ฉุกเฉินตรงไหนเอาปากกามาวง พบคลิปสนั่นโซเชียลฯ ญาติคนไข้ปะทะคารมกับหมอที่เชียงใหม่ เหตุพาแม่ไปหาหมอตอนตีหนึ่ง เพราะมีไข้ แต่ยังเดินได้ มีสติครบถ้วน ต้องสั่งสอน “เป็นไข้ หายใจเร็ว เกือบตาย เจ็บอก จะคลอดลูก” มีแค่นี้ ใกล้ตายค่อยมา นี่ไม่ได้นอน ไม่ใช่ฉุกเฉินมาได้ในเวลาราชการ เจ้าของคลิปอ้างทำไมไม่ตรวจก่อน ถ้าไม่ป่วยจริงไม่มาหรอก ลั่น ถ้าใจไม่รักก็ไม่ต้องมาเป็นหมอ
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. เฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1” ซึ่งเป็นเพจสายดาร์กที่มีผู้ติดตามกว่า 3 หมื่นคน ได้เผยแพร่วิดีโอคลิประหว่างที่แพทย์หนุ่มโรงพยาบาลเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โต้เถียงกับญาติคนไข้หน้าห้องฉุกเฉิน เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 31 ต.ค. 2564 โดยระบุในคลิปว่า “หมอควรพูดจาให้ดีกว่านี้นะ เหนื่อยมากก็พักผ่อนก่อน อย่าให้ประชาชนที่หวังพึ่งหมอเค้าหมดศรัทธาในตัวเลย ... เป็นหมอใจไม่รักการรักษาไม่ต้องเป็นหมอ คลิปนี้ถ่ายเมื่อคืนตี 1 ค่ะ 31/10/64 ใครเคยเจอหมอออกมาแชร์เเสดงความเห็นค่ะว่าสมควรไหมคะ”
ชมคลิป คลิกที่นี่
จากคลิปจะเห็นว่า ฝ่ายญาติคนไข้แอบใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปในโรงพยาบาล ซึ่งผิดกฎข้อห้ามของโรงพยาบาล ระหว่างนั้นแพทย์ได้ออกจากห้องฉุกเฉิน ถามว่า คนไข้อยู่ไหน ญาติตอบว่าอยู่ข้างนอก ถามว่าเดินได้ไหม คนไข้ตอบว่าเดินได้ คนถ่ายคลิปซึ่งเป็นญาติถามว่า ต้องรอให้แม่ตายก่อนเหรอ แพทย์ตอบว่า “ใกล้ตายค่อยมา” ญาติคนไข้กล่าวว่า ให้หมอฉีดยาก่อนสิ แพทย์กล่าวว่า “ไม่ให้ฉีด ไม่ให้ทำอะไร ตรวจให้ก็ได้ แต่แม่ไม่มีอะไรผิดปกติ” ญาติคนไข้อ้างว่า แม่เป็นความดัน มีความเสี่ยง ไม่เห็นตรวจอะไรเลย แพทย์จึงตะคอกใส่ว่า “มันไม่ด่วนไง” ญาติถามว่า มันไม่ด่วนได้ยังไง แพทย์กล่าวว่า "ไม่ด่วน เป็นไข้ หายใจเร็ว เกือบตาย เจ็บอก จะคลอดลูก มีแค่นี้” ญาติคนไข้ถามว่า ให้ตรวจไม่ได้เหรอ
ระหว่างนั้น พยาบาลให้คนไข้มานั่งหน้าห้องฉุกเฉิน แพทย์ชี้ไปที่ป้าย “อุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน” แล้วกล่าวว่า อ่านป้ายนี้รู้ไหม ญาติคนไข้อ้างว่ารู้ แต่เจ็บป่วยแล้วหายใจไม่ได้ เขาปวดเนื้อปวดตัว ยังไม่ได้นอน แพทย์จึงกล่าวว่า “ไม่ได้นอน ไม่ใช่ฉุกเฉิน” และถามว่าอ่านออกไหม ญาติคนไข้กล่าวว่า อ่านออก กลัวว่า เขาทนไม่ไหวเขาถึงมา ไม่อย่างนั้นใครเขาจะอยากมา แพทย์กล่าวว่า “เยอะแยะ” ญาติคนไข้จึงกล่าวว่า ให้ตายถึงมาได้ใช่ไหม แพทย์กล่าวว่า “เกือบตาย” ญาติคนไข้จึงกล่าวอย่างไม่พอใจว่า เกือบตายถึงมาได้แล้วถ้าป่วยธรรมดามาไม่ได้เหรอ แพทย์กล่าวว่า “ในเวลามาได้ ในเวลาราชการ”
