“เอ็นบีที” เร่งทำผลงานเอาใจนาย จัดคอลัมนิสต์เขี้ยวโง้ง เรียงหน้าเชลียร์รัฐบาล ผ่าน “ข่าวหน้าสี่” “มดคันไฟ-วิทยา” ชมเปาะ! รัฐบาลทำงานดี ยอมชะลอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มุ่งแก้ปัญหาชาวบ้าน อ้างเฉยทุกคอลัมน์หันมาเชียร์รัฐบาลหมดแล้ว แขวะพันธมิตรฯ เคลื่อนไหวอีกถือเป็น “ไอ้ตัวขวาง”
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ข่าวหน้าสี่
วานนี้ (4 เม.ย.) รายการ “ข่าวหน้าสี่” ทางสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ดำเนินรายการโดย รศ.ดร.ปัญญา ดีพึ่งตน และ นางสาวสุจิตรา ทิพย์อักษร ได้เชิญ นายอนันต์ อัศวนนท์ หรือ มดคันไฟ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายข่าวทีไอทีวี และ นายวิทยา ตัณฑสุทธิ์ อดีตคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์หลายฉบับ มาร่วมรายการ
ในรายการได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องของการเมือง โดย นายวิทยา กล่าวว่า วันนี้ การเมืองไทยมาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง ที่สำคัญ เนื่องจากทางพรรคพลังประชาชนยอมถอย คือ ชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะแก้ตอนนี้พายุแรงเหลือเกิน พอพายุแรงจะเกิดปัญหารุนแรงขึ้น ซึ่งตรงนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง เมื่อสถานการณ์ไม่แน่นอนอย่าดันทุรัง และเมื่อถอยทางการเมือง ปัญหาม็อบก็หายไป ถึงไม่หายก็ต้องหาย คุณจะมาฝืนมาเล่น มีแต่เสียกับเสีย การรุกทางการเมือง หรือเอาข้อขัดแย้งมาถล่มทลายกันก็หมดไป เพราะเป้ามันหายไปแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ก็นำมาสู่ทางแยกพอดี เพราะเศรษฐกิจจะแก้ได้ก็ต่อเมื่อการเมืองนิ่ง
นายวิทยา กล่าวว่า “ตอนนี้คอลัมนิสต์ทุกสำนักเริ่มหยุดวิพากษ์เรื่องการเมืองแล้ว นับจากนี้ไปคือ เวลาทำงานของรัฐบาล คือ การแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ที่ต้องดูแลให้ประชาชน ซึ่งเราก็ต้องรอดูว่ารัฐบาลจะทำงานอย่างไรต่อไป ซึ่งมาตรการที่รัฐใช้แผน ก็คือ ลดภาษีเอสเอ็มอี และพักหนี้เกษตรกร นี่ก็คือ การทำงานของรัฐบาล ส่วนพรรคฝ่ายค้านถ้าคุณจะขวางก็เชิญออกมา แล้วคุณจะได้รู้ว่าคุณทำอะไร แล้วชาวบ้านเขาจะว่าคุณว่ายังไง ขณะนี้แนวคิดของคุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้โยงมาสู่แนวคิด คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ แล้ว เขาใช้สูตรแบบเดียวกันเลย เขาอยู่อย่างไม่นิ่งเฉย ซึ่งหากทำอย่างนี้เศรษฐกิจฟื้นแน่นอน”
ด้าน นายอนันต์ กล่าวว่า คราวนี้ก็ต้องหันมาดูฝ่ายตรงข้าม เพราะตอนนี้พลังประชาชนถอยไปหลายก้าว คนอื่นต้องถอยมาด้วย เวลานี้เป็นเวลาที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ ไม่ใช่เวลาที่จะมาเดินขบวน ตั้งม็อบต่างๆ และตนเห็นว่า การที่พรรคพลังประชาชนยอมถอยมาในวันนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาเศรษฐกิจในวันนี้อาจจะยังไม่ชัด แต่คาดว่าจะชัดเจนขึ้น เมื่อกลุ่มอื่นๆ ยอมถอยตาม รวมถึงกลุ่มพันธมิตรฯด้วย เนื่องจากตรงนี้ถือเป็นวินัยทางการเมืองที่ทุกคนต้องทำ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า จะนำไปสู่จิตสำนึกของคุณว่าอยู่ตรงไหน ซึ่งมันจะพิสูจน์ได้ว่าคนไหนที่ไม่เห็นแก่ประเทศชาติไม่เห็นแก่ส่วนรวม ถ้าใครยังออกมาก็แสดงว่าไอ้ตัวนั้นแหละเป็นคนขัดขวาง
นายอนันต์ กล่าวอีกว่า “คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ทุกฉบับตอนนี้ ทุกคนสนับสนุนให้รัฐบาลทำงาน เขาเบื่อกันหมดแล้วที่จะต้องมานั่งเขียนเรื่องซ้ำๆ ซากๆ เรื่องประท้วง เรื่องม็อบ การปะทะกัน เพราะมันน่ารำคาญ มันทำให้ประเทศไทยต่ำลงๆ ทุกที ผมคิดว่าตรงนี้คอลัมนิสต์ และประชาชนจะเป็นกำลังใจให้รัฐบาล และฝ่ายค้านต้องไม่ขัดคอและขัดขวาง ให้เขาทำงานไป ดีไม่ดีมาว่ากัน เพราะเราเสียเวลากันมามากแล้ว”
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการปรับโฉมช่อง 11 มาเป็นเอ็นบีทีนั้น นายจักรภพ อ้างว่า จะให้เป็นสถานีที่เป็นกลาง ไม่ต้องเชียร์รัฐบาล อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เริ่มออกอากาศเมื่อวันที่ 1 เมษายน เป็นต้นมา ยังไม่ค่อยมีฝ่ายคัดค้านรัฐบาลได้ออกอากาศเลย แม้แต่รายการ “ถามจริง ตอบตรง” ซึ่งมีกำหนดจะสัมภาษณ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในเวลา 19.30 น.ของวันที่ 2 เมษายน แต่กลับมีการแจ้งยกเลิก ในเวลา 19.00 น.ก่อนเริ่มรายการเพียงครึ่งชั่วโมง
