คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดตัวโครงการการแข่งขันศักยภาพทางภาษา “Empowering Potential Language Communication” ครั้งที่ 1 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เปิดเวทีให้นักเรียนมัธยมปลายหรือเทียบเท่าทั่วประเทศได้แสดงศักยภาพด้านภาษา 4 ภาษา ทั้งภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น และภาษาเกาหลี ผ่านโจทย์การใช้ภาษาเชิงประยุกต์ ตั้งแต่ไลฟ์สดขายสินค้า ประกวดสุนทรพจน์ การแสดงบทบาทสมมุติ ไปจนถึงออกแบบบูธทางวัฒนธรรม โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัคร พร้อมลุ้นทุนการศึกษาต่อที่ DPU
ดร.วริศ ลิ้มลาวัลย์ คณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) กล่าวถึงเวทีเปิดการแข่งขันศักยภาพทางภาษา “Empowering Potential Language Communication” ครั้งที่ 1 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าทั่วประเทศ
“เราอยากให้คณะศิลปศาสตร์ DPU เป็นเวทีหลักที่น้อง ๆ ม.ปลายสายภาษานึกถึงทุกปี เหมือนเป็นธรรมเนียมว่า ถ้าอยากมีเวทีแสดงศักยภาพด้านภาษา ต้องมาที่นี่ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต โดยเริ่มต้นจากภาษาที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์เปิดสอนก่อน ไม่ว่าจะเป็น ภาษาจีนธุรกิจ ภาษาอังกฤษธุรกิจ ภาษาตะวันออกเพื่อธุรกิจ ภาษาเกาหลี และ ภาษาตะวันออกเพื่อธุรกิจ ภาษาญี่ปุ่น” ดร.วริศ กล่าว
การแข่งขันครั้งนี้แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ตามลักษณะเฉพาะของแต่ละภาษา โดยภาษาจีนธุรกิจ ไลฟ์สดขายสินค้าไทยเป็นภาษาจีน การแข่งขันภาษาจีนจัดในรูปแบบ “ไลฟ์สดขายสินค้า” โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องนำเสนอและขายสินค้าไทยเป็นภาษาจีน ผ่านคลิปวิดีโอจำลองสถานการณ์ไลฟ์สดสินค้าให้กลุ่มผู้ชมชาวจีน สินค้าที่ใช้ในการแข่งขันเน้นความเป็นไทย อาทิ อาหารหรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำพริก ผงกะหรี่ ผลิตภัณฑ์แฟชั่นและ OTOP เช่น กระเป๋าหนัง ผ้าทอ รวมถึงผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องสำอาง และสกินแคร์แบรนด์ไทย โดยเกณฑ์การตัดสินภาษาจีนจะพิจารณาจากความถูกต้องของการใช้ภาษา เนื้อหาที่นำเสนอ ความสามารถในการไลฟ์ การสื่อสารและการดึงดูดผู้ชม ตลอดจนภาพรวมของการนำเสนอในฐานะ “ผู้ขายสินค้าไทยสู่ตลาดจีน"
ภาษาอังกฤษธุรกิจ เป็นการแสดงบทบาทสมมติเป็นทีม การแข่งขันภาษาอังกฤษจัดในรูปแบบ “English Role Play” หรือการแสดงบทบาทสมมติเป็นทีม โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องออกแบบสถานการณ์และบทสนทนาในชีวิตจริงที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารร่วมกันในทีม ส่งเป็นคลิปวิดีโอเข้ารอบคัดเลือก จากนั้นจะคัดเลือกทีมที่มีผลงานโดดเด่นเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศที่มหาวิทยาลัย โดยคณะกรรมการจะพิจารณาองค์ประกอบหลายด้าน ทั้งความถูกต้องและความคล่องแคล่วในการใช้ภาษา การสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในทีม การแสดงออกทางสีหน้า ท่าทาง ความคิดสร้างสรรค์ของเนื้อหา และภาพรวมของการแสดงในฐานะการสื่อสารภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริง
ภาษาเกาหลี เป็นสุนทรพจน์เดี่ยวว่าด้วยการท่องเที่ยวไทยตามวิถีชุมชนอย่างยั่งยืน การแข่งขันภาษาเกาหลีจัดในรูปแบบ “สุนทรพจน์เดี่ยว” โดยหัวข้อของสุนทรพจน์มุ่งเน้นเรื่อง “การท่องเที่ยวไทยตามวิถีชุมชนอย่างยั่งยืน” เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันได้ใช้ภาษาเกาหลีถ่ายทอดเสน่ห์ของประเทศไทย ทั้งแง่มุมวิถีชีวิต วัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวเชิงชุมชนที่สะท้อนความเป็นไทย โดยรอบคัดเลือกจะให้ผู้เข้าแข่งขันส่งคลิปวิดีโอสุนทรพจน์เข้ามา จากนั้นคัดเลือกผู้ที่ผ่านเกณฑ์เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เพื่อมาพูดสุนทรพจน์ต่อหน้าคณะกรรมการในวันแข่งขันจริง
