“ยามเฝ้าแผ่นดิน” ย้ำรัฐบาล “หมัก” ย้ายบิ๊ก ขรก.สร้างวิกฤต บีบข้าราชการยอมก้มหัว อัด “ดร.เหลิม” คับแคบ ด่านักวิชาการไม่กล้าลงเลือกตั้ง ขำ “ทั่นหมัก” โต้วาทีเรื่องบ่อนกับตัวเอง เตือนเปิดกาสิโน ทำสังคมพินาศ เหตุมาตรการควบคุมเหลว อิจฉาคน “ชินทีวี” กรมประชาฯ เตรียมโอบอุ้มอีกแล้ว
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ช่วงที่ 1
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ช่วงที่ 2
รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 4 มีนาคม นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นักวิชาการอิสระ และนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ร่วมดำเนินรายการ ในช่วงแรกผู้ดำเนินรายการ ได้กล่าวถึงการโยกย้ายข้าราชการซึ่งคนในรัฐบาลหลายคนออกมาโต้ว่าเป็นเรื่องปกติว่า การโยกย้ายข้าราชการเกิดทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่ไม่เกิดกันนอกฤดูกาลมากขนาดนี้ หากบ้านเมืองอยู่ในยามปกติ พรรคการเมืองใดขึ้นมาบริหารประเทศ ก็เกิดการโยกย้าย เลือกคนเก่ง ดี และไว้วางใจที่สุด
แต่ในยามนี้เกิดวิกฤตการณ์ในบ้านเมือง สังคมไม่มีทางออก กระทั่งเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร การโยกย้ายข้าราชการในครั้งนี้จึงเป็นวิกฤติ เพราะเร่งโยกย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ตำรวจ ไม่มีบรรทัดฐานในการโยกย้าย ไม่น้อมรับกระแสพระราชดำรัส เอาใครก็ได้ขึ้นมาบริหารประเทศ โดยไม่สนใจถึงผลกระทบ ซึ่งเป็นห่วงว่าสถานการณ์จะบีบรัด รุนแรง ภาคประชาชนจะออกมาเคลื่อนไหว ด้วยสาเหตุความไม่พอใจการตัดสินใจที่ผิดพลาดของรัฐบาลในครั้งนี้
**จวก “ดร.เหลิม” คิดคับแคบ
ผู้ดำเนินรายการ กล่าวถึงการโต้เถียงระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กับนักวิชาการจากนิด้าที่ออกมาต่อต้านการโยกย้ายข้าราชการ ว่า ร.ต.อ.เฉลิม มองการเมืองเพียงรูปแบบ เยาะเย้ยนักวิชาการว่าไม่กล้าลงเลือกตั้ง กลัวแพ้ เป็นความคิดที่คับแคบ กฎหมายรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนว่า การเมืองไม่จำเป็นต้องอยู่ในระบบเพียงแค่การเลือกตั้ง ภาคประชาชนมีสิทธิแสดงความคิดอย่างเสรี เป็นวิธีถ่วงดุล ตรวจสอบอำนาจรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการเมืองฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ไม่ควรดูถูกดูแคลนความเป็นประชาชนคนหนึ่ง ที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ
“นักวิชาการเหล่านั้นมีความคิดความความอ่าน รู้จักผิดชอบชั่วดี ผิดกับนักการเมืองบางทีเห็นแค่ว่า ตัวเองผ่านการเลือกตั้ง แล้วได้เสียงส่วนใหญ่ ก็คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำมาถูกหมด ทั้งที่เป็นเรื่องของกฎหมาย บทบัญญัติของกฎหมายระบุชัดเจน ผิดถูกไม่เกี่ยวกับคะแนนเสียง ดังนั้นผิดถูกจึงไม่เกี่ยวข้องกับประชาชนนิยม มันเป็นคนละคำตอบ ท่านเฉลิมน่าจะทำใจให้กว้างกว่านี้”
นอกจากนี้ ผู้ดำเนินรายการยังมองว่า ต่อไปข้าราชการที่เป็นมืออาชีพจะไม่มีที่ยืนในทางสังคม ต้องยืนเพื่อเอาใจนักการเมืองทุกยุค ทำไมไม่สร้างบรรทัดฐานให้คนเป็นมืออาชีพ เก่งหรือไม่ ก็ว่าไปตามนั้น วันนี้การเมืองเต็มไปด้วยการซื้อสิทธิขายเสียง ปรนเปรอประชาชนด้วยหนี้สิน มีการต่อสู้กันด้วยวิธีการที่น่าขยะแขยง ด้วยสาเหตุนี้ที่ทำให้นักวิชาการบางส่วนไม่อยากเข้าสู่การเลือกตั้ง
