กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อเเก้ไขรัฐธรรมนูญและองค์กรชาวพุทธ รวมตัวประท้วงให้มีการเเก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เเละนำรัฐธรรมนูญ 2540 มาปรับใช้ โดยในเนื้อหาให้เพิ่มศาสนาพุทธเป็นศาสนาประชาติไว้ในรัฐธรรมนูญด้วย
เช้าวันนี้ (8 พ.ค.) กลุ่มผู้ชุมนุมจากคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ คปพร. หรือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.เดิม นำรถติดเครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่ จำนวน 4 คัน ปิดถนนอู่ทองในตั้งเวทีปราศรัยหน้ารัฐสภา ก่อนยื่นรายชื่อประชาชน 150,000 รายชื่อ และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับ คปพร.แก่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 และนำฉบับ 2540 มาปรับใช้
นายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำ คปพร.ขึ้นเวทีปราศรัยเปิดการชุมนุม เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว พร้อมกล่าวโจมตีกลุ่มผู้คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มแพทย์อาวุโส นายเสรี สุวรรณภานนท์ นายธีรยุทธ บุญมี และ นายประสาร มฤคพิทักษ์
ขณะที่ นายแพทย์เหวง โตจิราการ ระบุว่า รัฐธรรมนูญ 2550 เป็นรัฐธรรมนูญปิศาจ เผด็จการ พร้อมขู่บุกสำนักงานสื่อมวลชนบางฉบับที่กล่าวหาว่าฝ่ายรัฐบาล และ นปก.ไม่มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน
โดยหลังจากนั้น บรรดา ส.ส.และ ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้ง จำนวนกว่า 50 คน ได้ออกมาหน้ารัฐสภา เพื่อรับมอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 ก.จากคณะกรรมการประชาชนเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ คปพร.ด้าน นายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน ขึ้นเวทีปราศรัย โดยรับปาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล จะรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวไปดำเนินการตามเจตนารมณ์ของประชาชนทุกประการ เนื่องจากเป็นรัฐธรรมนูญที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง และขอให้ประชาชนติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในการชุมนุมครั้งนี้ได้มีชาวพุทธจากหลายองค์กรรวมตัวชุมนุม โดยมอบรายชื่อผู้สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยื่นกับประธานรัฐสภา ส.ส.และ ส.ว.ให้เร่งเสนอญัตติเข้าที่ประชุมรัฐสภา ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมอีก 1 แสนรายชื่อรวมเป็น 2 แสนรายชื่อ เพื่อเรียกร้องให้มีการบรรจุพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ผู้ชุมนุมได้ทยอยเดินทางมาด้วยรถตู้กว่า 20 คัน รถบัสปรับอากาศ 2 ชั้น กว่า 10 คัน โดยแต่ละคัน จะมีป้ายติดไว้ที่หน้ารถว่า เป็นกลุ่มใด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากภาคอีสาน ผู้ชุมนุมทั้งหมดสวมเสื้อสีแดง สกรีนข้อความ "ไม่รับของโจร" พร้อมทั้งโบกธงกระดาษสีแดง มีข้อความว่า "เอารธน.50 คืนไป เอา รธน.40 คืนมา"
เวทนาค่าตัวม็อบแค่ 420 บาท
สมาชิกชมรมคนรักอุดร รายหนึ่งเปิดเผยว่า การเดินมาครั้งนี้ นายขวัญชัย ไพรพนา นักจัดรายการวิทยุชื่อดัง ซึ่งเคยเป็นแกนนำในการรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 50 ได้นัดแนะชาวบ้านผ่านการจัดรายการวิทยุ ว่า หากใครต้องการจะเดินทางไปต่อต้านรัฐธรรมนูญ 50 ที่ กรุงเทพฯ ก็ขอให้มารวมตัวกันที่สถานีวิทยุ จะมีรถบัสพาไป ซึ่งรถบัสจำนวน 7 คัน มีชาวบ้านคันละ 80 คน ได้ออกเดินทางจากสถานีช่วงตี 2 ของวันที่ 8 พ.ค. โดยชาวบ้านที่เดินทางมาชุมนุมจะได้รับค่าตอบแทนคนละ 420 บาท พร้อม อาหาร-น้ำดื่ม ครบทุกมื้อ
ส.ส.-ส.ว.ลิ่วล้อแม้วแห่รับม็อบ
ต่อมาเวลา 11.00 น. ส.ส.พรรคพลังประชาชน ประมาณ 20 คน อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายประชา ประสพดี นายนิสิต สินธุไพร นายสุทิน คลังแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ พร้อมด้วยกลุ่ม ส.ว.สายเลือกตั้ง ที่ส่วนใหญ่มาจากภาคอีสาน นำโดยนายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์ นายยุทธา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร นายจิตติพงษ์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ได้เดินทางมารับหนังสือของ คป.พร. โดยก่อนหน้านั้นกลุ่มพระสงฆ์ ที่สนับสนุนให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ นำโดยพระมหาโชว์ ทัสสนีโย ผ.อ.ส่วนธรรมนิเทศ มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มจร.) ได้ร่วมกันสวดมนต์ และพรมน้ำมนต์ให้ผู้ร่วมชุมนุม
