เพจ “ทางรถไฟสายมรณะ” ไขข้อสงสัยที่หลายคนคาใจว่าทำไมทหารกัมพูชาจึงสามารถตั้งฐานบนยอดเขาพนมดงรักได้ และทำไมทหารไทยถึงไม่สามารถผลักดันพวกเขาลงมาได้ เจาะลึกความจริงบนเทือกเขาพนมดงรัก : สันปันน้ำ VS หน้าผา
วันนี้ (3 ก.ย.) เพจ “ทางรถไฟสายมรณะ” ได้ออกมาโพสต์ข้อความคลายข้อสงสัย ทำไมทหารกัมพูชาจึงขึ้นมาตั้งฐานบนยอดเขาพนมดงรักได้ และทำไมทหารไทยไม่สามารถผลักดันพวกเขาลงจากหน้าผาได้ โดยทางเพจได้ระบุข้อความว่า
"คำตอบที่ว่าทำไมทหาร กพช.ถึงขึ้นมาบนยอดสันปันน้ำได้? แล้วทำไมทหารไทยไม่ไล่เตะทหารเขมรตกหน้าผาไปเลย? กับตัวอย่างฐานทหารไทยและ กพช. ที่พลาญหินแปดก้อน วันนี้มาหาคำตอบกันครับ
อย่างที่เรารู้กันอย่างแพร่หลายว่า เส้นเขตแดนของไทย-กพช. ถ้าอยู่ในเขตเทือกเขาพนมดงรักจะใช้เส้นสันปันน้ำเป็นเส้นเขตแดน และเชื่อว่าหลายคนก็รู้ว่าสันปันน้ำคือยอดสูงสุดของพื้นดินที่เวลาฝนตก หากน้ำไหลแยกไปทิศทางตรงข้าม (อธิบายง่ายๆ ถ้าฝั่งหนึ่งไหลมาทางเหนือฝั่งนั้นคือของไทย ถ้าไหลไปทางทิศใต้จะเป็นพื้นที่ของ กพช. ปล.บางที่อาจจะเป็นทิศตะวันออกตะวันตกก็ว่าไปนะครับ แค่ผมอยากให้เข้าใจคร่าวๆ) นั่นคือสันปันน้ำ
และที่สำคัญ หลายคนคิดว่าปลายหน้าผาตลอดแนวเทือเขาพนมดงรัก ก่อนที่จะเป็นที่ราบของเขมร เป็นเส้นเขตแดนที่กำหนดจากสันปันน้ำทั้งหมด เป็นความเข้าใจที่ถูกเพียงครึ่งเดียว
เพราะบางจุดหน้าผาไม่ใช่สันปันน้ำที่แท้จริง เพราะมันจะมียอดเขาที่อยู่สูงกว่าหน้าผานั่นเอง ถ้าใครดูรูปที่สองที่ผมวาดจะเข้าใจง่ายขึ้น และจุดนั้นคือสันปันน้ำ ส่วนหน้าผาคือพื้นที่ของ กพช.
จริงอยู่ครับว่าบางจุดทหารเขมรตั้งฐานล้ำดินแดนมาก็มี แต่ก็มีหลายจุดที่ กพช.ก็อยู่ในพื้นที่ของ กพช.เอง ถึงแม้นมันจะอยู่สูงขึ้นมาจากพื้นราบเขมรก็ตาม
แต่ก็มีหลายจุดที่ กพช.สร้างติดกับเส้นเขตแดนเลย อย่างเช่นพื้นที่พลาญยาว ทหาร กพช.สร้างถนนขึ้นผา แล้วสร้างฐานเลาะตามแนวหน้าผา ซึ่งเป็นจุดเส้นเขตแดนพอดี
กลับมาที่บริเวณพลาญหินแปดก้อนและพลาญเพิงพระพุทธ
ในทางทฤษฎีจุดพลาญหินแปดก้อนเป็นเนินยอดเนินสูง 666 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เมื่อเทียบกับหน้าผาทางทิศใต้สูงเพียง 550 เมตร นั่นหมายความว่าเส้นเขตแดนจะต้องอยู่บนยอดของพลาญหินแปดก้อน ไม่ใช่หน้าผา เพราะสันปันน้ำอยู่ที่กลางพลาญหินแปดก้อน (ตามแผนที่ L7018) ผมใช้เส้นสีเหลือง
เส้นสีแดงคือถนนของฝ่าย กพช. ส่วนสีน้ำเงินคือถนนของไทย
ในทางปฏิบัติการทางทหารก็สอดรับกันครับ โดยทหารไทยเข้าตั้งฐานทหารที่พลาญหินแปดก้อนและที่พลาญเพิงพระพุทธมานานมากแล้ว และมีการปรับปรุงพัฒนาฐานและเส้นทางมาโดยตลอด
ส่วนฝ่าย กพช. ผมดูคร่าวๆ น่าจะมีการขึ้นไปในช่วงปี 54 ครับ และมีการปรับปรุงถนนสร้างฐานแยกย่อยไปตามพื้นที่ราบบนหน้าผา และมีการสร้างสองฐานขึ้นไปยังยอดเนินพลาญหินแปดก้อนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเผชิญหน้ากับฐานทหารไทยด้วย ตามภาพที่ผมให้ดู
ผมพยายามทำภาพให้เห็นหลายมุมจะได้เข้าใจว่าไม่ใช่ว่าทุกกรณีที่ทหาร กพช. ขึ้นมาสร้างฐานด้านบนพื้นที่สูงแล้วเรามีสิทธิไปเตะไอ้พวกนี้ตกภูได้ทั้งหมด
มันยังมีหลายพื้นที่ที่เราเองต้องยอมรับว่าเป็นพื้นที่ของ กพช. และทหารไทยไปทำอะไรไม่ได้
แต่หากเราไม่คิดเรื่องเส้นเขตแดน เราจะเห็นว่า กพช.ก็มีความพยายามอย่างมากที่จะขึ้นมาบนที่สูง ทั้งๆ ที่มันยากลำบากในการขนส่งกำลังบำรุงและเรื่องอื่นๆ
จึงสรุปได้ว่ามีหลายแห่งที่ทหารเขมรตั้งฐานบนดินแดนของตนเองถึงแม้มันจะอยู่สูงกว่าพื้นราบด้านล่าง และไทยเองก็ไม่มีสิทธิที่จะไปเตะทหารเขมรตกจากภูได้ในบางกรณี"