คตส.ร่อนจดหมายเชิญ “สุรยุทธ์” ให้ถ้อยคำ มัด “ทักษิณ” คดีมีทรัพย์สินเพิ่มผิดปกติซื้อแมนฯซิตี พร้อมตั้งคณะทำงานร่วม อสส.ประชุมนัดแรก 21 มี.ค.นี้ ด้าน ซีทีเอ็กซ์ เตรียมสรุปสิ้นเดือนนี้ ใช้หลักฐานเด็ดจาก “มะกัน-เทปลับห้องประชุมบอร์ด ทอท.”
วันนี้ (17 มี.ค.) ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. แถลงภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมมีมติตามคำขอของ นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการคตส.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ โดยเฉพาะการซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี ของประเทศอังกฤษ ที่ขอให้ คตส.มีมติเชิญ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะพยานมาให้ถ้อยคำต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนในวันที่ 24 มี.ค.เวลา 10.00 น.เนื่องจาก พล.อ.สุรยุทธ์ ได้เคยเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ และจากนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ ก็ได้แถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงคิดว่าน่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
นายสัก กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้อนุกรรมการไต่สวนขอข้อมูลจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เกี่ยวกับคำร้องการขอเดินทางไปดูแลบริหารงานทีมฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า พล.อ.สุรยุทธ์ เคยกล่าวในรายการเปิดบ้านพิษณุโลก วันที่ 29 ก.ย.2549 ตอนหนึ่งว่า ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ผู้นำในสหภาพยุโรป หรือ อียู ได้มีการสอบถามถึงการซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำอาชีพอะไรถึงสามารถซื้อสโมสรฟุตบอลได้ เพราะการที่จะซื้อได้นั้น ต้องใช้เงินจำนวนมาก โดย พล.อ.สุรยุทธ์ ได้อธิบายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของบริษัทโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ในประเทศไทย
นายสัก กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม คตส.ยังมีมติตั้งคณะทำงานร่วมกับอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาความไม่สมบูรณ์ของคดีการจัดซื้อพันธุ์กล้ายางพารา จำนวน 5 คน ประกอบด้วย ตน นายอุดม เฟื่องฟุ้ง นายบรรเจิด สิงคะเนติ นายอำนวย ธันธรา และ นายธรรมนูญ เรืองดิษฐ์ โดยจะมีการนัดประชุมนัดแรกวันที่ 21 มี.ค. เวลา 14.00 น. ส่วนรายละเอียดข้อไม่สมบูรณ์ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอให้มีการประชุมก่อน ส่วนจะซ้ำรอยคดีหวยบนดินหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไกลเกินไปที่จะพูดถึง
โฆษก คตส.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายอำนวย ธันธรา กรรมการ คตส.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ในสนามบินสุวรรณภูมิ ได้นำผลสรุปบางส่วนจำนวน 463 หน้า ให้กรรมการ คตส.ไปอ่านล่วงหน้าก่อน โดยเอกสารดังกล่าวประกอบด้วยคำให้การของพยาน 66 ปาก มีหลักฐานและข้อเท็จจริงตั้งแต่ปี 2544-2550 และยังมีข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรม สหรัฐอเมริกา จำนวน 1,600 แผ่น ซึ่งเป็นการสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นนานประมาณ 7 ปี ดังนั้น จึงต้องใช้เวลาในการพิจารณา โดยเอกสารในส่วนของสหรัฐถือเป็นหลักฐานสำคัญ คาดว่า อนุกรรมการจะสรุปผลการไต่สวนทั้งหมดเพื่อเสนอต่อ คตส.ได้ในช่วงปลายเดือน มี.ค.หรือต้นเดือน เม.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คตส.มีหลักฐานเอกสารสำคัญเป็นเทปการประชุมของบอร์ด ทอท.ในเดือน ก.ค.2548 โดยในช่วงหนึ่งของการประชุมบอร์ด ทอท.ได้มีการพูดถึงทางออกและแนวทางแก้ไขปัญหา โดยมีกรรมการคนหนึ่งระบุกลางที่ประชุม ว่า “ถ้าเรื่องนี้ขึ้นไปถึงศาลแล้ว จะรอดไหม” นอกจากนี้ ในหลักฐานยังพบว่าการดำเนินการซื้อขายเกี่ยวกับบริษัทอินวิชั่น ได้มีการเข้าไปใช้ห้องทำงานของที่ปรึกษารัฐมนตรี เป็นที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด
นายสัก ยังกล่าวกรณี คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน อดีตปลัด กทม.ออกมาโจมตีการทำงานของคตส.ว่า ถูกกลั่นแกล้ง ถือว่าไม่ตรงกับความจริงยืนยันว่า คตส.ทำงานเป็นไปตามกฎหมาย และเปิดโอกาสให้มาแก้ข้อกล่าวหาได้ ถ้าชี้แจงแล้วฟังขึ้นก็ถือว่าพ้นผิด และขณะนี้เป็นเพียงขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหายังไม่ได้ระบุว่ามีความผิดหรือไม่ และ คตส.ไม่ใช่อิมซังอ๊กที่จะถือดาบด้วยความแค้นไปฆ่าใคร หรือจะไปช่วยใครได้