ญาติคนไข้จึงกล่าวว่า มาถึงน่าจะสอบสวน แพทย์จึงตะคอกใส่ว่า “เมืองนอกไม่สบายแบบนี้ ทุกที่รักษาฟรีเขาไล่กลับบ้านหมด มีแต่เมืองไทยที่ตรวจให้ โอเคไหม ที่อื่นรักษาฟรีเขาไล่กลับบ้าน” คนถ่ายคลิปกล่าวว่า หมอทำไมพูดจาไม่เพราะแพทย์จึงกล่าวว่า “ก็คุณพูดไม่ดีก่อนไง” คนถ่ายคลิปกล่าวว่า ก็พูดก่อนสิว่าไม่ได้นะ ก็พูดดีๆ สิ แพทย์กล่าวว่า “ตะกี้คุณตะคอกใส่ผม” คนถ่ายคลิปกล่าวว่า ไม่ได้ตะคอกเลย ญาติคนไข้กล่าวว่า เมื่อกี้ก็พูดดีๆ แล้ว
ต่อมาแพทย์หนุ่มได้เรียกแพทย์หญิงออกมาจากห้องฉุกเฉิน คนถ่ายคลิปกล่าวว่า ตะกี้กล่าวว่าจะให้หมออาละวาดใช่ไหมถึงจะกลับ แพทย์หญิงกล่าวว่าไม่ใช่ คนถ่ายคลิปกล่าวว่า เป็นหมอทำไมไม่พูดดีๆ ล่ะ แพทย์หญิงกล่าวว่า ถ้าให้หมอพูดมันจะแรงกว่านี้ เพราะว่าคนไข้ไม่ได้ฉุกเฉินเร่งด่วนจริงๆ คนถ่ายคลิปอ้างว่า ก็มันฉุกเฉินจริงแหละ ถ้าไม่สบายจริงเขาก็คงไม่มาหรอก ญาติคนไข้กล่าวว่า เขาเป็นโรคความดันอยู่แล้ว เขาก็กลัวไง แพทย์หญิงกล่าวว่า คนไข้เป็นมาตั้งแต่กี่โมง ถามว่าทำไมไม่มาตั้งแต่ตอนเย็น ระหว่างนั้นพยาบาลกล่าวว่า คนไข้ความดันปกติ 166
คนถ่ายคลิปกล่าวว่า แจ้งความก็แจ้งความ เพราะว่าหมอพูดไม่เพราะ โอเค ถ้ามาแล้วตรวจนิดๆ หน่อยๆ ก็อุ่นใจ แต่นี่มาแล้วหมอทำท่าแบบนั้น ญาติคนไข้กล่าวว่า เกือบตายถึงมาได้ ไม่อย่างนั้น แพทย์หนุ่มกล่าวว่า ถูกต้อง พูดถูก ต้องใกล้ตายถึงมาได้ ระหว่างนั้นพยาบาลถามว่า กินยาลดไข้ครั้งล่าสุดกี่โมง คนถ่ายคลิปกล่าวว่า ตอน 9 โมง (21.00 น.) พยาบาลกล่าวว่า เลยมากี่ชั่วโมงแล้ว ให้กินซ้ำ ครบรอบตีหนึ่ง ตอนนี้ตีสองแล้ว มันเกินมาเกือบชั่วโมงนึงแล้ว ผ่านไป 5 ชั่วโมงแล้ว ถามว่าไอไหม คนถ่ายคลิปตอบว่า ไม่ไอ ถามว่าเป็นไข้วันไหน คนถ่ายคลิปกล่าวว่า เพิ่งเป็นวันนี้ พยาบาลจึงอธิบายว่า ไข้เลือดออกจะดูวันแรกไม่ได้ ต้องดู 3 วัน เป็นไข้ช่วงวันแรกๆ ต้องกินยาลดไข้ก่อน
คนถ่ายคลิป กล่าวว่า ถ้าทำอย่างนี้ก็โอเค กลับก็ได้ แต่หมอทำท่าแบบนี้มันไม่ถูก ก็พูดดีๆ สิ แพทย์หนุ่มได้ตอบกลับ ญาติคนไข้อีกคนก็ชี้ไปที่คนไข้ กล่าวว่า คนไม่สบายทำไม่ถูก แพทย์หนุ่มจึงปรี่เข้ามาพูดว่า ไม่ถูกเพราะว่าไม่ใช่ไม่สบายถึงขั้นฉุกเฉิน อ่านออกไหม
ปรากฏว่า มีชาวเน็ตออกมาวิจารณ์ว่า สมควรให้หมอบ่น เพราะคนไข้ไม่ได้ฉุกเฉินอะไร ถ้ามีไข้สูง ชัก เหนื่อยมาก จะหมดสติ จะช็อก หรืออุบัติเหตุร้ายแรง ค่อยมาโรงพยาบาลยามฉุกเฉิน หมออาจจะผิดที่ตวาดเสียงดัง แต่เข้าใจในมุมหมอ เพราะประเมินด้วยสายตาคนไข้ยังมีสติ และยังเดินได้ด้วยตัวเอง ยังไม่ถึงขั้นที่จะวิกฤตขนาดจะรอมาในเวลาทำการไม่ได้ บางความเห็นระบุว่า แผนกฉุกเฉินต้องฉุกเฉินเท่านั้นเคสนี้คนไข้ไม่ได้เป็นอะไรมากมายพอตรวจแล้วก็ไม่ได้เป็นอะไรมากมายเวลาปกติก็ค่อยมาก็ได้ น่าเห็นใจแพทย์ที่เจอแบบนี้ แต่บางคนเห็นแย้ง อ้างว่า มีหมอที่จะฉีดวัคซีนให้ผู้หญิง พูดว่า ถ้าฉีดแล้วเจ็บมีตบ เขายังคุมอารมณ์ได้เลย หรือว่าเห็นเขาเป็นชาวเขาหรือเปล่า บางคนอ้างว่า ถ้าสบายดีจะมาหาหมอทำไม
