เริ่มแล้ว!! เทศกาลหนังสือสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปลายปี บิ๊ก แบด วูล์ฟ บุ๊ก เฟสติวัล ชวนทุกคนร่วมแบ่งปันของขวัญแห่งความรู้ ด้วยหนังสือคุณภาพจากสำนักพิมพ์ไทยและต่างประเทศกว่า 1 ล้านเล่ม มาให้เลือกชมและชอปในราคาลดสูงสุด 95% ครอบคลุมทุกหมวดหมู่หนังสือ เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย พร้อมกิจกรรมพิเศษ ความรู้ พบปะนักเขียน มุมเล่านิทาน และโซนของเล่น บอร์ดเกม, ไดโน เพลย์ สเปซ และอีกมากมาย ตั้งแต่วันที่ 7-18 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00-24.00 น. ณ อาคาร 4 อิมแพ็ค ฟอรัม เมืองทองธานี
นายลอย จุน ฮาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กล่าวว่า นับเป็นความน่ายินดีอีกครั้งที่ได้ต้อนรับการกลับมาของมหกรรมหนังสือยิ่งใหญ่ระดับโลก บิ๊ก แบด วูล์ฟ (Big Bad Wolf) ซึ่งถือเป็นงานหนังสือที่มีชื่อเสียง จัดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศมาเลเซีย ในปี 2552 เติบโตขึ้นในทุกๆ ปี และขยายการจัดงานไปยังประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา ไต้หวัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมียนมา ปากีสถาน ไทย กัมพูชา และเกาหลีใต้ ซึ่งในทุกครั้งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยเมื่อช่วงต้นปี 2565 ได้เลือก อิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นพื้นที่จัดงานในต่างประเทศครั้งแรกหลังสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้อ่านในประเทศไทย
การกลับมาจัดงานอีกครั้งในช่วงปลายปี จะเป็นโอกาสดีที่คนไทยจะได้ชมและเลือกซื้อหนังสือคุณภาพจากสำนักพิมพ์ต่างๆ ทั้งยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ซึ่งมีหนังสือครบทุกหมวดหมู่ เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่หนังสือส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ภาพการ์ตูนสำหรับเด็ก หนังสือประวัติศาสตร์ ชีวประวัติ บันเทิง ดนตรี กีฬา ท่องเที่ยว วรรณกรรม ตกแต่งบ้าน สถาปัตย์ งานอดิเรก ฯลฯ จากนักเขียน นักแปล ทั่วโลกมากกว่า 1 ล้านเล่ม นับเป็นงานสำคัญและเป็นความโชคดีของผู้ที่รักการอ่านจะได้พบกับหนังสือนานาชาติ ราคาประหยัด มารวมไว้ในที่เดียว ซึ่งจากความน่าสนใจของหนังสือและโปรโมชันต่างๆ เชื่อว่าจะดึงดูดให้มีผู้ร่วมงานจำนวนมาก และอิมแพ็คก็พร้อมในการเป็นเจ้าบ้านร่วมอำนวยความสะดวก ทั้งอาคารสถานที่ จุดบริการจอดรถ ให้ลูกค้าได้มาชมงานและเลือกซื้อหนังสืออย่างจุใจ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ยาวไปจนถึงเที่ยงคืนทุกวัน ระหว่างวันที่ 7-18 ธันวาคม 2565 ณ อาคาร 4 อิมแพ็ค ฟอรัม เมืองทองธานี
นางแจ็คเกอลีน อึ๊ง ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการบริหาร Big Bad Wolf Books กล่าวเสริมว่า การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นการส่งมอบความสุขให้แก่ผู้อ่านทุกท่านช่วงส่งท้ายปลายปี จึงได้จัดงานในรูปแบบเทศกาลหนังสือ ในชื่อ บิ๊ก แบด วูล์ฟ บุ๊ก เฟสติวัล (Big Bad Wolf Book Festival) โดยร่วมกับ ไทยบุ๊คส์ ยูไนเต็ด นำเสนอหนังสือคุณภาพ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษมากกว่า 