ภาษาญี่ปุ่น DPU Japan Fair เปิดตำนานแดนอาทิตย์อุทัย ผ่านการออกแบบบูธ สำหรับภาษาญี่ปุ่น ออกแบบการแข่งขันให้เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมอย่างชัดเจน ในชื่อกิจกรรม “DPU Japan Fair: เปิดตำนานแดนอาทิตย์อุทัย” โดยให้ผู้เข้าแข่งขันออกแบบ “บูธแสดงตำนานญี่ปุ่น” และนำเสนอแนวคิดเป็นภาษาญี่ปุ่น ในรอบคัดเลือก ผู้เข้าแข่งขันจะส่งคลิปวิดีโออธิบายแนวคิดและการออกแบบบูธของตนเอง โดยมีการกำหนดขนาดพื้นที่บูธให้ชัดเจน แม้จะไม่ใหญ่แต่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการถ่ายทอด “ตำนานญี่ปุ่น” ให้เข้าใจง่ายและน่าสนใจในมุมมองของคนไทย เมื่อตัดสินผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศแล้ว ในวันแข่งขันจริงผู้เข้าแข่งขันต้องมาจัดบูธจริง ณ พื้นที่ที่มหาวิทยาลัยจัดเตรียมไว้ โดยพื้นที่จะแปลงโฉมเป็นบรรยากาศงานแฟร์ญี่ปุ่นอย่างเต็มรูปแบบ และคณะกรรมการจะเดินตรวจบูธ พิจารณาแนวคิด การออกแบบ และทักษะการสื่อสารภาษาญี่ปุ่นของผู้แข่งขัน
สำหรับกำหนดการรับสมัครและรอบการแข่งขัน ดร.วริศ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงเปิดรับสมัครและรับคลิปวิดีโอรอบคัดเลือกจากนักเรียนทั่วประเทศ โดยมีกำหนดปิดรับสมัครและส่งผลงานภายในวันที่ 5 มกราคม 2569 จากนั้นจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในวันที่ 9 มกราคม 2569 และจัดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของทั้ง 4 ภาษา ณ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในวันที่ 21 มกราคม 2569
การแข่งขันในแต่ละภาษามีคณะกรรมการตัดสินจากทั้งอาจารย์ภายในมหาวิทยาลัยและผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก อาทิ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจีนจากสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ผู้ทรงคุณวุฒิจากศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย (KCC) ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมญี่ปุ่นจาก Japan Foundation Bangkok และคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำ เพื่อให้การตัดสินมีมาตรฐานเป็นกลาง และสะท้อนมุมมองวิชาชีพอย่างรอบด้าน ผู้ชนะเลิศแต่ละภาษาจะได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลและทุนการศึกษาเพื่อศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ในคณะศิลปศาสตร์
ดร.วริศ กล่าวว่า อยากเชิญชวนให้น้องๆนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายสมัครเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากประโยชน์ที่นักเรียนจะได้รับจากการแข่งขันครั้งนี้ ไม่ได้มีเพียงรางวัลหรือเกียรติยศเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ให้น้องๆ ได้ “แสดงศักยภาพ” ในสิ่งที่เรียนมา ทั้งทักษะการใช้ภาษา ความกล้าแสดงออก การคิดเชิงสร้างสรรค์ และความเข้าใจวัฒนธรรมของประเทศเจ้าของภาษา อีกทั้งหลายคนอาจค้นพบว่าตนเองมีศักยภาพด้านใดเป็นพิเศษ นอกจากนี้ การเข้าร่วมการแข่งขันและได้รับรางวัลยังสามารถนำไปใส่ในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) เพื่อใช้สมัครเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียนยุคใหม่
สำหรับผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่http://bit.ly/4ol3dZdหรือ สอบถามที่เพจ Facebook คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หรือ โทร 02-954-7300 ต่อ 343, 344 (คุณเสาวรักษ์)