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สำหรับคนที่ถ่ายคลิปวิดีโอดังกล่าว ทราบชื่อภายหลัง คือ น.ส.จันทรา แสงจันทร์ อายุ 29 ปี ชาวเขาบ้านหนองแขม ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสำนักหนึ่ง อ้างว่าติดใจที่ทำไมแพทย์ไม่ตรวจอาการก่อน ไม่มีใครต้องการมาโรงพยาบาล ถ้าไม่เจ็บป่วยจริง เพราะบ้านอยู่ไกล เดินทางลำบาก คิดว่าแพทย์และโรงพยาบาลต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน ไม่ใช่มาพูดจาแบบนี้ ถ้าเป็นหมอแล้วมาทำกับประชาชนแบบนี้ ก็ไม่ต้องมาเป็นหมอ คนอื่นก็มีหัวใจ ประชาชนไม่สบายก็ต้องไปหาหมอ ถ้าหมอไม่รักษาจะมีหมอไปทำไม
สำหรับสัญญาณอาการฉุกเฉินวิกฤตนั้น สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เคยอธิบายว่า อาการที่ส่งผลต่อชีวิตและอวัยวะสำคัญ ได้แก่
1. หัวใจหยุดเต้น ไม่หายใจ ไม่ตอบสนองต่อการเรียกหรือกระตุ้น ต้องได้รับการกู้ชีพทันที
2. การรับรู้ สติเปลี่ยนไป บอกเวลา สถานที่ คนที่คุ้นเคยผิดเฉียบพลัน
3. ระบบหายใจมีอาการวิกฤต ได้แก่
- ไม่สามารถหายใจได้ปกติ
- หายใจเร็ว แรง และลึก
- หายใจมีเสียงดังผิดปกติ
- พูดได้แค่สั้นๆ หรือร้องไม่ออก ออกเสียงไม่ได้
- สำลัก อุดทางเดินหายใจ กับมีอาการเขียวคล้ำ
4. ระบบไหลเวียนเลือดวิกฤต อย่างน้อย 2 ข้อ ดังนี้
(__) ตัวเย็นและซีด
(__) เหงื่อแตกท่วมตัว
(__) หมดสติชั่ววูบ หรือวูบเมื่อลุกหรือยืน
5. อวัยวะฉีกขาด เสียเลือดมาก เสี่ยงต่อการพิการ
6. อาการอื่นๆ ที่มีภาวะเสี่ยงต่อชีวิตสูง เช่น เจ็บหน้าอกรุนแรง แขนขาอ่อนแรงทันทีทันใด ชักเกร็ง
สำหรับลักษณะอาการฉุกเฉินที่ควรไปโรงพยาบาล หรือ โทร.แจ้ง 1669 ได้แก่
1. หมดสติ ช็อก สะลึมสะลือ เรียกไม่รู้สึกตัว
2. เจ็บหน้าอก หายใจเหนื่อย
3. สิ่งแปลกปลอมอุดตันทางเดินหายใจ
4. ปากเบี้ยวอ่อนแรงเฉียบพลัน
5. ชักเกร็ง ชักกระตุก
6. ปวดท้องรุนแรง
7. ตกเลือด เลือดออกทางช่องคลอด
8. เจ็บท้องคลอด คลอดฉุกเฉิน
9. บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เช่น รถชน จมน้ำ ไฟฟ้าช็อต ไฟไหม้ สัตว์มีพิษกัดต่อย
อนึ่ง การใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปในโรงพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ หากนำไปเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 และ 16 และหากถ่ายติดเจ้าหน้าที่โดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วนำไปเผยแพร่ยิ่งมีความผิดอีก