"จตุพร"ลั่นนำม็อบสู้ทหาร
นายจตุพร กล่าวว่า เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เป็นหน้าที่ของพวกเราต้องทำให้สำเร็จ ขณะนี้ฝ่ายที่คัดค้านได้ใช้ข้อกล่าวหาว่า พวกเรากำลังโค่นล้มสถาบันฯ ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับที่เคยทำลาย นายปรีดี พนมยงค์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และตอนนี้กำลังจะทำลายนายสมัคร สุนทรเวช
ต่อจากนี้หากใครใช้วิธีนี้เคลื่อนไหวโจมตีพวกเรา ขอให้สันนิษฐานไว้เลยว่า เป็นการเปิดประตูให้ทหารเข้ามาทำการปฎิวัติ ขอให้ทหารที่กำลังคิดจะยึดอำนาจรู้ไว้ว่า ข้อกล่าวหาต่างๆ เหล่านี้เป็นเท็จทั้งสิ้น แต่หากจะออกมาปฎิวัติอีก เราจะออกมาต่อสู้อีกแน่นอน
นายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำนปช. กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายออกมาเตือนว่าหากรัฐบาลเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญจะเกิดการเผชิญหน้า ถึงขั้นนองเลือดว่า ไม่มีทางนองเลือด เพราะการต่อสู้จนนองเลือดไม่ใช่เกิดขึ้นง่ายๆ โดยเฉพาะในสังคมไทยที่เป็นลักษณะประนีประนอม จากประวัติศาสตร์การเมืองไทย เราเคยมีการนองเลือดแค่ 3 ครั้ง คือ 14 ต.ค. 16 , 6 ต.ค.19 และ พฤษทมิฬ 35 เท่านั้น แต่วันนี้ตนไม่เชื่อว่าวันนี้คนไทยจะมีอุดมการณ์ถึงขนาดยอมตายเพื่ออุดมคติของตัวเอง
นายจรัล อ้างว่า การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายการเมือง แต่ต้องการให้บ้านเมืองเข้าสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ พวกที่คัดค้านต่างหากที่เคลื่อนไหวเพื่อตัวเอง เพราะพวกที่ค้านส่วนใหญ่เป็นพวกจัดทำรัฐธรรมนูญ มีการหาเหตุมาโจมตีฝ่ายเรา หาว่า เราโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือกรณีของกลุ่มแพทย์อาวุโส ที่ออกมาเคลื่อนไหว คนเหล่านี้ไม่ควรเคารพเพราะเป็นพวกสนับสนุนเผด็จการ
"หลังจากนี้หากพันธมิตรฯ ชุมนุมวันจันทร์ เราจะชุมนุมวันอังคาร หากชุมนุมวันพุธ เราจะจัดวันพฤหัสฯ แต่ถ้าชุมนุมยืดเยื้อ เราก็จะจัดเหมือนกันแต่คนละสถานที่ แล้วคอยดูว่าจะมีคนมาร่วมกับใครมากกว่ากัน" นายจรัล กล่าว
"เหวง"ส่งซิกรอส่งเรื่องให้"ชัย โมเช่"
ต่อมา ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้ามอบรายชื่อประชาชนที่สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วยร่างแก้ไข ให้แก่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาฯ ที่บริเวณห้องโถงชั้น 1 อาคารรัฐสภา โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า อะไรที่ไม่ดี เป็นเรื่องที่เราต้องรับผิดชอบ และต้องร่วมกันแก้ไข ในฐานะตัวแทนสภาฯจะนำเรื่องนี้ไปมอบให้ประธานสภาฯ ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ นพ.เหวง ได้กล่าวกับ นายสมศักดิ์ ว่า ขอให้รอส่งเรื่องให้กับประธานสภาฯ คนใหม่ ที่จะมาทำหน้าที่ประธานรัฐสภา เนื่องจากมาจากการเลือกตั้ง ไม่เหมือนกับ นายประสพสุข บุญเดช ประธาน ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากกลุ่ม คปพร. ยื่นรายชื่อประชาชนเพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมร่างฯแก้ไข ต่อนายสมศักดิ์แล้ว ได้เคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อปล่อยลูกโป่งสีแดง 2,540 ลูก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการเรียกร้องให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้
สำหรับร่างฯ ของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น มีบทบัญญัติที่น่าสนใจ เช่น ให้บรรจุศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ และให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญหลายหมวด โดยเฉพาะมาตรา 237 เกี่ยวกับการยุบพรรคการเมือง รวมทั้งมาตรา 309 ในเรื่องที่รับรองความถูกต้องขององค์กรที่ คมช.ตั้งขึ้นมา และให้ยกเลิกคำสั่งหรือประกาศของคณะปฏิวัติที่ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญปี 2540 ทุกอย่าง