เปิดโปงความจริงที่ซ่อนอยู่หลังกำแพงสูง! จากประสบการณ์ตรงของอตีดนักข่าวดัง สัมภาษณ์เหยื่อ ยืนยันว่านักโทษผู้มีอิทธิพลและเงินทองสามารถเปลี่ยนเรือนจำให้กลายเป็น "บ้านแสนสุขและปลอดภัย" ได้จริง ตั้งแต่การสั่งอาหารพิเศษ การใช้ห้องพยาบาลนัดพบภรรยา ไปจนถึงการได้ขังเดี่ยวเพื่อความปลอดภัยสูงสุด พร้อมชี้ว่า การรื้อค้นเรือนจำที่ผ่านมาเป็นเพียงปฏิบัติการ "ตบตานักข่าว" เพราะปัญหาการทุจริตได้กัดกร่อนองค์กรมานานจนยากจะแก้ไข
จากกรณีที่กระทรวงยุติธรรมมีคำสั่งให้โยกย้ายผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร หลังปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบความผิดปกติหลายประการ รวมถึงการเกี่ยวข้องของเจ้าหน้าที่เรือนจำในการเอื้อประโยชน์แก่ผู้ต้องขังชาวจีน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 พ.ย. “จาตุรงค์ สุขเอียด” เป็นนักข่าวสายสืบสวนและนักสื่อสารมวลชนชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์แชร์ประสบการณ์สมัยที่ยังเป็นผู้สื่อข่าว ได้เคยไปทำงานในเรือนจำพิเศษครองเปรม และสัมภาษณ์เหยื่อในหลายเรือนจำมาก่อน ไม่แปลกใจต่อข่าวการนำนางแบบเข้าไปบำเรอนักโทษชาวจีน โดยเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นไปได้และไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะนักโทษที่มีเงินจากธุรกิจผิดกฎหมายที่ยังคงดำเนินการอยู่สามารถจ่ายเพื่อแลกกับสิทธิพิเศษได้ โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า
“ในฐานะที่ผมเคยเข้าไปทำงานในเรือนจำพิเศษ คลองเปรมและสัมภาษณ์เหยื่อหลายคนในหลายเรือนจำมาก่อน
ผมไม่แปลกใจที่วันนี้ มีข่าวว่า เจ้าหน้าที่ช่วยกันอำนวยความสะดวกให้นำหญิงนางแบบเข้าไปบำเร่อ นักโทษชาวจีนในเรือนจำได้
ผมเชื่อว่า เรื่องแบบนี้ ทำได้ และไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร ในเรือนจำ
เพราะถ้านักโทษมีเงินมากๆจากธุรกิจผิดกฎหมายที่ยังคงดำเนินการอยู่แม้ตัวหัวหน้าจะอยู่ในห้องขังแล้วก็ตาม
ผมเคยเข้าไปขอสัมภาษณ์พิเศษผู้ต้องขัง ในเรือนจำคลองเปรม ขอดูห้องขังเดี่ยว ที่มีข่าวว่าบางห้องมีทีวีจริงไหม
ตอนนั้นช่วงฟุตบอลโลก จะมีเสียงเชียร์ดังออกมาชัดเจน
เพราะมีทีวีให้ดูในห้องวีไอพี
บางครั้งผู้ต้องขังคนหนึ่งใช้โทรศัพท์ส่งภาพmms มาร้องเรียน ว่า มีการตั้งวงเล่นไพ่กัน
แล้วโทรศัพท์มาส่งเบาะแสให้
เขาว่า เวลาเลิกใช้จะแยกชิมกับเครื่องใส่ถุงยัดท่อน้ำทิ้งไว้ พอจะใช้งานหรือมีคนเช่าก็เอาออกมาคิดค่าเช่า
ค่าใช้ก็แบ่งกันผู้คุมที่เกี่ยวข้อง
ในเรือนจำ แดนฉกรรจ์ เป็นพวกพ่อค้ายาเสพติดรายสำคัญ หากขังรวมเขากลับร้องขอให้แยกขัง เดี่ยว เพราะกลัวจะถูกคนลอบฆ่า
การได้ขังเดี่ยว นอนคนเดียวจึงเป็นเหมือนเซฟเฮ้า ที่ปลอดภัย
บางราย ไม่อยากออกมาเพราะอยู่ข้างในปลอดภัยกว่า
แถมตัวติดคุก ยังสร้างเครดิตให้แหล่งค้ายาได้ว่าเป็นตัวจริง
แล้วลูกน้องดำเนินการแทน ส่วนเงิน โอนผ่านคนข้างนอก
เขาว่า แม้แต่อาหาร ก็ยังสั่งพิเศษได้
เล่าถึงว่า บางรายนัดให้เมียไปหา โดยเตี้ยมกันว่าป่วยไปนอนห้องพยาบาล
ไปแล้ว ปล่อยให้ผัวเมียอยู่กันลำพังเป็นอันเข้าใจ..
ในเรือนจำยังมีอะไรอีกมากมายที่เป็นแหล่งรายได้ของเจ้าหน้าที่
ผมเคยไปจับทุจริตสอบเข้ารับราชการ กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่พบการจ้างสอบ พบว่า แม้จะเป็นข้าราชการมีระดับต้น กลับจ้างเฉลยข้อสอบสูง 3-600,000บาทต่อคน
โดยสูงสุดคือสอบเข้ากรมศุลกากร โรงเรียนนายสิบ ปลัดอำเภอ และเจ้าหน้าที่อบต. เป็นต้น
ตอนนั้นยังไม่เข้าใจผู้คุมทำไมจึงยอมขายที่ดินมาจ้างเฉลยคำตอบแพงๆและแย่งกันเข้า
พอมาสัมภาษณ์คนจ้างสอบ ถึงรู้ว่า พวกเขารู้ว่า จะหาเงินจากผู้ต้องขังได้อย่างไรบ้าง
พอช่วยแพะในหลายคดีออกมา บางคนเล่าว่า แม้จะเป็นผู้ต้องขังธรรมดา แต่เพื่อความสบายใจ ญาติยังจ่ายเงินให้ผู้คุมแดนเดือนละพันหรือ2พันบ้างเพื่อให้ช่วยดูแลเรา
นี่ยังไม่นับถึงบรรดาเทาๆทั้งหลายที่เงินทองไหลเข้าทุกวันแม้ตัวอยู่ในเรือนจำ
คนพวกนี้ จึงใช้เงินเท่าไรก็ได้เพื่อจะเปลี่ยนให้ที่คุมขังกลายเป็นบ้านแสนสุขและปลอดภัยของตัวเอง
เราเคยร่วมทำข่าวรื้อค้นเรือนจำหลายครั้งหลายรอบ เสียดาย เป็นเพียงแค่ปฎิบัติการตบตานักข่าวและประชาชนล้วนๆ
รากของมันจึงอยู่ที่การทุจริตที่มันกัดกร่อนอยู่ในเนื้อขององค์กรเหล่านี้นานมากแล้ว ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้จนถึงตอนนี้“