1 ล้านเล่ม จากสำนักพิมพ์ชั้นนำทั่วโลก รวมถึงสำนักพิมพ์ของไทย ที่พร้อมใจกันเข้าร่วมจัดแสดงหนังสือและมอบโปรโมชั่นพิเศษเฉลิมฉลองส่งท้ายปี ลดราคาสูงสุดถึง 95% ครอบคลุมในทุกหมวดหมู่หนังสือ เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย พร้อมกิจกรรมพิเศษมากมาย อาทิ การจัดเสวนาให้ความรู้ พบปะนักเขียนสำนักพิมพ์ต่างๆ กิจกรรมเล่านิทาน และยังมีโซนของเล่น บอร์ดเกม, ไดโน เพลย์ สเปซ ฯลฯ ให้ทุกครอบครัวได้มาสนุกกับเทศกาลหนังสือด้วยกัน
ภายใต้คอนเซ็ปต์ BIG BAD WOLF BOOKS IS A DELIVERER OF A BETTER FUTURE โดยมุ่งหวังให้งานนี้ปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน เป็นหนึ่งในวิถีชีวิตใหม่ งานอดิเรกใหม่ ทักษะใหม่ อีกทั้งสร้างความเข้าใจในภาษาอังกฤษ ด้วยคำศัพท์ที่กว้างขึ้น เสริมความคิดสร้างสรรค์ การคิดจัดการแก้ปัญหา ช่วยลดความเครียด เป็นสิ่งที่ดีสำหรับอนาคต รวมถึงได้เลือกซื้อหนังสือเพื่อมอบแก่กันเป็นของขวัญในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งการมอบหนังสือถือเป็นอีกหนึ่งของขวัญชิ้นพิเศษ และมีคุณค่าเพราะเป็นการแบ่งปันของขวัญแห่งความรู้
นางริสรวล อร่ามเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด หนึ่งในผู้ก่อตั้ง ไทย บุ๊ค ยูไนเต็ด (Thai Book United: TBU) ซึ่งเป็นทีมงานผู้เชิญชวนและบริหารพื้นที่สำหรับสำนักพิมพ์ไทยที่ประสงค์จะเข้าร่วมจัดแสดงหนังสือ Big Bad Wolf Event ในประเทศไทย กล่าวถึงภาพรวมอุตสาหกรรมหนังสือจากข้อมูลสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย หรือ PUBAT พบว่าปี 2557 เป็นจุดพีกของอุตสาหกรรมหนังสือมีมูลค่าถึง 29,500 ล้านบาท แต่ลดลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งต่ำสุดในปี 2563 เหลือ 12,500 ล้านบาท เนื่องจากโควิด-19 ทำให้ร้านหนังสือต้องปิดไปหลายเดือน และสถานการณ์เริ่มดีขึ้นในปี 2564 มูลค่ารวมของตลาดหนังสือกระเตื้องขึ้นมาเป็น 13,000 ล้านบาท ส่วนปี 2565 ตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคมที่ผ่านมา หน้าร้านหนังสือเติบโตขึ้นประมาณ 10-20% คาดการณ์ว่าปีนี้มูลค่าตลาดน่าจะแตะถึง 15,000 ล้านบาท ทาง TBU ก็เชื่อว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมหนังสือและคอนเทนต์ยังจะโตได้ต่อเนื่อง
ตอบรับกับอุตสาหกรรมหนังสือที่เติบโตสูงขึ้น อีกทั้ง BBW และ TBU ต้องการเพิ่มทางเลือกแก่ผู้อ่าน ซึ่งเดิมหนังสือนำเข้ามีราคาสูง ส่วนหนังสือที่ผลิตในประเทศมีโครงสร้างต้นทุนและการตลาดที่ยังสามารถปรับปรุงได้ ช่วงที่มีการล็อกดาวน์หนังสือที่ผลิตในประเทศมีช่องทางการขายลดลง แม้ e-Commerce และ Market Place จะบรรเทาสถานการณ์ได้ระดับหนึ่งแต่ก็เป็นช่วงสั้นๆ การกลับมาเปิดจำหน่ายหนังสือให้ผู้อ่านได้เลือกในสถานที่จริง ส่งผลนอกจากยอดขายที่ดีแล้ว คาดว่างานครั้งนี้จะทำให้สังคมกลับมาให้ความสำคัญต่อการอ่านอย่างจริงจัง เพราะการอ่านที่ต่อเนื่องเป็นหัวใจของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ อยากให้เศรษฐกิจดี สังคมดี ก็ต้องเริ่มที่การอ่าน จึงอยากจะฝากงานเทศกาลหนังสือ Big Bad Wolf Book Festival จัดโดย BBW x TBU ให้อยู่ในตารางกิจกรรมประจำปีของผู้อ่านทุกคน