ผู้ดำเนินรายการกล่าวถึงการแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่า ตำแหน่งนี้เคยยกเลิกไปสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ แต่มีการฟื้นกลับมาอีกครั้ง เพราะเป็นหนทางในการแก้ไขปัญหาของพรรคการเมืองที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก การแบ่งปันตำแหน่งไม่ลงตัว ตำแหน่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่เกิดขึ้นมา เป็นเรื่องปกติ แต่ขอให้เลือกคนที่ทำงานเป็น ไม่ใช่เลือกคนที่ไม่มีความสามารถ มันช่วยอะไรไม่ได้ อย่างน้อยหากนำมือดีขึ้นมาทำงาน ก็จะสามารถลบภาพในด้านลบของรัฐบาลไปได้บ้าง
**แฉ “หมัก” โต้วาทีตัวเองเรื่องบ่อน
ในช่วงที่ 2 ผู้ดำเนินรายการกล่าวถึงแนวคิดการเปิดบ่อนการพนันผิดกฎหมายของรัฐบาลชุดนี้ว่า มีคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยมากมาย แม้แต่นายสมัครยังพูดโต้กับตัวเอง โดยในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ช่วงหนึ่งนายสมัครบอกว่า เรื่องเด็กไทยติดการพนันนั้น ใครเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องสั่งสอนลูกตัวเอง ถ้าสั่งสอนลูกตัวเองไม่ได้ ครูก็ต้องช่วยสั่งสอน ถ้าครูยังสั่งสอนไม่ได้คนที่เป็นเพื่อนพ้องที่ทำงานทำการอยู่ด้วยกันก็ต้องคุยกัน การพนันเป็นเหตุให้หมดตัว และจะช่วยดูแลเรื่องนี้ให้ ใครมีเงินจะพนันกันก็พนันกันไป แต่เงินที่มีมากเท่าไหร่พนันกันได้ก็หมด
ต่อในช่วงต่อมา เมื่อมีคำถามเข้ามาว่าอยากให้ทำเรื่องการพนันให้ถูกต้องตามกฎหมายนายสมัครกลับสนับสนุน โดยอ้างว่า มาเลเซีย สิงคโปร์ มาเก๊าก็มีการพนันถูกต้องตามกฎหมาย ของเราที่ผิดกฎหมายอยู่ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อไม้ให้มีบ่อนผิดกฎหมาย ทำไมต้องไปวิ่งไล่จับบ่อนลอยฟ้าใต้ดิน ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ล่าสุด นายสมัครให้สัมภาษณ์หลังจากกลับจากประเทศกัมพูชาว่า ถ้าได้เป็นนายกครบ 4 ปี จะมีกาสิโนเกิดขึ้นในไทยแน่นนอน โดยจะเปิดในจังหวัดท่องเที่ยว 5 แห่ง แต่จะมีการวางระเบียบคนเข้าไปเล่น และป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าไปอยู่แล้ว ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ก็พูดรัดกุมขึ้นจากวันแรกๆ ที่ว่าจะเปิดบ่อนเสรี ตอนนี้บอกว่าจะต้องมีการทำประชาพิจารณ์ก่อน และเปิดให้เฉพาะคนต่างชาติเท่านั้น โดยต้องมีบัญชีธนาคาร มีหลักทรัพย์ จึงจะเข้าไปเล่นได้
**หวั่นกฎหมายคุมไม่ได้ สังคมพินาศ
ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า หากเกิดบ่อนกาสิโนขึ้นมาจริงๆ แล้วจะจำกัดคุณสมบัติคนที่จะเข้าไปเล่นได้จริงหรือไม่ ทุกวันนี้ แม้แต่แหล่งบันเทิงที่ห้ามเด็ก 18 ปีเข้า ในความเป็นจริงทำได้หรือไม่ ถ้าทุกอย่างทำเพื่อการค้า จะป้องกันไม่ให้คนเข้าไปเล่นจนหมดเนื้อหมดตัวได้อย่างไร ทุกวันนี้ ปัญหาตามบ่อนการพนันตามแนวชายแดนได้เกิดขึ้นแล้ว ครูหายไปเป้นวันๆ เพื่อไปเข้าบ่อน บางคนหมดเนื้อหมดตัว ถูกตามล่า เพราะหาเงินไปใช้หนี้พนันไม่ได้
