“วีระ” จับไต๋ “ไพฑูรย์” สัมพันธ์ลึกเด็กแม้ว จ้องสกัดผลสอบนอมินี

“วีระ” เผยเจตนาอัดเทปการให้ข้อมูล หวังใช้เป็นหลักฐานดักทางไม่ให้อนุฯ สรุปผลสวนทางความจริง จับโกหก “ไพฑูรย์ เนติโพธิ์” ส่งหนังสือแจ้งหรา ชี้แจงข้อมูลเป็นลายลักษณ์อักษรได้ แต่กลับให้ข่าวป้ายสีว่าเบี้ยวนัดจนต้องตัดสิทธิ ตั้งข้อสังเกตอาจเป็นเพราะสัมพันธ์ส่วนตัวกับ “พงศ์เทพ” ทำให้ถูกตั้งแง่ตลอดเวลา แฉอนุฯ ตั้งคำถามสุดมั่วซั่ว เหมือนเจตนาให้สังคมสับสนกับคำว่า “นอมินี”

วันนี้ (22 มี.ค.) เมื่อเวลา 19.30 น. นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน กล่าวในรายการ “คนค้นโกง เปิดโปงคอร์รัปชัน” ถึงกรณีการพิพาทกับนายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ ประธานคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทยของ กกต. ขณะเข้าชี้แจงข้อมูลเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า วันนั้นขณะที่อนุกรรมการยังมาไม่ครบตนก็เตรียมเครื่องบันทึกการให้ข้อมูล แต่ยังไม่ได้มีการบันทึกใดๆ ซึ่งตั้งใจว่าหากมากันครบก็จะขออนุญาตบันทึกการให้ข้อมูล แต่นายไพฑูรย์กลับมาต่อว่าตนเองว่าทำอะไรโดยไม่ขอ ทั้งที่จริงๆ ตนตั้งใจจะขออยู่แล้ว ตนรู้ระเบียบดีว่าต้องทำอะไร

นายวีระ กล่าวต่อว่า ได้บอกกับนายไพฑูรย์ว่า ที่ตนเองได้บันทึกไว้นั้นถ้าเอาไปเปิดเผยคนที่เสียหายและเสียเปรียบก็คือตนเอง แล้วเรื่องอะไรที่จะไปเปิด แล้วเมื่อครั้งที่ไปให้ข้อมูลกับอัยการก็ได้บันทึกไว้เช่นกัน แต่ก็ไม่เคยนำออกมาเปิดเผย

“ผมไม่ได้ตอบออกไปอันหนึ่งคือว่า ที่ผมต้องบันทึกเพราะผมจะต้องเตรียมเอาไว้ใช้ในศาล ถ้าเผื่อมีอะไรที่ผมเห็นแล้วว่าอนุกรรมการฯ หรือกกต.ท่านใด เข้าข่ายว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผมก็จะเอาตรงนี้ล่ะเป็นเหตุผลหนึ่งที่จะยื่นให้เห็นว่าเวลาสอบผมสอบอย่างหนึ่ง แต่เวลาไปสรุป สรุปอีกอย่างหนึ่ง แต่ผมก็ไม่ได้บอกท่านเพราะไม่จำเป็นต้องไปบอกทั้งหมด” นายวีระ ระบุ

ส่วนกรณีที่ นายไพฑูรย์ ระบุว่า หากตอนนั้นไม่มีการยุติเกรงว่าจะถูกนำการให้ข้อมูลออกเผยแพร่สู่สาธารณะนั้น นายวีระ กล่าวว่า อย่างที่บอก ตนจะโง่ขนาดนั้นหรือที่จะเปิดเผยให้คนอื่นรู้ แล้วที่เคยบันทึกที่อื่นๆ มา ตนเคยไปเปิดเผยที่ไหน แล้วที่ท่านบอกว่าท่านจะเสียหายนั้น จะเสียหายได้อย่างไร ท่านจะเสียหายได้กรณีเดียวคือ ถ้าท่านไม่สุจริต

“ผมพูดอย่างนี้ล่ะครับว่า ถ้าท่านไม่สุจริตท่านอาจจะเสียหายได้ แล้วท่านก็ว่าผมหมิ่นประมาท ผมบอกหมิ่นตรงไหน ในเมื่อท่านบอกว่าท่านจะเสียหาย ผมก็บอกว่าท่านจะเสียได้กรณีเดียวคือท่านไม่สุจริต แต่ถ้าท่านสุจริตโปร่งใสท่านจะกลัวอะไร เพราะมันบันทึกอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้เอาไปตัดต่อ จากนั้นเมื่อท่านบอกว่าไม่อนุญาต ผมก็คงไม่สามารถให้ปากคำได้ จากนั้นผมก็ลุกขึ้นแล้วก็ยกมือไหว้ทุกคนนะ แต่ท่านไม่รับไหว้ผม แล้วเวลาออกมาให้ข่าว ก็มาว่าวีระมาถึงก็มาตั้งป้อมอาละวาดกรรมการ ผมถึงบอกว่าท่านใส่ความผม แล้วอย่างนี้มันไม่สมควรบันทึกหรือ” นายวีระ กล่าว

