กาญจนบุรี - ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี แถลงผลจับกุมชายชาวมอญวัย 36 ปี ถูกสกัดคาด่านน้ำเกิ๊ก พบซุกซ่อนยาไอซ์ 90 กก. ในช่องลับรอบคันรถ มูลค่าราว 9 ล้านบาท สารภาพรับจ้างขนจากแนวชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ เตรียมส่งต่อเครือข่าย
วันนี้( 18 พ.ย.) ที่ด่านตรวจด้านความมั่นคงน้ำเกิ๊ก หมู่ 8 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7 สั่งการให้ พล.ต.ต.พศวีร์ เรืองภู่ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมคณะผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ ร่วมกับฝ่ายปกครอง ทหาร ฉก.ลาดหญ้า และร้อย ตชด.134 แถลงผลการจับกุม นายตันเท (ไม่มีนามสกุล) อายุ 36 ปี ชาวมอญบ้านวังกะ ผู้ไม่มีสัญชาติไทย พร้อมของกลางยาไอซ์ 90 กิโลกรัม และรถกระบะโตโยต้าสีเขียวตอนเดียวทะเบียน บบ 2438 ราชบุรี
พล.ต.ต.พศวีร์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่าจะมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่ชายแดนสังขละบุรี โดยใช้รถกระบะและคนขับเป็นชายชาวมอญ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายบูรณาการกำลังลาดตระเวนตามช่องทางธรรมชาติ พร้อมตั้งจุดสกัดเข้มบริเวณด่านน้ำเก๊ก
จนกระทั่งเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่พบรถกระบะต้องสงสัยขับมาจากทิศทางด่านชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ มุ่งหน้าอำเภอสังขละบุรี จึงเรียกตรวจค้น เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่จากการใช้เทคนิคเคาะตัวถังตรวจสอบพบเสียงผิดปกติ จึงงัดฝาครอบประตูและจุดซ่อนภายใน พบยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่หลายจุดรอบตัวรถ
ต่อมารถของกลางถูกนำไปตรวจค้นอย่างละเอียดที่ สภ.สังขละบุรี พบยาไอซ์รวม 90 ถุง น้ำหนักรวมบรรจุภัณฑ์ 95 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 9 ล้านบาท ซุกซ่อนตามส่วนต่างๆ ของรถ อาทิ ประตูหน้า–หลัง แก้มตัวรถ ใต้เบาะ และท้ายกระบะทั้งสองฝั่ง
จากนั้นชุดสืบสวนคุมตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นบ้านพักในชุมชนชาวมอญบ้านวังกะ ไม่พบของผิดกฎหมายเพิ่มเติม ก่อนนำตัวไปตรวจสารเสพติดที่โรงพยาบาลสังขละบุรี ผลตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย
นายตันเท ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากพ่อค้ายาเสพติดชาวเมียนมาให้ขับรถที่บรรทุกยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่แล้ว จากบริเวณแนวชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ ไปจอดทิ้งในเขตตัวเมืองกาญจนบุรี โดยได้รับค่าจ้าง 10,000 บาท และเคยทำมาแล้วหนึ่งครั้ง ก่อนถูกจับได้ในครั้งนี้ รวมทั้งยอมรับว่าเสพยาบ้าก่อนเดินทาง 2 เม็ด
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า” และข้อหา “เสพยาเสพติดประเภท 1 และขับขี่ยานพาหนะขณะเสพยาเสพติด” พร้อมเตรียมขยายผลติดตามเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป


