“ปานเทพ” ชี้หากที่ดิน “สวนชูวิทย์” ริมถนนสุขุมวิท กลับไปเป็นสวนสาธารณะ ฐานรากชั้นใต้อาคารมิกซ์ยูสที่กำลังสร้าง อาจถูกปรับเป็นที่จอดรถใต้ดิน และ “เสี่ยอ่าง” คงได้บุญใหญ่สมใจ ไม่ต้องเอาเงินสกปรกไปบริจาคโรงพยาบาลเพื่อหักลดหย่อยภาษี 2 เท่า
วันนี้(25 มี.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยอ้างถึง ๑๐ ประเด็นคำพิพากษาศาลฎีกา “คดีการอุทิศที่ดินของเอกชน”ให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เพื่อเทียบเคียงกับกรณีของที่ดินสวนสาธารณะสวนชูวิทย์ว่า เข้าหลักเกณฑ์ เงื่อนไข เหมือนกันหรือไม่เพียงใด จากรายการสนธิทอล์ค เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๖
เลขที่คดีคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวข้องกับการอุทิศที่ดินของเอกชนให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำนวน ๑๐ ประเด็นคำพิพากษา มีดังนี้
๑. การอุทิศที่ดินมีผลทันที โดยไม่จำต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์อีก อ้างอิงตามฎีกาเลขที่ ๔๓๗๗/๒๕๔๙
๒. การอุทิศที่ดินมีผลทันทีเช่นกัน แม้หนังสืออุทิศจะระบุว่า จะต้องไปจดทะเบียน ก็ตาม อ้างอิงตามฎีกาเลขที่ ๔๓๗๗/๒๕๔๙
๓.เมื่อการอุทิศที่ดินมีผลสมบูรณ์โดยไม่จำต้องจดทะเบียนโอน จะฟ้องศาลบังคับให้ไปจดทะเบียนโอนไม่ได้ อ้างอิงตามฎีกาเลขที่ ๑๒๗๒/๒๕๓๙
๔. การอุทิศที่ดินของเอกชนแม้ด้วยวาจา ก็มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย อ้างอิงตามฎีกาเลขที่ ๒๖๔/๒๕๕๕
๕. การอุทิศที่ดินเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ถึงแม้ไม่ได้ถูกใครใช้ประโยชน์ก็ไม่อาจสูญสิ้นไป รวมถึงแม้ประชาชนส่วนใหญ่ จะมิได้ใช้ทางพิพาทตามวัตถุประสงค์ก็ตาม อ้างอิงตามฎีกา เลขที่ ๒๐๐๔/๒๕๔๔
๖. การแสดงเจตนาอุทิศที่ดิน ไม่จำต้องมีนายอำเภอ หรือนายก อปท. ในกรณีที่ดินในกรุงเทพมหานครก็ไม่จำเป็นต้องมีกรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทย หรือกรมธนารักษ์แสดงเจตนารับ ก็มีผลสมบูรณ์แล้ว อ้างอิงตามฎีกาเลขที่ ๒๓๗๗/๒๕๔๙
๗. การที่ผู้อุทิศที่ดิน กลับเข้ามาครอบครองที่ดินที่อุทิศไปแล้ว แม้จะกลับมาครอบครองนานเพียงใดก็ไม่ทำให้ที่ดินกลับมาเป็นของผู้อุทิศที่ดินนั้นอีก จะยกเอาอายุความต่อสู้กับแผ่นดิน ไม่ได้ อ้างอิงตามฎีกาเลขที่ ๒๖๔/๒๕๕๕
๘. ผู้อุทิศที่ดินจะขอยกเลิกการอุทิศที่ดิน ไม่ได้ อ้างอิงตามฎีกาเลขที่ ๑๑๐๘๙/๒๕๕๖
๙. เมื่อมีการอุทิศที่ดินให้เป็นสาธารณประโยชน์ แม้หน่วยงานราชการยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามความประสงค์ของผู้อุทิศ หรือตามเงื่อนไขการอุทิศให้ก็ตาม ที่ดินนั้นก็ยังคงสภาพเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน อ้างอิงตามฎีกาเลขที่ ๒๐๐๔/๒๕๔๔
๑๐. การอุทิศที่ดินให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน อาจกระทำ "โดยปริยาย" ก็ได้ เช่น ยินยอมให้ประชาชนใช้สอยโดยไม่หวงห้าม อ้างอิงฎีกาเลขที่ ๖๐๖๗/๒๕๕๒,๒๕๒๖/๒๕๔๐ แต่ต้องเป็นการยินยอมให้ประชาชนทั่วไปที่มิได้มีความสัมพันธ์ทางส่วนตัวกับเจ้าของ ไม่ว่าทางใดๆ
แต่ตอนนี้เมื่อสวนชูวิทย์มีการกระทำรื้อทำลายสวนสาธารณะสำเร็จไปแล้วประการหนึ่ง และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารมิกซ์ยูสขนาดใหญ่เป็นอีกประการหนึ่ง
แต่เมื่อพิจารณาแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างฐานรากใต้ดินเท่านัั้น
ดังนั้นหากสมมุติว่าหยุดการก่อสร้างเพียงเท่านี้ แล้วสมมุติต่อว่าวันหนึ่งสามารถนำที่ดินแห่งนี้กลับคืนมาเป็นสวนสาธารณะได้ ชั้นใต้ดินเหล่านี้ยังสามารถนำกลับมาเป็นทึ่จอดรถของสวนสาธารณะได้นะครับ
ถึงเวลานั้นก็จะได้ทำบุญใหญ่สมใจจริงๆ เสียที โดยไม่ต้องเอาเงินสกปรกไปบริจาคในโรงพยาบาลเพื่อไปได้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษี 2 เท่าแล้วนะครับ
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
๒๕ มีนาคม ๒๕๖๖