xs
xsm
sm
md
lg

“เพ็ญทีวี” จัดให้ “พญาไม้” ชก “อลงกรณ์” ข้างเดียว - แว้งด่า กกต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ข่าวหน้าสี่" ทางเอ็นบีที เชิญ“พญาไม้” ด่า“อลงกรณ์”ข้างเดียวฐานบังอาจยื่นกระทู้ถาม"จักรภพ"ถึงความไม่โปร่งใสของ NBT เหน็บ“ไม่เคยเป็นรัฐมนตรี เลยไม่รู้เขาทำงานกันยังไง” อ้างเฉยไม่ได้ใช้งบประมาณจึงไม่ต้องทำตามระเบียบสำนักนายกฯ แถมแว้งกัด กกต.ก่อวิกฤติศรัทธายิ่งกว่าชุดก่อน หลังตัดสินยุบ"ชาติไทย-มัฌชิมาฯ"

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ข่าวหน้าสี่

วันนี้ (11 เม.ย.) รายการข่าวหน้าสี่ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที มีการเชิญ นายเผด็จ ภูริปฏิภาณ หรือ "พญาไม้" คอลัมนิสต์ประสบการณ์โชกโชน มาร่วมแสดงความคิดเห็นในรายการ และได้มีการพูดคุยถึงกรณีที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสด นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงการดำเนินการกับสถานีโทรทัศน์ NBT ของกรมประชาสัมพันธ์ โดยมีการตั้งข้อสังเกตถึงการประกวดราคาผลิตรายการที่มีเพียง 2 บริษัท และให้ค่าตอบแทนรัฐเพียง 40 ล้านบาท นอกจากนี้ทั้ง 2 บริษัทยังมีสถานที่ตั้งอยู่แห่งเดียวกัน จึงเกรงว่าอาจจะมีการฮั้วประมูลหรือไม่

โดยนายเผด็จกล่าวว่า นายอลงกรณ์เป็นสื่อหนังสือพิมพ์มาก่อนซึ่งก็เคยร่วมงานกันมากับตนก่อนจะแยกย้ายไปเล่นการเมือง แต่ตั้งแต่นายอลงกรณ์เล่นการเมืองมาตั้งนาน ก็ไม่เคยเป็นถึงระดับผู้บริหาร ไม่เคยเป็นถึงรัฐมนตรีสักที และงานในตำแหน่งนี้ เป็นงานของรัฐมนตรี จึงไม่รู้ว่า การร่วมผลิตรายการข่าวไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ

ดังนั้น จึงไม่จำต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกฯ อย่างที่นายอลงกรณ์ว่า เพราะว่าไม่ได้มีการประกวดราคาตามระเบียบ เป็นการร่วมด้วยช่วยกันระหว่างรัฐบาลที่ไม่ค่อยมีเงิน กับฝ่ายเอกชนที่อยากทำงาน แล้วผลประโยชน์ที่ได้ก็ต้องเอามาแบ่งกัน และ ทีวีของรัฐบาลไม่ได้โฆษณาได้ทุกอย่าง เหมือนช่อง 3, 5, 7, 9 โฆษณาได้แค่ภาพลักษณ์ แล้วใครจะมาเสียเงินเยอะ ๆ โฆษณาทางช่องของกรมประชาสัมพันธ์

"เท่าที่ผ่านมายังไม่เคยมีเอกชนบริษัทไหนได้กำไรจากการทำข่าวกับกรมประชาสัมพันธ์ด้วยซ้ำ ซึ่งบริษัทที่ได้รับสัมปทานนี้ เขาอาจจะเสี่ยงเข้ามาลองทำด้วยซ้ำ เพราะยังไม่รู้เลยว่าจะได้กำไรหรือเปล่า ซึ่งผมคิดว่า คุณอลงกรณ์ไม่มีรายละเอียดเรื่องนี้มากพอ แล้วด่วนเอามาพูดมากกว่า ซึ่งบางทีนักการเมืองก็รู้ไม่จริง แล้วมาพูดกล่าวหากัน และตอนนี้การเสนอข่าวของ เอ็นบีที ก็ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี หน้าตาของการนำเสนอข่าวก็ดีขึ้น"

