รองประธานคณะอนุกรรมการยกร่างแก้ไข รธน. “สุขุมพงศ์ โง่นคำ” ให้สัมภาษณ์ รายการข่าวหน้า 4 ทาง NBT ว่าตอนนี้วิปรัฐบาลทุกพรรคเห็นชอบในร่างแก้ไข รธน.แล้ว รวมถึง ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน ตอนนี้ก็ลงชื่อรับร่างเกือบทั้งพรรคแล้ว
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการข่าวหน้าสี่
นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคพลังประชาชน ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมการ ยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ให้สัมภาษณ์ในรายการ ข่าวหน้าสี่ ทางสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ดำเนินรายการโดยนายเฉลิมชัย ยอดมาลัย และคอลัมนิสต์ ร่วมรายการคือ นายบุญกลม ดงบังสถาน และนายวิทยา กัณฑสุทธิ์ ถึงความคืบหน้าล่าสุดในการแก้ไข รธน.ว่าขณะนี้ได้ยกร่าง รธน.ที่แก้ไขจากการนำ รธน.ปี40 มาเป็นแบบทั้งหมด เสร็จแล้ว และสรุปแน่ชัดแล้วว่าจะไม่มีการแต่งตั้ง ส.ส.ร.แน่นอน เนื่องจากหากตั้ง ส.ส.ร.จะต้องใช้เวลานานมาก การแก้ทั้งหมดอย่างต่ำไม่ต่ำกว่า 2 ปีแน่ ซึ่งทางรัฐบาลเห็นว่าหากต้องใช้ระยะเวลานานขนาดนั้น ก็คงไม่ทันการ ส่วนเรื่องของการทำประชามติก่อนแก้ รธน.นั้นไม่มีเช่นกัน
ล่าสุดหลังจากที่ได้มีการหารือกันแล้ว วันนี้พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรค ก็ได้มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันแล้ว 100% รวมถึงพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ตอนแรกเหมือนจะมีความเห็นต่าง แต่ตอนนี้ก็เห็นด้วยแล้ว โดยเฉพาะ ส.ส.ทั้ง 24 คนของพรรคเพื่อแผ่นดินก็ลงชื่อเห็นด้วยไว้เกือบทั้งหมดแล้ว แต่ในส่วนของสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดินที่ไม่ใช่ ส.ส.นั้นไม่ทราบเพราะไม่ได้มีการพูดคุยกัน
ส่วนการตั้งคณะกรรมมาธิการวิสามัญ ขึ้นมาพิจารณาร่าง รธน. ที่บทญัติระบุไว้ว่าจะต้องเป็น ส.ส.และ ส.ว.เท่านั้น แต่ที่ประชุมวิปรัฐบาลเริ่มมีแนวคิดว่าจะไม่ใช้ตามบทบัญญัตินั้น คือเราจะให้ประชาชน หรือคนนอกสภาฯ เข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นคณะกรรมมาธิการวิสามัญด้วย
ต่อคำถามที่ว่า คนนอกที่จะเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการวิสามัญนั้นจะสามารถเป็นกลุ่มของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วยได้หรือไม่ นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า เป็นไปได้หากเสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภาเห็นด้วยว่าจะให้เข้าร่วม
นายสุขุมพงศ์ยังกล่าวด้วยว่า พรรคพลังประชาชนเป็นเพียงเสียงส่วนน้อย คือเป็นเพียง 1 ใน 3 ของสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด ดังนั้นกรณีที่บางคนกล่าวหาว่า พรรคพลังประชาชนจะใช้เสียงข้างมากลากไป เพื่อจะแก้กฎหมายนั้นคงไม่ใช่ เพราะอย่างไรการแก้ รธน.ครั้งนี้เราก็ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภาอยู่ดี และตนก็มั่นใจว่าการแก้ไข รธน.ในครั้งนี้ จะไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย แตกแยก ถึงขั้นเกิดการปฏิวัติอีกครั้งแน่นอน
นอกจากนี้ ในช่วงท้ายรายการ ทางผู้ร่วมดำเนินรายการยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ได้ให้สัมภาษณ์ถึงธนาคารโลกที่กล่าวว่าประเทศผู้ผลิตอาหารมักเอาพื้นที่ไปเพาะปลูกพืชทดแทน ทำให้นายสมัครถึงกับน็อตหลุดแล้วพูดพาดพิงถึงกลุ่มผู้ค้าน้ำมันโอเปกว่า “ที่พวกมึงขึ้นราคาน้ำมันอย่างไม่มีเหตุผล ทำไม่เวิลด์แบงก์ไม่ไปด่าบ้าง” นั้น ทางผู้ร่วมรายการ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นการใช้ภาษาสมัยพ่อขุนราม เป็นเสน่ห์อีกอย่างของนายสมัคร และการที่นายสมัคร น็อตหลุดและออกมาพูดอย่างนี้ถือว่าทำถูกแล้ว เพื่อที่ต่างชาติจะได้รู้เสียบ้างว่าเราก็มีปากเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม กรณ๊ดังกล่าวนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศให้สัมภาษณ์ว่า นายสมัครไม่ควรจะใช้คำพูดตอบโต้อย่างนั้น ควรจะรับหังไว้ก่อน ถ้าไม่เห็นด้วยกับเวิลด์แบงก์ก็ไม่ต้องทำตาม
