เปิดบันทึกสุดสะเทือนใจจากบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลหาดใหญ่ กับภารกิจสุดหฤโหด 6 วัน ฝ่าวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ พลิกสถานการณ์เป็นปฏิบัติการกู้ชีพผู้ป่วยเด็กแข่งกับระดับน้ำที่สูงขึ้นทุกชั่วโมง ตั้งแต่การอุ้มผู้ป่วยขึ้นชั้นบนจนถึงการส่งต่อทางเฮลิคอปเตอร์ เผยช่วงเวลาที่ต้องบีบ Ambu bag เพื่อช่วยหายใจตลอดทั้งคืนยามไร้ไฟไร้ออกซิเจนสำรอง พร้อมขอแรงใจคนไทยช่วยฟื้นฟูหอผู้ป่วยเด็กที่หายไปกับน้ำ
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Chaichan Baimongkol” ของ เบลล์ ชายชาญ ใบมงคล ครีเอทีฟจากโครงการก้าวคนละก้าว ได้ออกมาโพสต์ข้อความ เผยเรื่องเล่าจากคุณหมอที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ฉายภาพ ความทุ่มเทของบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ 6 วัน โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า
“เรื่องเล่าจากคุณหมอที่ รพ.หาดใหญ่ ซึ่งฝากขอการสนับสนุนจากทุกๆ ท่านครับ
บันทึกเหตุการณ์น้ำท่วมโรงพยาบาลหาดใหญ่ 22-27 พฤศจิกายน 2568
"เรื่องจริงของ 6 วันที่ยาวนาน… และคนทำงานที่ยังยืนหยัด แม้น้ำจะสูงขึ้นทุกชั่วโมง"
22 พฤศจิกายน ฝนตกหนัก แต่โรงพยาบาลยังทำงานได้ ฝนเทต่อเนื่องตั้งแต่เช้าจนพื้นรอบๆ โรงพยาบาลเริ่มกลายเป็นน้ำขัง แต่ภายในตึกยังคงให้บริการ
ผู้ป่วยได้ตามปกติ บุคลากรหลายคนมองท้องฟ้าด้วยความกังวล แต่ก็ยังทำงานต่อเหมือนทุกวัน ทุกคนเชื่อว่าสถานการณ์คงไม่นานมาก
23 พฤศจิกายน น้ำลดให้ความหวัง ก่อนกลับมาท่วมอีกครั้งในค่ำคืน เช้านั้นระดับน้ำสูงขึ้นจนเริ่มไหลเข้ามาตามจุดต่างๆ ของโรงพยาบาล หลายคนยกอุปกรณ์ขึ้นที่สูง ขนย้ายเอกสารสำคัญอย่างรวดเร็ว
แต่ช่วงเย็นกลับเป็นอีกภาพหนึ่ง
น้ำค่อยๆ ลดลง ผู้คนเริ่มสัญจรได้
เจ้าหน้าที่บางส่วนเดินลุยน้ำเข้ามาเพื่อเปลี่ยนเวร ทุกคนคิดว่าน่าจะจบแล้วและรีบกลับบ้านไปล้างทำความสะอาดคราบสกปรกที่น้ำทิ้งไว้
แต่คืนนั้นฝนกลับตกหนักยิ่งกว่าเดิม เสียงน้ำไหลเชี่ยวพัดเข้ามาแบบไม่ขาดสาย ไม่มีใครคาดคิดว่านี่จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของวิกฤตที่แท้จริง
24 พฤศจิกายน วันมหาอุทกภัย วันที่เชื่อว่าหลายคนไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นภาพนี้ในชีวิต กระแสน้ำทะลักเข้าชั้น 1 อย่างรวดเร็ว
ทีมแพทย์ พยาบาล เวรเปลซึ่งมี 5 คนทั้งโรงพยาบาล ช่วยกันอุ้มผู้ป่วยและอุปกรณ์สำคัญขึ้นชั้นบน ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง น้ำก็ท่วมถึงระดับอก และสุดท้ายก็ท่วมมิดหอผู้ป่วยเด็กชั้น 1 ทั้งหมด
ผู้ป่วยเด็กของเราทุกคนปลอดภัย
ส่วนอุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่ติดตั้งกับผนัง
ไม่อาจขยับได้จมอยู่ใต้น้ำโคลนที่กำลังขึ้นสูง
ช่วงค่ำไฟถูกตัดทั้งตึกเหลือเพียงไฟฉุกเฉิน ระบบออกซิเจนเริ่มทยอยหมดลง ทีมแพทย์พยาบาลต้องวิ่งหาถังออกซิเจนสำรองตามจุดต่างๆ ช่วยกันบีบ Ambu bag ให้ผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนเพื่อประคองให้ถึงเช้า
น้ำประปาถูกตัด ทุกอย่างเริ่มขาดแคลน
คืนวันที่ 24 จึงกลายเป็นคืนที่ยาวที่สุดของทุกคน
25 พฤศจิกายน อพยพผู้ป่วยผ่านเฮลิคอปเตอร์ เช้าวันนี้คือปฏิบัติการแข่งกับเวลา ผู้ป่วยเด็กจากชั้น 2-5 ถูกทยอยขนย้ายผ่านทางเชื่อมไปยังตึกที่น้ำยังไม่ท่วม
ปลายทางคือ ลานเฮลิคอปเตอร์ ชั้น 10!
