หญิงรายหนึ่งสุดทน ขับรถไปตามถนนกำแพงเพชร 7 ช่วงวัดอุทัยธารามก่อนถึงอาร์ซีเอ ซึ่งแคบอยู่แล้ว เจอตำรวจนำขบวนวีไอพีรถเบนซ์ไปอีก สุดทนต้องยืนหยัด “ไม่หลบ เพราะนี่มันทางที่เราไป” ตำรวจอ้างอำนวยการจราจรอยู่ สุดท้ายเบนซ์ต้องหักหลบ หนำซ้ำยังมีรถไร้มารยาท ขับย้อนศรฝ่าฝืนกฎจราจรเพียบ แทบเอือมระอา
วันนี้ (3 พ.ย.) เฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2" ได้โพสต์วิดีโอคลิปจากกล้องหน้ารถ เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นชั่วโมงเร่งด่วน ขณะที่ผู้หญิงรายหนึ่งขับรถมาตามถนนกำแพงเพชร 7 ช่วงวัดอุทัยธาราม แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ก่อนถึงอาร์ซีเอ ซึ่งโดยปกติถนนเส้นดังกล่าวมีสภาพคับแคบอยู่แล้ว เพราะอยู่ริมทางรถไฟสายตะวันออก เมื่อมาถึงหน้าสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ พบรถจักรยานยนต์ตำรวจ 2 คันนำขบวนรถเก๋งเมอร์เซเดสเบนซ์ สีขาว ซึ่งคาดว่าเป็นบุคคลชั้นสูงระดับวีไอพี ขับแซงเข้ามาย้อนศรที่เลนตรงหน้า ขณะที่ตำรวจบนรถจักรยานยนต์คันแรกชี้ให้หักหลบ ผู้หญิงคนดังกล่าวกล่าวว่า “ไม่หลบ เพราะนี่มันทางที่เราไป”
เมื่อมาถึงรถจักรยานยนต์ตำรวจคันที่สอง ที่อยู่หน้ารถเก๋งเมอร์เซเดสเบนซ์ ตำรวจอีกนายชี้ให้หักหลบ ผู้หญิงคนดังกล่าวเปิดกระจกรถ กล่าวว่า “คุณ...นี่มันทางรถอะไรเนี่ย” ตำรวจกล่าวว่า “เข้าใจๆ กำลังอำนวยการจราจรอยู่” ผู้หญิงคนดัวกล่าวระบุว่า “อำนวยอะไรล่ะ” ตำรวจกล่าวว่า “ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ได้ว่าอะไรคุณนะ” ผู้หญิงคนดังกล่าวพยายามบีบแตรไล่รถเก๋งเมอร์เซเดสเบนซ์ จนหักหลบเข้าไปยังเลนเดิม ระหว่างนั้นยังพบว่ามีรถอีกจำนวนมาก ขับย้อนศรตามรถเก๋งเมอร์เซเดสเบนซ์ไม่หยุด ต้องค่อยๆ เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ ผู้หญิงรายนี้กล่าวด้วยความไม่พอใจว่า “มึงก็ปิดไปเลยสิ มึงปิดทางออกไปเลย โอ้โห กี่คันวะเนี่ย โอ้โห สุดยอด สุดติ่งจริงๆ ... แล้วยังมาบอกว่า ผมสุภาพกับคุณนะ แต่คือ มึงขับรถแบบนี้...”
ชมคลิป คลิกที่นี่
สำหรับถนนกำแพงเพชร 7 ก่อสร้างขึ้นขนานกับทางรถไฟสายตะวันออก ตั้งแต่นิคมมักกะสัน ผ่านถนนอโศก-ดินแดง ถนนเพชรอุทัย ซอยอาร์ซีเอ ซอยศูนย์วิจัย (โรงพยาบาลกรุงเทพ) ผ่านชุมชนโรงปูน ยาวไปจนถึงถนนเพชรพระราม ลักษณะเป็นถนนชุมชนท้องถิ่นเลียบทางรถไฟ แบ่งเบาการจราจรบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่และถนนพระราม 9 แต่สภาพถนนคับแคบมาก เนื่องจากอยู่ในเขตทางรถไฟ และมีตอม่อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ โดยจุดเกิดเหตุในชั่วโมงเร่งด่วน จะเป็นรถที่ออกจากซอยอาร์ซีเอและซอยศูนย์วิจัย เพื่อไปออกถนนเพชรอุทัย แล้วกลับรถเพื่อขึ้นทางด่วนที่ด่านอโศก 1 ไปยังบางนา ดาวคะนอง ดินแดง แจ้งวัฒนะ และยังตรงไปเพื่อไปออกถนนพระราม 9 ที่แยก อสมท อีกด้วย
ด้านเฟซบุ๊ก "ทนายคู่ใจ" ของนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดัง กล่าวแสดงความเห็นว่า “โดยหลักการแล้วเรามีกฎหมายที่เรียกว่าพระราชบัญญัติจราจรทางบกโดยมาตรา 41 ระบุให้ผู้ขับขี่รถไปตามทิศทางที่กำหนด ใครฝ่าฝืน (ขับย้อนศร) มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท มาตรา 43 (8) ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ที่ให้แจ้งข้อหาฐานขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท แต่มีข้อยกเว้นว่าเป็นกรณีที่รถฉุกเฉินซึ่งได้รับอนุญาตจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่ต้องปฏิบัติตามกฎซึ่งอยู่ในพระราชบัญญัติจราจรทางบกแต่อย่างใดจึงเป็นเหตุที่ว่ารถคันดังกล่าวสามารถย้อนศรได้อย่างถูกกฎหมาย”
ชมโพสต์ต้นฉบับ