จากเหตุการณ์ถนนทรุดตัวหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล หลายคนเกิดคำถามถึงความรวดเร็วในการซ่อมแซม โดยมีการนำไปเปรียบเทียบกับกรณีหลุมยุบที่เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งซ่อมเสร็จใน 1 สัปดาห์ ล่าสุดเพจดัง "เจปังเจแปน" ได้ออกมาให้ข้อมูลอีกด้าน ชี้ชัดว่าทั้งสองเหตุการณ์ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานที่แตกต่างกัน พร้อมยกตัวอย่างหลุมยุบที่ญี่ปุ่นอีกเคสที่ใช้เวลาซ่อมนานกว่า 1 ปีเช่นกัน
จากกรณีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.ย.) เกิดเหตุถนนหน้า รพ.วชิรพยาบาลทรุดตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ประมาณ 30x30 เมตร และลึกกว่า 50 เมตร ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ต้องปิดเส้นทางและแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่ ต่อมานายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมเผยเบื้องต้นการซ่อมเชื่อมอุโมงค์รถไฟฟ้าจากเหตุถนนทรุดตัวอาจใช้เวลาอย่างต่ำ 1 ปี
เหตุการณ์นี้ทำให้หลายคนนึกถึงกรณีคล้ายกันที่เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อพฤศจิกายน 2559 ซึ่งเกิดหลุมลึกประมาณ 30 เมตร ใจกลางเมือง ทีมวิศวกรญี่ปุ่นเร่งถมดินและซีเมนต์กว่า 6,200 ลูกบาศก์เมตร พร้อมซ่อมระบบสาธารณูปโภคทั้งน้ำและก๊าซ ใช้เวลาเพียง 2 วันในขั้นตอนถมหลุม ก่อนตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยอย่างละเอียด
ถนนฟุกุโอกะสามารถเปิดใช้งานได้อีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ โดยไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ถือเป็นกรณีศึกษาที่ทั่วโลกยกย่องด้านการจัดการวิกฤติและความรวดเร็วในการซ่อมแซม
ล่าสุดวันนี้ (24 ก.ย.) เพจ “เจปังเจแปน“ ออกมาอธิบายถึง 2 เหตุการณ์ว่าไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้เพราะการวางโครงสร้างของประเทศไม่เหมือนกัน โดยทางเพจได้ระบุข้อความว่า
"จริงๆ เห็นหลายคนเอาเคสที่ถนนหน้าโรงพยาบาลวชิระ ไปเทียบกับที่ญี่ปุ่นซ่อมถนนหลุมยุบใน 7 วัน (ที่ฟุกุโอกะ)
เอาจริงๆ ในญี่ปุ่นมันก็มีการซ่อมแซมอะไรแนวๆ นี้ได้รวดเร็วก็จริง เพราะโปรโตคอลประเทศนี้วางมาเพื่อรับมือกับภัยพิบัติที่เกิดบ่อยอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าหลุมยุบจากโพรงใต้ถนนจะซ่อมได้เร็วในไม่กี่วันได้ทุกเคสครับ เอาชัดๆ ก็เคสที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปี คือหลุมยุบที่เมืองยาชิโอะ จังหวัดไซตามะ
โดยเหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนมกราคม ปี 2025 และมีรถบรรทุกที่วิ่งมาตกลงไปในหลุมยุบนั้น ทำให้คนขับเสียชีวิต และเกิดโพรงหลุมยุบตามมาใต้ดินอีกจำนวนมากทำให้ยากต่อการซ่อมแซม เพราะสาเหตุเกิดจากท่อระบายน้ำใต้ดินแตกรั่ว ทำให้น้ำกัดเซาะดินจนกลายเป็นโพรงและเกิดหลุมยุบขึ้น และความเสียหายนี้ยังกระทบต่อระบบทางน้ำเสียเป็นวงกว้างและจนบัดนี้ ผ่านมาร่วมๆ 8 เดือนแล้วก็ยังซ่อมไม่เสร็จครับ (ภาพสุดท้าย)
จากข่าวที่ลงไว้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้คนที่อาศัยอยู่โดยรอบก็ยังไม่สามารถใช้ถนนแยกนี้ในการสัญจรได้ เสียงการก่อสร้างซ่อมแซมก็ยังรบกวนความเป็นอยู่ การใช้น้ำยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ และอื่นๆ อีกมากมาย
เบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่าการซ่อมแซมน่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคมปีหน้า เท่ากับว่าเป็นเวลาราวๆ 13-14 เดือนเลยทีเดียว
ที่จะบอกเล่าก็คือ ในแง่ความเร็วในการซ่อมแซมของประเทศญี่ปุ่นเอง ก็ขึ้นกับพื้นที่ และอัตราความเสียหายที่เกิดขึ้นเหมือนกันครับ ถ้าโครงสร้างที่นอกเหนือจากตามองเห็นเสียหายมาก ก็อาจจะใช้เวลาไม่น้อยเหมือนกัน
สำหรับฝั่งไทย ก็ขอเอาใจช่วยผู้ที่เกี่ยวข้องให้สามารถซ่อมแซม และป้องกันความเสียหายให้ได้มากที่สุดในเร็ววันครับ"