ผู้ป่วยที่อาการหนักถูกส่งต่อไปยังรพ.สงขลานครินทร์ และ รพ.สงขลา แต่ด้วยสภาพอากาศที่ฝนยังตกต่อเนื่องทำให้การขนย้ายลำบาก ยังเหลือผู้ป่วยอาการหนักและผู้ป่วยที่ยังพอประคองอาการได้ ถูกจัดพื้นที่ให้พักภายในโรงพยาบาลหาดใหญ่ที่ยังเหลืออยู่
26 พฤศจิกายน ผู้ป่วยเริ่มทรุด ฝนยังไม่หยุด น้ำยังคงสูงขึ้นจนหลายพื้นที่กลับมาใช้งานไม่ได้ ผู้ป่วยที่คิดว่าไหวเริ่มมีอาการทรุดลงทีละคน ทีมแพทย์ต้องตัดสินใจส่งผู้ป่วยหนักขึ้นเฮลิคอปเตอร์อีกครั้ง ครั้งนี้ปลายทางไม่ใช่แค่สงขลา แต่รวมถึง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชด้วย
บุคลากรหลายคนทำงานมาเกิน 48 ชั่วโมง
โดยแทบไม่ได้พัก ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ บางคนเปียกมาตลอดวัน บางคนยังใส่รองเท้าที่ชุ่มโคลน แต่ไม่มีใครพูดคำว่าไม่ไหว
27 พฤศจิกายน
น้ำลดลง แต่ภาระยังไม่หมด เช้าวันนี้ฝนเริ่มซาลง ระดับน้ำค่อยๆ ลดให้เห็นพื้นถนนรางๆ แต่ผู้ป่วยที่ต้องส่งต่อยังมีจำนวนมาก ทีมแพทย์และพยาบาลยังคงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกอย่างต่อเนื่อง
บางครอบครัวเริ่มลุยน้ำกลับมารับผู้ป่วยด้วยตัวเอง บางรายต้องถูกส่งไปศูนย์อพยพ ก่อนกระจายต่อไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง น้ำเริ่มลด ผู้ป่วยทยอยเข้ามารักษาที่โรงพยาบาล แต่ครั้งนี้มาด้วยอาการเจ็บป่วยและโรคที่มากับน้ำเนื่องจากติดในน้ำหลายวัน
บางส่วนสามารถส่งไปรักษาโรงพยาบาลใกล้เคียงได้ แต่ส่วนหนึ่งต้องรักษาในโรงพยาบาลหาดใหญ่ที่ยังคงมีทรัพยากรจำกัด
หอผู้ป่วยเด็กทั้งหมดของโรงพยาบาลหาดใหญ่อยู่ชั้น 1 หายวับไปกับน้ำท่วมครั้งนี้
สามารถช่วยเหลือให้เด็กๆ หาดใหญ่ที่เจ็บป่วยกลับมามีที่พึ่งอีกครั้ง ที่บัญชี มูลนิธิโรงพยาบาลหาดใหญ่ (ระบุเพื่อปรับปรุงหอผู้ป่วยเด็ก)
ธ.กรุงไทย 936-0-08501-4 และรบกวนแนบหลักฐานการโอนไว้ใต้โพสต์นี้ หรือ line @cardioqsnich ของ รพ.เด็ก แจ้งว่าบริจาคได้เลย
ทาง รพ.ยังไม่มี E-donation การรวบรวมสลิปทำให้นำมาใช้ประโยชน์ได้เร็วค่ะ
หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์
1. High flow nasal cannula
2. Bedside monitoring
3. Silicone resuscitation mask
4. เครื่องวัดความดันและออกซิเจน
5. Ambu bag เด็กเล็ก เด็กโต
6. Laryngoscope เด็กเล็ก เด็กโต
7. อุปกรณ์พ่นยา


