xs
xsm
sm
md
lg

‘ไชยา’หน้าแหกกลางจอ โดนแฉมั่วข้อมูลอ้างเลิก CL

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการออนไลน์ – รมว.สาธารณสุขหน้าแตกกลางจอไทยพีบีเอส หลักอ้างหลักฐานมั่วซั่ว ยกหนังสืออดีต รมว.พาณิชย์แย้งทำซีแอล-ทำซีแอลการส่งออกสูญ 2 แสนล้าน ก่อนโดน “คนรู้จริง” โทรศัพท์เข้ามาทักท้วง ระบุพาณิชย์ไม่เคยคัดค้านการทำซีแอลยา ขณะที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคแย้งตัวเลข 2 แสนล้านเกินจริงชี้การส่งออกในภาพรวมดีขึ้นด้วยซ้ำ

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุขหน้าแตกกลางจอพูดข้อมูลมั่วซั่วในรายการตอบโจทย์ ทางไทยพีบีเอส

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รมว.สาธารณสุข โต้ตอบแพทย์-บุคลากรสาธารณสุขในรายการตอบโจทย์ ทางไทยพีบีเอส

วันนี้ (5 มี.ค.) รายการตอบโจทย์ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้มีการเชิญนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาสอบถามถึงกรณีการโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุขที่ก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจต่อบรรดาแพทย์และบุคลากรจนทำให้จะมีการล่ารายชื่อเพื่อถอดถอนนายไชยาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ในรายการดังกล่าวมีการสอบถามไปถึงเรื่องการยกเลิกการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร (ซีแอล) รวมถึงประเด็นอื่นๆ เกี่ยวกับกระทรวงสาธารณสุขอีกด้วย

ในรายการเมื่อพิธีกรถามถึงสาเหตุในการยกเลิกซีแอลยาโรคมะเร็งที่เป็นประเด็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน นายไชยาได้พยายามยกหลักฐานเป็นหนังสือทักท้วงการทำซีแอลโดยกระทรวงพาณิชย์ในยุคที่นายเกริกไกร จีระแพทย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ระหว่างแสดงหนังสือนายไชยากล่าวว่า“ถ้าพูดแล้วก็จะไม่เป็นธรรม ท่านลองดู หนังสือฉบับนี้ไม่ได้ออกโดยท่านมิ่งขวัญ (แสงสุวรรณ รมว.พาณิชย์คนปัจจุบัน) ออกโดยท่านเกริกไกรนะ ... หนังสือฉบับนี้คือเรื่องที่ต้องการให้เราชะลอการประกาศซีแอลของรัฐบาลที่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าท่านพูดว่าถ้าเป็นเรื่องของรัฐบาลที่แล้ว รัฐบาลเราจะมาเบรกหมดไม่ใช่”

นอกจากนี้นายไชยายังกล่าวอ้างอิงตัวเลขด้วยว่า การประกาศซีแอลทำให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์คิดเป็นมูลค่าเพียงไม่กี่พันล้าน แต่ในอีกมุมหนึ่งกลับต้องทำให้ทางการค้าได้รับผลกระทบมากถึง 2 แสนล้านบาท

“ผมถามว่าถ้าเกิดกระทรวงพาณิชย์เขาได้ตัวเลขมา เราต้องเสียหายในเรื่องของยาก่อนประกาศซีแอลสักปีละ 2,000 ล้าน ยกตัวอย่างนะครับตัวเลขกลมๆ 5 ปีสักหมื่นล้าน แต่กระทรวงพาณิชย์เขาบอกว่าการประกาศซีแอลมีผลกระทบเฉพาะปีเดียว 2 แสนล้าน แล้วเราต้องเลือกทางไหน” รมว.สาธารณสุขกล่าวอ้าง

ทั้งนี้ในช่วงต่อมาทางรายการได้มีการเปิดสายให้ นายสกล หาญสุทธิวารินทร์ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยุคนายเกริกไกรโทรศัพท์เข้ามาชี้แจ้ง โดยนายสกลกล่าวในรายการว่า

