เปิด จม.“เตีย เซยฮา” รมว.กลาโหมกัมพูชา ส่งถึง “บิ๊กเล็ก” ขอเจรจาหยุดยิงในที่ประชุม GBC และให้ทุกอย่างกลับไปเหมือนเดิมตามแถลงการณ์ร่วม 28 ต.ค.ที่กัวลาลัมเปอร์ ไทยย้ำต้องพิสูจน์ความจริงใจตาม 3 เงื่อนไขหลัก เดินหน้าประชุมจีบีซี
เมื่อเวลา 18.20 น.วันที่ 24 ธ.ค.กองบัญชาการกองทัพไทย ออกเอกสารข่าวว่า ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้แถลงจุดยืนต่อเงื่อนไขการหยุดยิง บริเวณพื้นที่ชายแดน โดยระบุให้ฝ่ายกัมพูชาต้องแสดงเจตจำนงผ่านการปฏิบัติ 3 ประการ ได้แก่ การประกาศหยุดยิงก่อน การยุติการใช้กำลังอย่างต่อเนื่อง และความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างเป็นรูปธรรมนั้น
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568 กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้มีหนังสืออย่างเป็นทางการถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย เพื่อแสดงความประสงค์ในการเจรจาหยุดยิง ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญภายใต้กรอบเงื่อนไขที่ไทยกำหนด
ทั้งนี้ จากการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา นำไปสู่การจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ตามข้อเสนอของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 ธันวาคม 2568 ณ จังหวัดจันทบุรี โดยฝ่ายไทยมี พลเอก ณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร และฝ่ายกัมพูชา มี Major General Nhem Boraden เป็นหัวหน้าคณะการประชุมฯ
สำหรับเนื้อหาในหนังสือของ พล.อ.เตีย เซยฮา ถึง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ มีใจความดังนี้
ข้าพเจ้าขออ้างถึงแถลงการณ์ประธานอาเซียนว่าด้วยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งได้แสดงความยินดีต่อการหารือเกี่ยวกับการกลับมาบังคับใช้การหยุดยิงและการยุติการสู้รบอีกครั้ง ในประเด็นนี้ กัมพูชาเห็นพ้องกับข้อเสนอให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 24 ธันวาคม 2568
สอดคล้องกับแถลงการณ์ของประธานอาเซียนดังกล่าว ข้าพเจ้าขอเสนอแนวทางดังต่อไปนี้
1.การประชุม GBC ครั้งนี้ควรจัดขึ้นในรูปแบบเดียวกับ “การประชุม GBC สมัยพิเศษ” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ตามที่ระบุไว้ในย่อหน้าที่ 13 ของบันทึกการประชุมที่ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกัน
2.ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง อันเนื่องมาจากการสู้รบที่ยังคงดำเนินอยู่ตามแนวชายแดน การประชุมดังกล่าวควรจัดขึ้น ณ สถานที่ที่มีความปลอดภัยและเป็นกลาง ในเรื่องนี้ มาเลเซียได้ตกลงที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์
3.สำหรับระเบียบวาระการประชุม ควรมีการหารือใน 4 ประเด็น ดังต่อไปนี้
ก) การยุติการสู้รบทั้งหมดโดยทันที และการเคารพรวมถึงการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 อย่างครบถ้วน ตลอดจนแถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์ ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2568 รวมถึงข้อตกลงอื่น ๆ ที่ได้บรรลุภายใต้กรอบดังกล่าว
ข) การอำนวยให้พลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนซึ่งได้รับผลกระทบ สามารถเดินทางกลับสู่บ้านเรือนและการดำรงชีวิตตามปกติได้อย่างปลอดภัย มีศักดิ์ศรี และปราศจากการขัดขวาง ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามสภาพที่เป็นอยู่ก่อนการปะทุของการสู้รบ
ค) การยุติข้อพิพาทโดยสันติวิธี ผ่านการกลับมาดำเนินการตามแถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์ ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2568 อย่างเต็มรูปแบบโดยทันที และการเร่งฟื้นฟูกลไกที่มีอยู่ภายใต้กรอบดังกล่าว รวมถึงการปักปันเขตแดนและการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม
ง) การเสริมสร้างบทบาทของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team: AOT) ในการประกันการปฏิบัติตามและการตรวจสอบการหยุดยิง รวมถึงข้อตกลงอื่น ๆ ที่ได้บรรลุภายใต้แถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์
ขอได้โปรดรับการแสดงความนับถือและความซาบซึ้งอย่างจริงใจจากข้าพเจ้าด้วย
รองนายกรัฐมนตรี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
พลเอก เตีย เซ็ยฮา