ที่ลาสเวกัสแท้ๆ ที่เราเห็นตัวเลขสวยงาม แต่ปัญหาที่เรามองไม่เห็นคืออัตราการฆ่าตัวตายของประชาชนที่เล่นการพนันสูงมาก เรื่องนี้เป็นเรื่อบงใหญ่ ที่เราชาวพุทธต้องชั่งน้ำหนักว่าปัญหามันจะบานปลายหรือไม่ เรื่องการทำให้ผู้คนหลงมัวเมา ความจริงไม่ควรจะทำแค่การประชาพิจารณ์ แต่ควรจะทำประชามติด้วยซ้ำ เพื่อใหประชาชนมาลงมติว่าจะยอมหรือไม่ยอม
เรื่องนี้ แม้แต่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ เอง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ยังออกมาแสดงความเป็นห่วงเรื่องผลกระทบทางสังคม เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย
ขณะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง 1 ในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน เพราะเห็นว่าผลได้ไม่คุ้มเสีย หนทางความพินาศรออยู่ข้างหน้า และศาสนาพุทธก็ต่อต้าน ปัยหาสำคัญคือบ้านเรานั้น การบังคับใช้กฎหมายมีปัญหามานานแล้ว ความเสียหายที่จะตามมามันประเมินไม่ได้
ผู้ดำเนินรายการ กล่าวอีกว่า สำหรับบ่อนการพนันในประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดนนั้น เป็นที่รู้กันว่ามีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งนี้ อาจเป็นแหล่งที่มาของเงินที่เอามาซื้อเสียง หรือเป็นแหล่งฟอกเงิน ดังนั้นการเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายในไทย จะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับใครหรือไม่ เราอ้างแต่ผลได้ทางเศรษฐกิจ แต่เบื้องลึกแล้วมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากผลประโยชน์มีมาก ขณะที่การบังคับใช้กฎหมายยังมีข้อสงสัยอยู่ว่าจะเป็นไปได้จริงหรือไม่ และมาตรการป้องกันการมัวเมาได้คิดไว้หรือเปล่า
**กรมประชาฯ อุ้มเด็ก “ชินทีวี” อีก
ต่อมา ผู้ดำเนินรายการกล่าวถึงการปรับปรุงสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ซึ่ง นายเผชิญ ขำโพธิ์ รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์บอกว่าจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.นี้ โดยจะมีอดีตพนักงานทีไอทีวีจำนวนหนึ่งมาร่วมงานด้วยว่า คนเหล่านี้มักจะโชคดีเสมอ ตกงานเดี๋ยวเดียวก็ได้งานทำแล้ว ไม่รู้ว่าทำบุญอะไรมา นอกจากนี้ยังจะมีการปรับเพิ่มเงินเดือนให้กับลูกจ้างประจำช่อง 11 ด้วย ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นการปรับเพื่อที่จะให้คนที่เข้ามาใหม่ได้เงินเดือนสูงขึ้นหรือไม่
ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า รัฐบาลจะทำอะไรกับช่อง 11 ก็ทำไป เพราะกรมประชาสัมพันธ์นั้นเป็นของรัฐ แต่ถ้าวันใดคนอื่นเข้ามาทำบ้างก็อย่าโวยวาย แต่เชื่อว่าประชาชนนั้นฉลาด พอจะรู้ว่าการเสนอข่าวของช่องไหนมีอคติ หรือควรจะรับชมหรือไม่ ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชมเลย เพราะเขาจับได้ว่ามันไม่จริง ขณะเดียวกัน บางครั้งประชาชนก็จะดูจากคนที่ทำว่าเป็นใคร อย่างพีทีวี เขาไม่ชมเพราะเห็นชัดเจนว่าคนทำเป็นคนของ พ.ต.ท.ทักษิณ
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 1
( 56 k ) | ( 256 K )
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2
( 56 k ) | ( 256 K )
