xs
xsm
sm
md
lg

“เลี้ยบ” โต้พันธมิตรฯ ครม.ขี้เหร่โยก ขรก.มั่ว ไม่ถึงขั้นกลียุค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เลขาฯพลังแม้ว อ้างรัฐบาลประชาธิปไตย หวังสยบพลังพันธมิตรฯ รับหน้าเสื่อแทนนายใหญ่ ไม่คิดแทรกกระบวนการยุติธรรม เพื่อล้มคดี แต่ยอมรับ ครม.ขี้เหร่ โยก ขรก.เป็นเรื่องปกติ

วันนี้ (5 มี.ค.) นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแสดงความเป็นห่วงว่ารัฐบาลพยายามสร้างเงื่อนไขหลายประการเพื่อนำไปสู่การปฏิวัติตัวเองว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ซึ่งเราได้พูดระหว่างการหาเสียงว่าเราจะทำให้ประชาธิปไตยกลับคืนมา เพราะฉะนั้นการที่จะมีการปฏิวัติเกิดขึ้นใหม่เป็นไปไม่ได้เลยรวมทั้งรัฐบาลก็ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ การรัฐประหารเมื่อ 17 เดือนที่ผ่านมา ทำให้บ้านเมืองบอบช้ำและสูญเสียโอกาสไปมากมาย เพราะฉะนั้นที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีการรัฐประหารอีกครั้งโดยรัฐบาลจึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ส่วนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯจะส่งผลต่อการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ระบอบประชาธิปไตยเปิดโอกาสให้แสดงความเห็นอย่างหลากหลาย การที่กลุ่มพันธมิตรฯหรือกลุ่มอื่นมาแสดงความเห็นที่แตกต่าง ถือว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ และรัฐบาลควรรับฟัง เพียงแต่ว่าอยากให้ผู้ที่ออกมาแสดงความเห็นได้ตระหนักว่าวันนี้เราได้ก้าวสู่ความบอบช้ำอย่างหนัก และการที่ทุกคนมีสติและให้ความเห็นอย่างสร้างสรรค์น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด รวมทั้งรัฐบาลไม่คิดว่าการมีความเห็นแตกต่างเป็นสิ่งไม่สมควรหรือถือเป็นเรื่องผิดปกติ

เมื่อถามว่า พันธมิตรฯอ้างว่า การที่รัฐบาลแต่งตั้ง ครม.ขี้เหร่และโยกย้ายข้าราชการ จะเป็นการยั่วยุประชาชนเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า การตั้ง ครม.ที่มีภาพลักษณ์ที่สังคมไม่พอใจมากนัก แต่เชื่อว่า เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ารัฐมนตรีทุกคนตั้งใจทำงานหนักเพื่อหวังผลแก้ปัญหาของประเทศ ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในช่วงนี้นั้น บางเรื่องเป็นเพียงข่าวลือ บางเรื่องก็เกิดจริง โดยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็แจ้งเหตุผลให้ทราบแล้ว ฉะนั้นการแต่งตั้งโยกย้ายขาราชการเกิดขึ้นได้ในทุกการบริหารงานของรัฐบาล

เมื่อถามว่า พันธมิตรฯตั้งข้อกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศครั้งนี้ อาจจะไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและอาจแทรกแซงบางคดี ระหว่างนั้นอาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่นแก้รัฐธรรมนูญหรือรัฐบาลปฏิวัติตัวเอง นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า การกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อมาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งใจมามอบตัวซึ่งเจตนาคือต้องการมาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลอยากเห็นกระบวนการยุติธรรมเดินหน้าเพื่อพิสูจน์ว่าผิดคือผิด ถูกคือถูก และไม่มีอะไรล้มล้างกระบวนการยุติธรรมได้ ส่วนข้ออ้างของพันธมิตรฯที่ว่ารัฐบาลจะปฏิวัติตัวเองนั้น ขอย้ำว่ารัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งและไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติไม่ว่าจะทำเพื่อตัวเองหรือเพื่อคนอื่น

เมื่อถามว่า คิดว่าพันธมิตรฯกระทำเกินเหตุหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เป็นความเห็นที่แตกต่าง ซึ่งเกิดขึ้นได้

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไฟแนลเชียล ไทม์ ประเทศอังกฤษโดยกล่าวตำหนิ คมช.ต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญ อยากเป็นอาจารย์รับบรรยายและไม่อยากเป็นที่ปรึกษาให้ใคร ตรงนี้สังคมมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่วางมือทางการเมือง นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า เห็นตามคำให้สัมภาษณ์ โดยเรื่องที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า หากเป็นที่ปรึกษาแล้ว คนฟังไม่ทำตามคนให้คำปรึกษาจะไม่สบายใจ หรือผู้ปฏิบัติอาจลำบากใจในคำแนะนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ตนคิดว่าแนวคิดทางเศรษฐกิจ การเงิน การคลังนั้น มีความคิดที่แตกต่างกันมาก เป็นหน้าที่ของตนที่เมื่อไปฟังคำปรึกษาแล้วค่อยดูว่าจะตัดสินใจอย่างไร ส่วนสิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวไว้นั้นตนมองว่าเมื่อฟังแล้วก็ได้ความรู้ โดยความรู้นั้นอาจปรับใช้ได้หรือใช้ไม่ได้ก็เป็นได้

ถามว่า ที่ผ่านมา ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ บ้างหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้โทรศัพท์คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ บ้างแล้ว สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกกับตนนั้น เป็นแบบบรรยายให้แนวคิด แต่ไม่ใช่ให้คำปรึกษา รวมทั้งไม่ได้ให้คำปรึกษาว่าต้องทำแบบนั้นแบบนี้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เกรงว่า หากให้คำปรึกษาแล้วถ้าตนไม่ทำตามนั้น อาจลำบากใจ ขอย้ำอีกครั้งว่า แนวคิดทางเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ที่ตนไปรับฟังมาจากหลายฝ่ายนั้นก็มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ก็เป็นหน้าที่ของตนที่ไปรับฟังความคิดเหล่านั้นแล้วนำมาตัดสินใจว่าควรทำอย่างไร

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา ไอเดียของ พ.ต.ท.ทักษิณ มักได้รับการยอมรับจากพรรคพลังประชาชนเกือบ100เปอร์เซ็นต์ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมา บางความคิดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดไว้อาจเร็วไปที่จะนำมาใช้ได้ในสถานการณ์ช่วงนี้ ซึ่งหลายอย่างที่ท่านให้เป็นแนวคิด แต่อาจยังปฏิบัติไม่ได้

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ตนพูดกับอดีตนายกฯนั้น ส่วนใหญ่คุยเรื่องสารทุกข์สุขดิบมากกว่า อดีตนายกฯไม่ได้บอกว่าจะอยู่เมืองไทยนานเท่าใดท่านบอกเพียงว่าอาจเดินทางไปๆ มาๆ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจะไปเมื่อใด รวมทั้งท่านก็ไม่ได้ฝากฝังเรื่องใดเป็นพิเศษ
กำลังโหลดความคิดเห็น