นายวีระ กล่าวต่อว่า แล้วเมื่อวาน (21 มี.ค.) ก็ยังจะโกหกอีก กรณีที่กล่าวหาว่าตนเองไม่ให้ความร่วมมือไปให้ข้อเท็จจริงอีกครั้งเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา จนต้องตัดสิทธิของตน ข้อเท็จจริงคือท่านเองเป็นคนทำหนังสือลงนามโดยชื่อ “นายไพฑูรย์ เนติโพธิ์” ส่งแฟกซ์มาให้ตนช่วงบ่ายวันที่ 18 มี.ค.51 หลังเกิดเหตุดังกล่าว ระบุว่า จะขอข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งถ้าไม่สะดวกเดินทางไปชี้แจงเอง ก็ให้ทำหนังสือชี้แจงส่งกลับไปภายในวันที่ 19 มี.ค.51 ซึ่งตนก็ได้ทำหนังสือส่งไปให้บ่ายวันที่19 มี.ค.51 แล้วเลขาอนุกรรมการฯ เป็นคนเซ็นรับเอง ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย แต่นายไพฑูรย์กลับมาให้ข่าวช่วงบ่ายๆว่าตัดสิทธิตนแล้วเพราะไม่ได้เดินทางไปให้ข้อมูล

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ติดใจอะไรกับนายไพฑูรย์หรือไม่ นายวีระ กล่าวว่า ไม่เคยติดใจอะไรเลย แต่นายไพฑูรย์อาจจะติดใจตน เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่ไป นายไพฑูรย์ก็มีพฤติการณ์ที่ไม่ค่อยพอใจตน ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามีอคติอะไร

“ท่านอาจจะไม่พอใจที่ผมไปยื่นให้ยุบพรรคพลังประชาชนเพราะท่านอาจจะสนิทสนมกับคุณพงศ์เทพ เทพกาญจนา (โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ตั้งแต่สมัยที่ท่านเคยไปรับราชการที่สมุทรสาครนาน สนิทกับคุณพ่อคุณพงศ์เทพ แล้วคุณพงศ์เทพก็เป็นผู้พิพากษารุ่นน้องท่านด้วย ก็อาจจะสนิทสนมกัน แล้วก็อาจจะไม่พอใจหรือเปล่าไม่รู้นะ ที่ผมต้องมายุบพรรคพลังประชาชนอีก หลังจากที่พรรคไทยรักไทยที่คุณพงศ์เทพ เป็นกรรมการบริหาร แล้วก็เป็น 111 คนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ก็ไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกยังไงกับเรา” นายวีระ กล่าว

นอกจากนั้น นายวีระยังระบุถึงคำถามที่อนุกรรมการฯส่งมาถามตนเองในวันนั้นด้วยว่า เป็นคำถามที่มั่วมาก ตนยื่นคำร้องวันที่ 11 ธ.ค.50 แต่เขาถามว่าในคำร้องของตนที่กล่าวหาพ.ต.ท.ทักษิณนั้นให้เงินพลังประชาชนแล้วให้ส่งคนเข้าไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อตนยื่นหนังสือก่อนมีการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค.50 ตอนนั้นยังไม่ได้เลือกตั้งเลย ตนจะไปรู้ได้ยังไงว่าใครจะได้รับเลือกตั้ง แล้วตนจะไปกล่าวหาได้ยังไงว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะไปตั้งให้ใครอยู่ในตำแหน่งอะไร เห็นไหมว่าคำถามมั่วๆอย่างนี้ก็เอาเข้ามา แล้วในคำร้องของตนก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ มั่วเอาอะไรมาก็ไม่รู้ให้ตนตอบ ซึ่งตนก็ไม่ตอบ

“ผมก็บอกว่าเขาพยายามที่จะบิดเบือน แล้วให้ผมหลงประเด็น หลังจากที่เขาพยายามทำให้สังคมหลงประเด็นมาตลอดว่า ใครไม่รู้ก็คิดว่าผมยื่น กกต.ให้สอบว่านอมินีมันผิดไหม มีในกฎหมายเลือกตั้งไหม แล้วก็มาเสียเวลาสับสนกับคำว่านอมินีว่ามีหรือไม่ จริงหรือไม่จริง ผมไม่ได้ขอให้สอบคำว่านอมินี่แต่ขอให้สอบว่าพรรคพลังประชาชนเป็นตัวแทนของพรรคไทยรักไทยหรือไม่ ผมใช้คำว่าตัวแทน” นายวีระ กล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

“วีระ” ฉุนอนุฯ สอบเบนประเด็น"นอมินี" จ้องยื่น ป.ป.ช.หากยกคำร้อง
อนุฯสอบพลังแม้ว อ้างนอมินีค้ำคอ แต่ตัดสิทธิ์ “วีระ” แจง