นายเผด็จยังกล่าวถึงกรณีของพนักงานไอทีวี ที่เข้ามาทำงานร่วมกับเอ็นบีทีด้วยว่า เป็นคนที่มีคุณภาพ แต่การที่อยู่ดีๆ ก็เอาทีวีช่องหนึ่ง ซึ่งคนกำลังดูและมีคุณภาพ ออกไปจากจอ แล้วก็เอาอะไรก็ไม่รู้มาใส่เข้าไป แล้วก็ปล่อยให้คนมีคุณภาพว่างงาน ซึ่งจริง ๆ รัฐบาลชุดนี้ต้องขอบคุณสถานีเอ็นบีที ด้วยซ้ำ ที่แก้ปัญหาเรื่องพนักงานไอทีวี เพราะรัฐบาลชุดที่แล้วไปรับปากเขาไว้ว่าจะไม่ให้ตกงาน สุดท้ายก็ทิ้งเขา

นอกจากนี้นายเผด็จยังได้แสดงความเห็นกรณี กกต.มีมติเสนอเรื่องยุบพรรคชาติไทยและมัฌชิมาธิปไตยว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งกับนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.เสียงข้างน้อยเพียง 1 เสียง ที่มีความเห็นว่าไม่ควรส่งเรื่องให้ศาลพิจารณายุบพรรค เนื่องจากการตรวจสอบการเลือกตั้งว่าใครผิดใครถูกในทุกวันนี้ ไม่ได้มาจาก กกต. แต่มาจากตำรวจหน่วยต่าง ๆ

"ซึ่งพวกคนเหล่านั้น มันไม่ได้มีความรับผิดชอบสูงเท่ากับพวกท่าน กกต.ทั้งหลาย ที่จะมารับผิดชอบชะตากรรมของใครต่อใคร และกระบวนการกลั่นแกล้งมันสามารถเกิดได้ง่ายมาก และการกลั่นแกล้งนั้นสามารถทำลายได้ทั้งพรรคการเมือง ผมคิดว่าเรากำลังเอาประเทศไปเสี่ยงกับวิกฤติการที่จะไม่มีทางออกเลย มันจะกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่มากในอนาคต เอาแค่เจ้าหน้าที่ไม่กี่คน เอา กกต. 5 คน มาเป็นผู้พิพากษาสูงสุดของชาติ และถ้าวันหนึ่งคนส่วนใหญ่ของประเทศซึ่งชอบรัฐบาลเกิดไม่พอใจ ผมกลัวว่ามันจะเกิดเรื่องใหญ่อย่างที่เราคาดไม่ถึง และผมมองว่า วิกฤตศรัทธาที่มีต่อ กกต.เมื่อในอดีต จะดูเป็นเรื่องเล็กไปทันที เมื่อเจอการตัดสิตของ กกต.ในวันนี้” นายเผด็จกล่าว

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่ารายการข่าวหน้าสี่ ทางสถานีโทรทัศน์ NBT ที่ประกาศตัวว่าเป็นทีวีสาธารณะนั้น ส่วนใหญ่รายการดังกล่าวจะนำเสนอ หรือพูดคุยถึงการทำงานฝ่ายของรัฐบาล และนับตั้งแต่รายการนี้เริ่มออกอากาศทาง NBT (เมื่อ 1 เม.ย) ทางรายการมักจะเชิญ คอลัมนิสต์ที่สนับสนุนการทำงานของรัฐบาล และรัฐมนตรีหลายคนมาออกรายการ แต่ยังไม่เคยมีการเชิญฝ่ายค้าน หรือ คอลัมนิตส์ที่ไม่สนับสนุนรัฐบาลมาออกรายการเลยแม้แต่ครั้งเดียว

กำลังโหลดความคิดเห็น