xs
xsm
sm
md
lg

AOT - กองทัพไทย ลงพื้นที่ปราสาทคนา ตรวจสอบปมเก็บกู้ทุ่นระเบิด ประกอบหลักฐานวางใหม่หรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คณะ AOT - กองทัพไทย ลงพื้นที่ปราสาทคนา จ.สุรินทร์ ตรวจสอบปมเก็บกู้ทุ่นระเบิด ประกอบหลักฐานวางใหม่หรือไม่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 พ.ย.68 คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน ฝ่ายประเทศไทย (AOT-TH) และทีมกองทัพไทย รวม 8 นาย เข้าสังเกตการณ์บริเวณพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 (พื้นที่ปราสาทคนา) อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อรับทราบข้อมูลจากหน่วยในพื้นที่

โดยเป็นการรับฟังการบรรยายสรุปในลักษณะบอร์ด walk ชี้แจงสถานการณ์ในพื้นที่ ชี้แจงเรื่องการตรวจพบทุ่นระเบิด ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ที่มีการ ลักลอบเข้ามาวางในเขตอธิปไตยของประเทศไทย


หลังจากนั้นทางคณะได้ดูทุ่นระเบิดที่ทางฝ่ายไทยเก็บกู้ได้ในพื้นที่ รวมทั้งทาง AOT ได้ความสนใจและได้สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ทหารที่ตรวจพบและเก็บกู้ทุ่นระเบิด โดยเป็นการสอบถามถึงวันและเวลาที่ตรวจพบ รวมถึงจุดที่ตรวจพบ ทั้งนี้มีชิ้นส่วนต่างๆ ที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุ เพื่อนำมาประกอบหลักฐานความสอดคล้อง ว่าเป็นระเบิดที่นำมาวางใหม่หรือไม่อย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะ AOT ได้ให้ความสนใจในเรื่องของการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่มีความสอดคล้องทั้ง วัน-เวลา ซึ่งทางเจ้าที่ฝ่ายไทยได้อธิบายในทุกจุดได้เคลียร์ทุกพื้นที่


ทั้งนี้ มีรายงานการละเมิดข้อตกลงของฝ่ายกัมพูชาที่ไทยแจ้งต่อ AOT-TH ดังนี้

1) พบการวางทุ่นระเบิด PMN-2 ในเขตไทย พิกัด UA 34659 88575 จำนวน 4 ทุ่น  เหตุการณ์วันที่ 9 ต.ค. 2568

2) พบการวางทุ่นระเบิดแสวงเครื่อง (IED) พิกัด UA 34781 88727 เหตุการณ์วันที่ 19 ต.ค. 2568

3) การสร้างโครงสร้างล้ำแดน ฝ่ายกัมพูชาสร้าง “บันไดไม้” ขึ้นหน้าผา พยายามทำ “กระเช้า” ส่งกำลังจากด้านล่างขึ้นสู่พื้นที่สูง  อยู่ในเขตที่ฝ่ายไทยถือว่าเป็นพื้นที่ของเรา


ข้อแนะนำจากหัวหน้าคณะ AOT-TH เพื่อให้ข้อมูลมีน้ำหนักต่อการนำเสนอในระดับอาเซียนและนานาชาติ AOT-TH ขอให้หน่วยไทยบันทึกหลักฐานอย่างละเอียด ได้แก่
-ภาพถ่าย–คลิปวิดีโอขณะปฏิบัติจริง
-รายงานการออกปฏิบัติงานประจำวัน
-ภาพการละเมิดข้อตกลงของอีกฝ่าย
-ภาพทุ่นระเบิดที่เห็นเลขรหัส–รูปร่างชัดเจน
-ลงวันที่ เวลา ณ วันที่ตรวจพบทุกครั้งหลักฐาน

ทั้งหมดจะถูกใช้ในการรายงานอย่างเป็นทางการต่ออาเซียนและผู้เกี่ยวข้อง

สถานการณ์ชายแดนยังคงอยู่ภายใต้การติดตามอย่างใกล้ชิดจากทั้งกองทัพไทยและ AOT-TH เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพในพื้นที่






กำลังโหลดความคิดเห็น