“ประเด็นที่บอกว่ากระทรวงพาณิชย์บอกให้เลิกซีแอลนะครับ ขอเรียนจริงๆ ว่าไม่ใช่ … จริงๆ แล้วตอนที่กระทรวงสาธารณสุขจะประกาศใช้ซีแอล เราดูข้อกฎหมายแล้วทำได้ ผมเองเป็นนักกฎหมายดูแล้วก็ทำได้เนื่องจากกฎหมายและทาง TRIPs (ข้อตกลงทางการค้าที่ว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญา หรือ Agreement on Trade-Related Aspect of Intellectual Property Rights : TRIPs agreement) ก็เปิดช่อง

“แล้วล่าสุดที่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มีหนังสือไป เนื่องจากเราทราบข่าวว่าอาจจะมีการทำซีแอลเพิ่มเติม แล้วมันมีประเด็นเกี่ยวกับที่ทางสหรัฐฯ จะจับตามองประเทศไทยในเดือนเมษายน ซึ่งทางสมาคมผู้ผลิตยาสหรัฐฯ ก็เกรงว่าอาจจะกระทบ ทางกระทรวงพาณิชย์เลยแจงไปว่า การดำเนินการใดๆ ของไทย เราใช้ว่าของไทย ไม่ใช่ของกระทรวงสาธารณสุข ในเรื่องการบังคับใช้สิทธิบัตรในระยะนี้ เราบอกว่าในระยะนี้ควรกระทำด้วยความระมัดระวังอย่างมาก” นายสกลกล่าว

เมื่อพิธีกรถามว่าตกลงเรื่องซีแอลยามะเร็ง 4 ตัวนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ไม่ได้คัดค้านใช่หรือไม่ อดีตเลขาฯ รมว.พาณิชย์ให้คำตอบว่าไม่ได้คัดค้านเลยและไม่ได้บอกว่าให้ยกเลิกด้วย เพียงแต่ทางกระทรวงพาณิชย์มีหนังสือเตือนบอกว่าควรกระทำด้วยความระมัดระวังมากๆ เพราะทางสหรัฐฯ กำลังจับตามองอยู่ และให้ความเห็นว่าควรให้รัฐบาลชุดใหม่เป็นผู้ดำเนินการ

ชี้อ้าง 2 แสนล.เกินจริง

สำหรับกรณีความเสียหายทางการค้าจากกรณีทำซีแอลยาที่นายไชยาอ้างถึงว่ามีความสูญเสียถึง 2 แสนล้านบาทนั้น ในช่วงสุดท้าย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้ออกมาชี้แจงในรายการว่า นายไชยาได้ให้ข้อมูลที่ผิดพลาดกับผู้ชม โดยกล่าวว่า การที่นายไชยากล่าวว่าการค้าของประเทศไทยสูญเสียกว่า 2 แสนล้านบาทจากการประกาศซีแอลยานั้นถือว่าเป็นการกล่าวที่คลาดเคลื่อนเพราะตัวเลขความเสียหายที่แท้จริงอยู่ในหลักพันล้านบาทเท่านั้น

“ประเทศไทยเสียหายที่จะถูกตัดจีเอสพี (สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร) มีสามรายการคือ อัญมณีที่จะใช้ทองเป็นส่วนประกอบ ทีวีจอแบน แล้วก็อีกตัวหนึ่งคือเม็ดพลาสติก บางรายการร้อยกว่าล้าน ทั้งหมดประมาณพันกว่าล้านเท่านั้นเอง เราพบว่าทั้งสามรายการส่งออกเพิ่มขึ้น ยกเว้นทีวีจอแบนแต่ว่าโดยรวมก็ส่งออกเพิ่มขึ้น”

สำหรับตัวเลขการส่งออกของประเทศไทยในปี 2550 ที่แท้จริงนั้น ทีมข่าวผู้จัดการออนไลน์ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2551 นายเกริกไกร อดีตรมว.พาณิชย์ ได้แถลงถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศในปี 2550 ว่า การส่งออกมีมูลค่าประมาณ 152,477 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 4.9 ล้านล้านบาท เมื่อคิดที่ 32 บาท/ดอลลาร์) ขยายตัวร้อยละ 17.5 การนำเข้ามีมูลค่า 140,010 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 8.7 มีการเกินดุลการค้า 12,467 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กำลังโหลดความคิดเห็น