MGR Online - พบบาร์กัญชา "Dispensary 24" ในโรงแรมเดวิส ซอยสุขุมวิท 24 ของครอบครัวนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยังเปิดให้บริการรับทรัพย์จากลูกค้าเต็มที่ แม้เจ้าของจะเดินหน้ารณรงค์ต่อต้าน "กัญชาเสรี" ไปทั่ว กทม. พบมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ โดยไม่ออกใบเสร็จให้ลูกค้ากรณีซื้อสินค้าที่มีส่วนผสมกัญชา-ห้ามถ่ายรูป-ไม่อนุญาตให้สูบภายในร้าน หลังถูก สธ.เข้าตรวจสอบตั้งแต่ 27 ก.พ.
ภายหลังจากที่ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย และเปิดโปงการทุจริตรถไฟฟ้าสายสีส้มของกระทรวงคมนาคม แต่ต่อมาในสังคมออนไลน์ได้โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรมของนายชูวิทย์ที่มีการเปิดเป็นบาร์กัญชานั้น จนกระทั่งวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจสอบ “ร้าน Chuweed Bar” และ “ร้าน Dispensary 24” ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงแรมเดอะเดวิส บางกอก ซ.สุขุมวิท 24 ซึ่งโรงแรมดังกล่าวเป็นของครอบครัวนายชูวิทย์ และเป็นชนวนทำให้ในวันดังกล่าวนายชูวิทย์อาละวาดทำลายข้าวของในร้าน กวาดสินค้ากัญชาในร้านลงกับพื้น รวมถึงแสดงกิริยาท่าทาง “ใช้เท้ากระทืบสินค้ากัญชา” ที่ตั้งโชว์อยู่หน้าเคาน์เตอร์ เพราะเชื่อว่าสาเหตุที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าตรวจร้านกัญชานั้นถูกกลั่นแกล้งจนทำให้มีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
"อยากจะปิดโรงแรมกูเหรอ ปิดไปเลย คิดว่ากูได้กำไรเหรอ แต่ไอ้พวกมึงน่ะ ใครที่มันได้ประโยชน์จากกัญชา ใครที่ได้ประโยชน์จากรถไฟสายสีส้ม ก็ขอให้มันฉิบหายวายวอดวายป่วงทั้งโคตรทั้งตระกูลมัน พอผมพูดเรื่องกัญชามันก็มาทันที โอ้โห! มึงจะมาตรวจ โถ่นึกว่าคนอย่างกูกลัวเหรอ ขอโทษทีนะ" นายชูวิทย์แสดงท่าทีฉุนเฉียวอย่างรุนแรงในวันดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลาผ่านมาราว 1 เดือนแล้ว นายชูวิทย์ก็ยังเดินหน้าต่อต้านคัดค้านกัญชาเสรีอย่างดุดันต่อเนื่อง โดยเดินสายรณรงค์ไปในพื้นที่หลายแห่งทั่วกรุงเทพมหานคร ทั้งยังประกาศว่าจะเดินทางไปยังต่างจังหวัดด้วย แต่กลับมีประชาชนแจ้งเข้ามาว่าบาร์กัญชา “ร้าน Dispensary 24” กลับยังเปิดบริการขายกัญชาอยู่ตามปกติภายในโรงแรมเดวิส
โดยในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเมื่อทีมข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ก็พบว่าร้านกัญชาภายใน รร.เดวิสดังกล่าวยังมีการขายกัญชาในรูปแบบต่างๆ อย่างโจ๋งครึ่มให้แก่ลูกค้าที่สนใจ โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึงช่วงดึกคือ 22.00 น. ในวันธรรมดา หรือถึงเที่ยงคืนในวันหยุดสุดสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม รูปแบบการให้บริการมีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิม คือ
1. ลูกค้าที่ซื้อสินค้าที่เป็นจำพวกกัญชา ทางร้านจะไม่ออกใบเสร็จรับเงิน แต่สินค้าอื่นๆ ที่ไม่มีส่วนผสมของกัญชา ทางร้านจะออกใบเสร็จให้ตามปกติ
2. ลูกค้าที่ซื้อกัญชาของทางร้านไปแล้วนั้น ทางร้านจะไม่ให้ทำการเสพภายในร้านเด็ดขาด ซึ่งต่างกันก่อนหน้านี้ที่ทางร้านอนุญาตให้เสพภายในร้านได้
3. ทางร้านจะมีข้อห้ามไม่ให้ลูกค้า หรือพนักงาน ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ภายในร้านโดยเด็ดขาด
อนึ่ง นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชา ได้เคยตั้งคำถามก่อนหน้านี้ว่า ร้าน “Chuweed bar” หรือ ร้าน “Dispensary 24” ในโรงแรมของคุณชูวิทย์ เป็นกัญชาเพื่อทางการแพทย์ หรือเพื่อนันทนาการกันแน่ และ ร้าน “Dispensary 24” ที่ขายเพื่อมวนสูบนั้น ได้ขายเฉพาะผู้มีใบสั่งยาจากแพทย์หรือไม่?
โดยนายปานเทพระบุว่า ที่ต้องถามเช่นนี้เพราะคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ รณรงค์ให้ใช้กัญชาทางการแพทย์เท่านั้น ห่วงเด็กและเยาวชน แต่เหตุใดยังเปิดร้านขายช่อดอกกัญชาเพื่อนันทนาการ การกระทำมันย้อนแย้งกับสิ่งที่รณรงค์อยู่หรือเปล่า? (อ่าน : กรณีศึกษา ร้านขายกัญชาเพื่อนันทนาการในโรงแรมของชูวิทย์ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เผยแพร่วันที่ 10 มีนาคม 2566)
นอกจากนี้ นายปานเทพยังเชิญชวนให้นายชูวิทย์ที่กำลังรณรงค์ต่อต้านกัญชา นั้นมาพูดคุย หรือดีเบตออกรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับประเด็นและปัญหากัญชาต่างๆ ที่แต่ละฝ่ายเห็นไม่ตรงกัน เพื่อประโยชน์สาธารณะ รวมถึงเป็นการให้ความรู้ต่อสังคม โดยผ่านรายการโทรทัศน์ทางช่องต่างๆ เช่น รายการโหนกระแส ทางช่อง 3 ดำเนินรายการโดยนายกรรชัย กำเนิดพลอย ก็ได้ อย่างไรก็ตาม คำเชิญชวนดังกล่าวกลับไม่ได้รับการตอบรับจากนายชูวิทย์แต่อย่างใด