่

เมื่อถามว่า คิดว่าถูกต้องหรือไม่ที่นายกฯโยนเรื่องนี้ให้ตำรวจดำเนินการ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้ให้ข้อสังเกตไป เรื่องกระบวนการยุติธรรม และเรื่องนี้ไม่ใช่มีเพียงเรื่องเทคนิคทางกฎหมายแต่เป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านั้น ซึ่งต้องการการจัดการที่เหมาะสม ซึ่งทางที่เหมาะสมที่สุดคือ การแก้ด้วยการตัดสินใจทางการเมือง เพื่อปลดชนวนความขัดแย้งทั้งหลายออกไป เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ถ้าตัดสินใจผิดปัญหาจะลุกลามไปหลายด้าน ตนคิดว่า นายกฯคงไม่อยากจะอยู่ในฐานะที่ถูกคนมากล่าวหาว่าไม่สามารถจะตัดไฟแต่ต้นลมได้ เพราะความจริงท่านทำได้ ซึ่งตนได้เรียนนายกฯไปแล้วเพื่อให้พิจารณา ซึ่งทางพรรคไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าจะต้องดำเนินการเสร็จสิ้นเมืองไหร่เพราะพรรคพร้อมเปิดใจกว้าง ถ้านายกฯบอกว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ก็ต้องว่าไปตามเหตุผลอย่าไปคาดคั้นขีดเส้นตาย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญ อยากให้นายกฯพิจารณาด้วยความรอบคอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น