xs
xsm
sm
md
lg

"ติ๊กต็อกอินโดนีเซีย" ปิดฟังก์ชันไลฟ์สด หลังการชุมนุมโกรธแค้นกรณีรถหุ้มเกราะตำรวจชนไรเดอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การประท้วงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศอินโดนีเซียทำให้ติ๊กต็อกอินโดนีเซียปิดฟังก์ชันถ่ายทอดสด บริษัทไบต์แดนซ์ระบุต้องการรักษาให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยและสุภาพเรียบร้อย ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตอินโดนีเซียว่าอาจปิดปากพื้นที่ดิจิทัล และเป็นบรรทัดฐานที่ไม่เป็นผลดีต่อเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง

วันนี้ (31 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่างติ๊กต็อก (TikTok) ได้ปิดฟังก์ชันถ่ายทอดสด (Live) หลังจากการชุมนุมประท้วงประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ชาวเน็ตอินโดนีเซียวิจารณ์จำนวนมากว่าเป็นการปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นหรือไม่

ขณะที่โฆษกของบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ออกแถลงการณ์ระบุว่า เนื่องจากความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นจากการประท้วงในอินโดนีเซีย จึงได้ดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมเพื่อรักษา TikTok ให้เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและสุภาพเรียบร้อย โดยส่วนหนึ่งของมาตรการนี้จะระงับการใช้งานฟีเจอร์ TikTok LIVE เป็นเวลาสองสามวันในอินโดนีเซีย

นอกจากนี้มีรายงานว่า ติ๊กต็อกยังคงลบเนื้อหาที่ถือว่าละเมิดหลักเกณฑ์ชุมชน และกำลังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตอินโดนีเซียมองว่าอาจเกิดจากแรงกดดันทางการเมือง และอาจเป็นการปิดปากพื้นที่ดิจิทัลในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่เป็นผลดีต่อเสรีภาพในการแสดงออกในประเทศอินโดนีเซีย

ที่ผ่านมาติ๊กต็อกกลายเป็นช่องทางรับชมสถานการณ์การชุมนุมในหลายภูมิภาคของอินโดนีเซียในช่วงที่ผ่านมา ทั้งการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจกองกำลังรักษาความปลอดภัย การกล่าวสุนทรพจน์ของกลุ่มนักศึกษา และการชุมนุมอย่างสงบ ซึ่งเห็นว่าไม่ได้ถูกนำเสนออย่างครบถ้วนในสื่อกระแสหลัก ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ในอินโดนีเซีย

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลอินโดนีเซียเตรียมเรียกผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียรายต่างๆ รวมทั้งเมตา (Meta) เจ้าของเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และไบต์แดนซ์ เจ้าของติ๊กต็อก ให้ตรวจสอบเนื้อหาที่เผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย เพราะรัฐบาลเชื่อว่าเนื้อหาที่โจมตีรัฐบาลกระตุ้นให้ประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงและเกิดจลาจลมากขึ้น

บนโซเชียลมีเดียชาวอินโดนีเซียได้ติดแฮชแท็ก #1312 ถอดตัวเลขเป็นตัวอักษรคือ ACAB ย่อมาจากคำว่า All Cops Are Bastard (ตำรวจทุกนายเป็นพวกสารเลว) ซึ่งเคยใช้ในประเทศอังกฤษช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เพื่อแสดงความโกรธแค้นตำรวจอินโดนีเซีย จากเหตุการณ์ที่รถหุ้มเกราะควบคุมฝูงชนของตำรวจอินโดนีเซีย ที่เรียกว่าบริม็อบ (Brimob) พุ่งเข้าชนนายอัฟฟาน กูร์เนียวัน อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสารและส่งอาหาร หรือที่ชาวอินโดนีเซียเรียกว่า โอโจล (Ojol) เสียชีวิตเมื่อค่ำวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา

การชุมนุมของชาวอินโดนีเซียมีชนวนเหตุอยู่สองเรื่อง คือ ต่อต้านการขึ้นเงินเดือนและสวัสดิการของสมาชิกรัฐสภาที่สูงขึ้น โดยเฉพาะค่าที่อยู่อาศัยเดือนละ 50 ล้านรูเปียห์ (100,000 บาท) ทั้งที่ประชาชนกำลังยากลำบากจากเศรษฐกิจตกต่ำ กับเรื่องแรงงาน ที่มีข้อเรียกร้อง 6 ข้อ นอกจากปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแล้ว ยังให้ยกเลิกการจ้างงานแบบ Outsourcing และการตั้งคณะกรรมการป้องกันการเลิกจ้าง

แต่เหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ คือ กรณีรถหุ้มเกราะควบคุมฝูงชนของตำรวจอินโดนีเซีย ที่เรียกว่าบริม็อบ (Brimob) พุ่งเข้าชนไรเดอร์ ยิ่งเพิ่มความโกรธแค้นไปทั่วประเทศ แม้ตำรวจต้นสังกัดจะควบคุมตัวคนที่อยู่ในรถหุ้มเกราะ 7 คนไปสอบสวนแล้ว แถลงข่าวขอโทษแล้ว ยอมเปิดหน้าตำรวจทั้งเจ็ดแล้ว แต่สภานการณ์ไม่ดีขึ้น รัฐสภา ที่ทำการตำรวจในกรุงจาการ์ตา รวมทั้งสถานีรถเมล์ด่วนพิเศษ ถูกผู้ชุมนุมเผา

นอกจากนี้ อาคารรัฐสภาส่วนภูมิภาคและที่ทำการตำรวจในหลายเมืองก็ถูกผู้ชุมนุมเผา เช่น เมืองมากัสซาร์ อาคารสภาท้องถิ่นถูกวางเพลิง ยานพาหนะหลายสิบคันถูกเผา เมืองสุราบายา ที่ทำการของรัฐบาลท้องถิ่นก็ถูกเผา เมืองบันดุง เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง และบ้านพักของสมาชิกสภาถูกเผา รวมทั้งเมืองอื่นๆ เช่น เมืองโซโล ยอร์คยาการ์ตา กูนิกัน เตกัล ปอนตินัค

ขณะที่บ้านของนายอาห์หมัด ซาห์โรนิ (Ahmad Sahroni) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคนาสเด็ม ที่เคยออกมาวิจารณ์ผู้ชุมนุมที่เคลี่อนไหวเรียกร้องให้ยุบสภาว่าเป็นพวกโง่ มีผู้ชุมนุมตามไปบุกบ้านซึ่งตั้งอยู่ในเมืองตันจุง ปรีอ็อก ทางตอนเหนือของกรุงจาการ์ตา แล้วเผาบ้าน รวมทั้งขนเอาสิ่งของมีค่าในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ออกไปด้วย

ล่าสุด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ปราโบโว ซูเบียนโต ยกเลิกการเดินทางไปงานรำลึกสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองที่ประเทศจีน เพื่อติดตามสถานการณ์เหตุชุมนุมประท้วงโดยตรง และหาทางออกเรื่องนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น